'ปณิธาน' เผยรูปแบบ มาตรการพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เน้นควบคุมปชช.อยู่ในพื้นที่

'ปณิธาน' เผยรูปแบบ มาตรการพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เน้นควบคุมปชช.อยู่ในพื้นที่

"ปณิธาน" เผยรูปแบบ มาตรการพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เน้นควบคุมปชช.อยู่ในพื้นที่ เผยทำแผนเตรียมพร้อมแห่งชาติ ระดม สมช.ลูกเสือเอกชน กำลังสำรองอาสาสมัคร มาปรับใช้ หวังกราฟผู้ติดเชื้อลดลง

นายปณิธาน วัฒนายากร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรี และอาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์ ระบุถึงการออกประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 ว่า การออกพระราชกำหนดฉุกเฉิน จะมีอำนาจในการห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน หรือประกาศเคอร์ฟิว ซึ่งในประกาศ พ.ร.ก.ดังกล่าวก็จะมีอำนาจที่ใช้ได้ หลายอย่าง ส่วนอำนาจใดจะใช้หรือไม่ใช้นั้นขึ้นอยู่กับคำสั่งที่จะออกมา แต่ด้วยอำนาจของ พ.ร.ก. ฉุกเฉินอาจ มีการขอยึดพื้นที่ ต่างๆใช้เป็นโรงพยาบาลได้ รวมถึงสั่งปิดตึกที่มีคนทำงานเป็นจำนวนมากและเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อเป็นต้น ซึ่งคำสั่งจะทยอยออกมา

ทั้งนี้ รูปแบบของคำสั่งดังกล่าวขณะนี้กำลังหารือกันอยู่ เนื่องจากเป็นสถานการณ์ใหม่ แต่มีการเตรียมไว้บ้างแล้ว ซึ่งรูปแบบคือต้องควบคุมให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่ให้ได้ ยกเว้นคนที่ต้องทำงานไปโรงพยาบาลผลิตอาหาร เป็นต้น ซึ่งจะมีคำสั่งครอบคลุมอีกแบบหนึ่ง โดยใครไม่มีหน้าที่อะไรก็ต้องอยู่กับบ้าน เพื่อเป็นการตัดวงจรการแพร่เชื้อ พร้อมขอให้รอรายละเอียดทั้งหมดผ่านการประกาศ ในวันที่ 26 มีนาคมนี้ เนื่องจากขณะนี้เองยังมีบางเรื่องนั้นไม่ลงตัว โดยคาดการณ์ว่าคำสั่งจะมีการควบคุมการทำกิจกรรมในเวลากลางคืนที่ไม่จำเป็น ซึ่งขณะนี้เองก็มีการปิดสถานบันเทิง ก็ทำให้สามารถตัดวงจรได้ไปอย่างหนึ่ง รวมไปถึงการทำกิจกรรมกลางวันบางอย่าง อย่างเช่นกิจกรรมด้านวัฒนธรรม หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ โดยคำสั่งนี้จะเพิ่มอำนาจให้สามารถสั่งห้ามได้ รวมไปถึงการข้ามเขตจังหวัดการห้ามเดินทาง เป็นต้น

นายปณิธาน ยังระบุอีกว่า ขณะนี้ไม่ได้มีปัญหาติดขัดแต่อย่างใด รอเพียงการประสานกับพื้นที่จังหวัดต่างๆเพื่อรองรับและควบคุมผู้ที่เดินทางกลับ ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯให้เป็นเรื่องที่แต่ละภาคส่วนต้องตกลงกัน ซึ่งจะมีการประชุมปรับการออกคำสั่งทุกวัน โดยจะไม่เหมือนลักษณะการห้ามชุมนุมทางการเมือง ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ คือจะมีการระดมอาสาสมัครมาร่วม โดยเป็นการ ทำตามแผนการเตรียมพร้อมแห่งชาติ ระดมสรรพกำลังของสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ที่ปกติจะมีการซักซ้อมทุกปีในการรับมือโรคระบาด ภัยพิบัติ สงคราม โดยจะดึงเอาลูกเสือเอกชนรวมไปถึงกำลังสำรองมาปรับใช้

ส่วนประกาศคำสั่งดังกล่าวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายปณิธานยอมรับว่ามีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากมีพ.ร.ก.อยู่แล้วและอาจต้องมีการขยายออกไปทุกพื้นที่และมีการเพิ่มคำสั่งออกมาอีกภายหลัง ซึ่งบางคำสั่งต้องเกี่ยวข้อง กับเรื่องกิจกรรมทางศาสนาและการเดินทางไปมาของประชาชน ซึ่งขณะนี้เอง บุคลากรทางสาธารณสุขติดเชื้อในพื้นที่ 3 จังหวัดแล้วทำให้มีการปิดพื้นที่ จึงมีความท้าทายเป็นอย่างมาก และขณะนี้เองทางสมช.ได้มีการประชุมหารือทุกวันเป็นระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือซึ่งขณะนี้อยู่ในกรอบการลด กำลังการทำงานแต่หากมีการประกาศพ.ร.ก. ออกไปก็ต้องเรียกกำลังพลกลับมาทำงานเต็มกำลัง โดยมองว่าขณะนี้เองยังไม่เหมาะสมหากจะมีการสับเปลี่ยนกำลังในพื้นที่ 3-4 สัปดาห์แรกเนื่องจากเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่จะต้องทำให้กราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อนั้นลดลง เพื่อให้สถานการณ์นั้นคลี่คลาย