คาดราคาน้ำมันโลกแตะ 80 ดอลล์ หากตึงเครียดบานปลาย

คาดราคาน้ำมันโลกแตะ 80 ดอลล์ หากตึงเครียดบานปลาย

นักวิเคราะห์คาด ราคาน้ำมันโลกอาจพุ่งถึง 80 ดอลลาร์/บาร์เรล หากสถานการณ์ตะวันออกกลางลุกลามกระทบการผลิต

บรรดานักวิเคราะห์ของ “ยูเรเซีย กรุ๊ป” (Eurasia Group) บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยง เผยกับเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น บิสสิเนสวันนี้ (4 ม.ค.) ว่า ราคาน้ำมันดิบโลกอาจพุ่งขึ้นถึงระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากความขัดแย้งครั้งใหม่ในตะวันออกกลางลุกลามจนส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในอิรักหรือส่งผลกระทบกับการขนส่งน้ำมันทางเรือในอ่าวเปอร์เซีย

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นท่ามกลางความวิตกว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะกระทบการผลิตน้ำมันและปริมาณน้ำมันในตลาดโลก หลังสหรัฐได้ใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศที่สนามบินนานาชาติกรุงแบกแดดของอิรักในช่วงเช้าวันศุกร์ (3 ม.ค.) ส่งผลให้นายพลกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส รองผู้นำกองกำลังฮาชด์ชาบีของอิรัก เสียชีวิต

ด้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศพร้อมตอบโต้สหรัฐ ขณะที่นายอาเดล อับดุล มาห์ดี รักษาการนายกรัฐมนตรีอิรัก กล่าวประณามการโจมตีดังกล่าว โดยมองว่าเป็นการแสดงความก้าวร้าวกับรัฐบาลและชาวอิรัก

สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของอิรักลดลงหลังกองทัพที่นำโดยสหรัฐบุกอิรักในปี 2556 แต่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การผลิตได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนแตะระดับ 4.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปลายปี 2562

ขณะที่ อัมริตา เซน นักวิเคราะห์ของเอ็นเนอร์จี แอสเปคท์ส (Energy Aspects) บริษัทวิจัยของอังกฤษระบุว่า หากการผลิตน้ำมันทางภาคใต้ของอิรักได้รับผลกระทบ ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะหาน้ำมันทดแทน เนื่องจากน้ำมันดิบของอิรักหนักกว่าน้ำมันดิบในรูปแบบอื่น ๆ ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันทางเลือกถูกปรับลดลงอย่างมาก

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การขนส่งน้ำมันราว 20 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่องแคบฮอร์มุซอาจถูกคุกคามจากการตอบโต้ของอิหร่าน โดยเมื่อปีที่แล้ว มีการโจมตีเรือ 2 ลำในช่องแคบโอมานซึ่งลำหนึ่งบรรทุกน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในช่วงเวลานั้น

ด้าน ออสวัลด์ คลินท์ นักวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมน้ำมันของเบิร์นสตีน (Bernstein) บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนของสหรัฐเปิดเผยว่า มีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจช่วยหนุนราคาน้ำมันด้วย อาทิ การผลิตน้ำมันดิบจากหินที่ชะลอลงในสหรัฐ และการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศลดการผลิตน้ำมันลงอีกในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันของเวเนซุเอลายังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว ในขณะที่ประเทศยังคงเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เบิร์นสตีนได้ตั้งเป้าหมายราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้ไว้ที่ระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว และระบุว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับแนวโน้มราคาน้ำมันในตอนนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำมันยังไม่ได้รับผลกระทบ