อุตฯอัญมณีดึงเทคโนโลยีดิจิทัล ปรับตัวรับวิกฤตโควิด-19

อุตฯอัญมณีดึงเทคโนโลยีดิจิทัล   ปรับตัวรับวิกฤตโควิด-19

ความหวาดกลัวต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา นำไปสู่โรค โควิด-19 ที่จนถึงขณะนี้สถานการณ์มีแต่จะรุนแรงขึ้น ทำให้หลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องเลื่อนหรือยกเลิกไป

ความหวาดกลัวต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา  นำไปสู่โรค โควิด-19 ที่จนถึงขณะนี้สถานการณ์มีแต่จะรุนแรงขึ้น ทำให้หลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องเลื่อนหรือยกเลิกไป แต่งานใหญ่ประจำปีอย่างงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (บางกอกเจมส์) ครั้งที่ 65 จัดระหว่างวันที่25-29 ก.พ.2563 จัดโดยกระทรวงพาณิชย์นั้น ยังคงเดินหน้าตามกำหนดการเดิมทุกประการ

หลังพิธีเปิดงาน พบว่าบรรยากาศในศูนย์แสดงสินค้ามีผู้เข้าร่วมงานต่อแถวจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยพยาบาลตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ร่วมงานและส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมงานก็จะใช้หน้ากากอนามัย 

สมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า บรรยากาศการจัดงานบางกอกเจมส์ครั้งที่ 65ค่อนข้างคึกคักกว่าที่คาดการณ์ไว้มีผู้ลงทะเบียนล่วงหน้า 2,500รายส่วนใหญ่ไม่ยกเลิกเข้าร่วมงานแม้ว่าในหลายๆประเทศได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19

โดยต่างชาติที่เข้าร่วมมากที่สุดคืออินเดีย รองลงมาเป็น กลุ่มซีแอลเอ็มวี ตะวันออกกลาง สหรัฐ จีน และยุโรป ดังนั้นคาดว่าตลอดทั้งงานจะมีผู้ร่วมชมงานทั้งคนไทยและต่างประเทศกว่า 10,000 คน ลดลงจากปีก่อนที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 15,000 คน แต่ก็คาดว่า  จะมียอดการซื้อขายภายในงานประมาณ 2,400 ล้านบาท

“เท่าที่คุยกับผู้ประกอบการที่ร่วมงานพบว่าแม้ว่าหลายฝ่ายยังกังวลกับไวรัสโควิด-19 แต่ตอนนี้ลูกค้าจำนวนมากต้องการสินค้าทำให้ผู้นำเข้าจำเป็นต้องเร่งหาสินค้าเพื่อรองรับรองรับความต้องการในตลาดต่างๆ ที่สำคัญงานก่อนหน้านี้ที่ฮ่องกงได้เลื่อนการจัดงานออกไป”

การจัดงานครั้งนี้ ย้ำภาพว่าไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณี โดยปีนี้ประเทศไทยตั้งเป้าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ขยายตัว 1%ซึ่งไม่รวมทองคำ หรือมีมูลค่าประมาณ 500,000ล้านบาท ขณะเดียวกันกรมฯ ได้พยายามหาช่องทางการตลาดชดเชยกิจกรรมส่งเสริมการค้าที่อาจต้องลดลง เช่น การใช้ช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆทั้งในและต่างประเทศเพื่อ ชดเชยในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สุริยน  ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการบิวตี้ เจมส์จำกัด  กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด ก็ส่งผลกระทบไปทุกอุตสาหกรรม แต่เรายังโชคดีที่มีลุูกค้าอย่างต่อเนื่องและงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่จัดขึ้นก็เป็นเรื่องที่ีดีที่ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนต่อเนื่อง ซึ่งงานแสดงสินค้าของฮ่องกงเองก็เลื่่อนไปถือเป็นจังหวะที่ดีของไทย โดยลูกค้าหลักของบริษัทก็เป็นสหรัฐ ยุโรป  ญุ่ีปุ่น  

“กลุ่มลูกค้าญีุ่่ปุนเองที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิค-19 ก็ไม่ได้เดินทางมาร่วมงาน แต่เราก็ปรับกลยุทธ์การตลาดด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ไลน์ วีดีโอคอนเฟอร์เรน  ซึ่งสามารถสั่งออเดอร์ได้ทันที รวมทั้งการส่งคนไปเจรจา เป็นต้น ขณะที่จีนเราก็ส่งสินค้าผ่านเอเย่นต์อยู่แล้ว” 

 การระบาดของโรคโควิด-19 กระทบไปทั้งโลกแต่ด้วยที่เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้การทำการค้าง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งคอลเล็กชั่นใหม่ๆผ่านไลน์  ซึ่งลูกค้าบางรายก็สั่งสินค้าเพิ่ม แม้จะมีเทคโนโลยีช่วยทำการค้าแล้ว แต่งานแสดงสินค้าก็ควรมี เพราะเป็นการแสดงศักยภาพของประเทศท่ามกลางสภาวะเช่นนี้ที่ทั่วโลกงดหรือเลื่อนออกไป แต่ไทยสามารถจัดได้และควบคุมสถานการณ์ได้ และพบว่าได้รับการตอบรับดีมีผู้คนเข้ามาต่อแถวเพื่อเข้าร่วมงานอยู่อย่างต่อเนื่อง

ขวัญจิตต์ อินทรวารี บริษัทดวงแก้วจิวเวลรี่ จำกัด กล่าวว่า ยอมรับว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนหายไปเกือบหมด ส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่าย ที่เห็นชัดเจนคือต้นเดือนก.พ. 

“ยอดจำหน่ายหายไปถึง 50 % บริษัทก็ต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปรับขนาดของสินค้าให้เล็กลง และดีไซน์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น”

ขณะนี้กำลังนำสินค้าใหม่ออกทดสอบตลาดเพื่อประเมินว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าหรือไม่ อย่างไรก็ตามก็ยังเชื่อว่าตลาดอัญมณีและเครื่องประดับก็ยังสามารถเติบโตได้อีก 

เดชา นันทนเจริญกุล  รองกรรมการผู้จัดการบริษัทแพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ในส่วนของบริษัทคาดว่าจะกระทบในระยะสั้น ซึ่งเท่าที่ดูลูกค้าก็อยู่ในระหว่างการชะลอการซื้อเท่านั้น 

“บริษัทก็ปรับตัวด้วยการพูดคุยเจรจาทางอื่น ที่ไม่ใช่การพบปะเจรจากันแบบตัวต่อตัวเพราะลูกค้ากลัวการเดินทาง กลัวการพบปะพูดคุยเราก็ใช้เทคโนโลยีมาช่วย เช่น คุยผ่านทางไลน์ ผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรน”

นอกจากนี้ ได้เน้นการพัฒนาสินค้าตามออเดอร์  เมื่อมีแบบหรือคอเล็กชั่นใหม่เราก็นำเสนอผ่านเทคโนโลยีไปยังลูกค้าโดยไม่เดินทางไปโรดโชว์ สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบ ทำให้ทุกคนระมัดระวังและไม่เดินทางออกนอกประเทศ ต้นปียังไม่เห็นชัดเท่าไร แต่ต้นก.พ.เริ่มเห็นชัดมากขึ้นเพราะยังไม่เห็นว่าการควบคุมการระบาดจะได้