รู้จัก ‘เซมเมลไวส์’ ผู้บุกเบิกการล้างมือป้องกันโรค

อิกนาซ เซมเมลไวส์ อาจไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ตอนนี้กลายเป็นชื่อที่หลายคนให้ความสนใจ หลังมีการระบาดของโรคโควิด-19 แม้แต่หน้าเว็บกูเกิลยังนำรูปการ์ตูนของเขามาเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ความสำคัญของการหมั่นล้างมือเพื่อป้องกันเชื้อโรค
อิกนาซ ฟิลิปป์ เซมเมลไวส์ (ค.ศ. 1818-1865) เป็นแพทย์ชาวฮังการีเชื้อสายเยอรมัน เกิดที่กรุงบูดาเปสต์ หรือในยุคนั้นเรียกว่าเมืองบูดา เขาเป็นผู้บุกเบิกการทำให้ปราศจากเชื้อมาใช้เป็นครั้งแรกเมื่อราวปี 1847
ในยุคนั้นยังไม่มีใครรู้จักว่า จุลินทรีย์เป็นตัวทำให้เกิดโรค เซมเมลไวส์แนะนำให้ล้างมือและเครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนเสื้อผ้าทั้งของแพทย์ และของผู้ป่วยเองให้สะอาด และแช่มือในน้ำยาคลอรีน การค้นพบของเขาได้ช่วยชีวิตของหญิงที่คลอดบุตรในโรงพยาบาลกลางของกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียไว้มากมาย
สำหรับประวัติคร่าว ๆ ของเซมเมลไวส์ เขาจบการศึกษาปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวียนนาในปี 1844 เมื่อเริ่มเป็นผู้ช่วยของศาสตราจารย์ประจำแผนกสูตินารีในโรงพยาบาลเวียนนา ในปี 1846 เซมเมลไวส์ได้พบเจอกับเรื่องจริงที่น่าตกใจ คือ มีผู้หญิงมากกว่า 13% ที่คลอดลูกแล้วเสียชีวิตเพราะโรคติดเชื้อหลังคลอด
มีการเสนอทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับสาเหตุของโรคนี้ แต่ไม่มีใครไขปริศนาได้ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต แต่ก็ยังไร้ผล เซมเมลไวส์ทุกข์ใจมากที่เห็นแม่หลายคนต้องทุกข์ทรมานและตายอย่างช้า ๆ จึงตั้งใจหาสาเหตุและป้องกันโรคนี้ให้ได้
โรงพยาบาลที่เซมเมลไวส์ทำงานอยู่มีตึกของแผนกสูตินรีเวชอยู่ 2 ตึก ตึกที่ 1 มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าตึกที่ 2 มาก สิ่งเดียวที่ต่างกันก็คือตึกที่ 1 เป็นที่ที่ใช้สอนนักศึกษาแพทย์ ส่วนตึกที่ 2 เป็นที่ทำงานของพวกพยาบาลผดุงครรภ์
“ทำไมอัตราการตายจึงแตกต่างกันมาก?” เซมเมลไวส์ตั้งคำถามกับตัวเองเพื่อหาคำตอบ และสืบหาสิ่งที่คิดว่าเป็นสาเหตุของโรคและตัดสิ่งที่คิดว่าไม่ใช่ออกไป แต่อัตราการตายก็ยังไม่ลดลง
ต้นปี 1847 เซมเมลไวส์พบเบาะแสที่สำคัญมาก นายแพทย์จาค็อบ โคเลชกา ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานของเขาเสียชีวิตจากโลหิตเป็นพิษ หลังได้รับบาดแผลขณะชันสูตรศพ เมื่อเซมเมลไวส์อ่านรายงานผลก็พบว่าสาเหตุการตายของโคเลชกาเหมือนกับผู้หญิงที่เป็นโรคติดเชื้อหลังคลอด
