ผล DNA 'ด.ช.วัย2ขวบ' เป็นลูก 'แม่ปุ๊ก' จริง เร่งสอบบัญชีหมุนเวียน 15 ล้านเหลือหลักร้อย

ผล DNA 'ด.ช.วัย2ขวบ' เป็นลูก 'แม่ปุ๊ก' จริง เร่งสอบบัญชีหมุนเวียน 15 ล้านเหลือหลักร้อย

ผลตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอ "เด็กชาย" วัย 2 ขวบ เป็นลูกของ "แม่ปุ๊ก" จริง เร่งตรวบสอบบัญชีหมุนเวียน 15 ล้านเหลือหลักร้อย เช็คบัญชีพ่อ-แม่ด้วย เผยผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมคดีฉ้อโกงมาก่อน 2-3 คดี

หลังจากแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ได้ออกมาระบุว่า ด.ญ. วัย 4 ขวบ บุตรบุญธรรม และ ด.ช. วัย 2 ขวบ ทั้งสองคนที่อยู่ในความดูแลของ น.ส.นิษฐา หรือ แม่ปุ๊ก วัย 29 ปี มีลักษณะอาการป่วยเพราะได้รับสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน

โดยพนักงานสอบสวนได้นำสารเคมีของเหลวที่พบภายในบ้านไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมกับมีการนำดีเอ็นเอของ ด.ช. ส่งไปตรวจพิสูจน์หาความชัดเจนว่า เป็นแม่ลูกกันจริงหรือไม่นั้น

ล่าสุด วันที่ 26 พฤษภาคม แหล่งข่าวระดับสูงภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุแล้วว่า กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่พิสูจน์ดีเอ็นเอยืนยันอัตลักษณ์บุคคล จากผลห้องปฎิบัติการระบุว่า นางนิษฐา หรือแม่ปุ๊ก กับ เด็กชายวัย 2 ขวบนั้นเป็นแม่ลูกกันจริงๆ โดยสายเลือด ขณะที่ผลตรวจสารเคมีนั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจแยกสารอย่างละเอียด คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ผลพิสูจน์จะออกอย่างละเอียด

สำหรับอาการของด.ช.นั้น ล่าสุดอาการปลอดภัย แข็งแรงดีขึ้นแล้ว โดยทาง พม. ได้รับเด็กชายคนนี้ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว


อ่านข่าว :  เส้นทางเงิน 'แม่ปุ๊ก' กองปราบฯ พบไม่สอดคล้องค่ารักษาพยาบาล

เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินรับโอน 5 บัญชี

วันนี้ (26 พฤษภาคม 2563) พลตำรวจตรีจิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าคดีนางสาวปุ๊ก ที่ต้องสงสัยวางยาเด็ก 2 คน เพื่อหลอกรับเงินบริจาค โดยระบุว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินจากบัญชีรับโอนเงินทั้ง 5 บัญชี ที่เบื้องต้นพบว่าระหว่างปี 2561-2563 หรือตั้งแต่เปิดบัญชีมา มีเงินหมุนเวียนรวมกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นยอดเงินที่มาจากการรับบริจาครักษาอาการป่วยของเด็กทั้ง2คน กับเงินขายสินค้าต่างๆ แต่ขณะที่ตำรวจอายัดบัญชี กลับมียอดคงเหลืออยู่ภายในบัญชีเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบต่อว่าเงินถูกยักย้ายถ่ายเทไปที่บัญชีใครบ้าง หรือถูกโอนเข้าบัญชีพ่อและแม่ของนางสาวปุ๊กหรือไม่

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบว่านางสาวปุ๊กมีพฤติกรรมติดการพนัน แต่เชื่อว่าอาจมีการรับเด็กเล็กมาอุปการะ และใช้ความน่าสงสารในการหาประโยชน์ เพราะที่ผ่านมามีประวัติถูกจับกุมคดีฉ้อโกงทรัพย์ตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 2-3 คดีแล้ว ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่านางสาวปุ๊กเคยเข้ารับการรักษาปัญหาสุขภาพจิต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมานั้น ตำรวจยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดและอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ แต่จากการสอบปากคำที่ผ่านมา ผู้ต้องหาก็ยังให้การเหมือนคนปกติ มีสติสัมปัชชัญญะดี ไม่พบอาการคล้ายการป่วยทางจิตใดๆ เชื่อว่าไม่น่าจะกระทบต่อรูปคดี

ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอระหว่างแม่ปุ๊ก กับ ด.ช. วัย 2 ขวบ เป็นแม่ลูกจริงๆนั้น ยังไม่ได้รับรายงานผลการตรวจ จากกองพิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ตรวจสอบบ้านแม่น้อง อ.

จากกรณีตำรวจกองปราบปรามจับกุม น.ส.นิษฐา หรือแม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี หลังถูกแจ้งความฉ้อโกงประชาชน และสืบทราบว่ารับน้องอมยิ้ม และน้องอิ่มบุญ มาเลี้ยง และเด็กมีอาการป่วยหนัก แม่ปุ๊ก จึงได้เปิดขอรับบริจาค ผ่านบัญชีธนาคารของ น.ส.เอม เพื่อเป็นช่องทางการขอบริจาคเงินช่วยเหลือ ก่อนที่น้องอมยิ้มจะเสียชีวิต โดยจากการกลืนสารพิษ

โดยทางผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปตรวจสอบ บริเวณหลังโรงสีข้าวเก่า บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ในต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.เอม ที่เคยพักอาศัย โดยการเข้าพูดคุย ไม่แต่พบตัวของ น.ส.เอม และพ่อแม่ ที่ออกไปทำงาน พบเพียงญาติที่ขอสงวนการเข้าถ่ายพื้นที่ในบ้าน และเด็ก และได้สอบถามข้อมูล พบว่าน.ส.เอม มีบุตรเป็นลูกชายคนเดียว อายุ 5 ขวบ ที่ฝากให้ตากับยาย ที่เลี้ยงอยู่ในบ้าน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร

นายสะท้าน ญาติของน.ส.เอม ระบุว่า นางสาวเอม นานๆจะกลับมาที่บ้าน โดย ได้นำลูกชายวัย 5 ขวบ มาฝากไว้กับตาและยาย เลี้ยงดู โดยญาติยืนยันว่านางสาวเอมมีลูกคนเดียว ที่ฝากเลี้ยงไว้ ไม่มีเด็กอื่นเพิ่ม นอกจากลูกชายคนเดียว

ขณะที่นางประกอบ พรธาดาวิทย์ กำนัน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร กล่าวว่า นางสาวเอม นิสัยดี มีจิตใจดี โดยทราบข่าวว่านางสาวเอมได้เข้าเรียนต่อทางการแพทย์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งฐานะทางบ้านพอกินพอใช้ พ่อและแม่ทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และจากการตรวจสอบในหมู่บ้าน พบว่านางสาวเอม มีบุตรชายคนเดียว และไม่มีเคยเห็นว่า ครอบครัวนี้ มีเด็กมาเลี้ยงเพิ่ม จากเด็กชาย วัย 5 ขวบ ที่อยู่ปัจจุบัน