เซมเมลไวส์จึงคิดว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคติดเชื้อหลังคลอดอาจได้รับสิ่งที่เขาคิดว่าเป็น “พิษ” จากศพ ปกติแล้วแพทย์กับนักศึกษาแพทย์จะชันสูตรศพก่อนแล้วค่อยไปห้องทำคลอด พวกเขาอาจนำเชื้อโรคไปสู่คนที่เป็นแม่โดยไม่รู้ตัวขณะที่ทำคลอด สถิติการเสียชีวิตของตึกที่ 2 ต่ำกว่าเพราะนักศึกษาพยาบาลไม่ต้องชันสูตรศพ
เซมเมลไวส์ตั้งกฎอย่างเข้มงวดทันทีว่าให้มีการล้างมือ ซึ่งรวมถึงการล้างมือด้วยคลอรีนก่อนเริ่มทำคลอด ผลที่ได้เกินความคาดหมาย อัตราการเสียชีวิตลดลงจาก 18.27% ในเดือนเมษายน เป็น 0.19% ตอนสิ้นปี
ไม่ใช่ทุกคนชอบใจกับความสำเร็จของเซมเมลไวส์ ผลลัพธ์ที่เขาค้นพบขัดแย้งกับทฤษฎีของหัวหน้าของเขาเกี่ยวกับโรคติดเชื้อหลังคลอด นอกจากนั้น หัวหน้าก็ยังไม่ชอบนิสัยยืนกรานของเซมเมลไวส์ด้วย
ในที่สุด เขาก็สูญเสียตำแหน่งในเวียนนา เขาจึงกลับไปที่ฮังการีแล้วได้เป็นอาจารย์สอนวิชาผดุงครรภ์ที่โรงพยาบาลเซนต์โรคัสในบูดาเปสต์ ซึ่งวิธีการของเขาทำให้อัตราโรคติดเชื้อหลังคลอดลดลงเหลือไม่ถึง 1%
เมื่อปี 1861 เซมเมลไวส์ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับงานของเขาชื่อ "สาเหตุ แนวคิด และการป้องกันโรคติดเชื้อหลังคลอด" น่าเสียดายที่ไม่มีใครสนใจความสำคัญของการค้นพบของเขาจนกระทั่งเวลาผ่านไปนานหลายปี ในระหว่างนั้น มีชีวิตนับไม่ถ้วนต้องดับสูญไปอย่างน่าเศร้าทั้งที่ควรจะปกป้องได้
ในที่สุด เซมเมลไวส์ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งเทคนิคการฆ่าเชื้อสมัยใหม่” งานของเขาช่วยให้รู้ว่าจุลชีพอาจก่อให้เกิดโรคได้ และยังเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การคิดค้นทฤษฎีที่ว่าโรคเกิดจากเชื้อโรค ซึ่งถูกเรียกว่าเป็น “สิ่งสำคัญที่สุดในวิทยาศาสตร์การแพทย์และเวชปฏิบัติ”
ขณะนี้บนหน้าเว็บไซต์กูเกิล แพลตฟอร์มเสิร์ชเอ็นจินชื่อดังกำลังร่วมรณรงค์ถึงความสำคัญของการล้างมือเพื่อป้องกันเชื้อโรค โดยทำ “กูเกิล ดูเดิล” (Google Doodle) ซึ่งเป็นคลิปสอนล้างมือความยาวประมาณ 50 วินาทีบนหน้าเว็บ เพื่อให้ความรู้วิธีการล้างมือง่าย ๆ กับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
และบุคคลที่กูเกิลเลือกใช้ก็คือ เซมเมลไวส์ แพทย์ชาวฮังการีผู้บุกเบิกการทำหัตถการปลอดเชื้อ โดยคลิปดังกล่าวจะแนะนำแนวทางการล้างมือที่ถูกต้องตามหลักการเดียวกับที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาตรการทั่วโลกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้
-------------------------------------------
ที่มา:







