'ไลน์แมน' ชี้แรงส่ง 'คนละครึ่ง พลัส' ดันยอดฟู้ดดิลิเวอรีโต 4 เท่า

'ไลน์แมน' ชี้แรงส่ง 'คนละครึ่ง พลัส' ดันยอดฟู้ดดิลิเวอรีโต 4 เท่า

“ไลน์แมน วงใน” ชี้ธุรกิจร้านอาหารปลายปี 2025 ฟื้นตัวชัด แรงส่งโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ดันยอดร้านโตเฉลี่ย 4 เท่าทั่วประเทศ

KEY

POINTS

  • โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ช่วยกระตุ้นยอดขายร้านอาหารทั่วประเทศให้เติบโตขึ้นเฉลี่ย 4 เท่า
  • ร้านขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการมียอดขายเติบโตสูงถึง 5.9 เท่า 
  • จังหวัดเมืองรองมียอดขายเติบโตพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับย่านเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ ที่ยังไม่ฟื้นเต็มตัว
  • LINE MAN ทำยอดขายคนละครึ่งพลัสคิดเป็น 63% มากที่สุดในตลาด รวมกว่า 8 ล้านออเดอร์ ภายใน 3 สัปดาห์ 
  • เมนูที่มียอดสั่งสูงสุด 5 อันดับแรกคือ ชาไทย, ตำปูปลาร้า, ชาเขียวนม, โกโก้ และ ตำป่า

ไลน์แมน วงใน รายงานว่า ปลายปี 2568 ได้เห็นสัญญาณฟื้นตัวของธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย หลังผ่านครึ่งปีแรกที่ซบเซาหนัก จากกำลังซื้อที่อ่อนแรง ต้นทุนอาหารสูง ทำให้ยอดขายตกลงอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลล่าสุดจาก Wongnai POS (ยอดขายหน้าร้าน) และแพลตฟอร์ม LINE MAN (ยอดขายดิลิเวอรี) สะท้อนว่าโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและอัดฉีดร้านเล็กให้โตได้จริง

โดยเฉพาะจังหวัดเมืองรองมียอดขายเติบโตพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับย่านเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ ที่ยังไม่ฟื้นเต็มตัว

'ไลน์แมน' ชี้แรงส่ง 'คนละครึ่ง พลัส' ดันยอดฟู้ดดิลิเวอรีโต 4 เท่า

ร้านอาหารพลิกกลับมาบวกใน Q4 หลังจมดิ่งใน Q2

ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เผยว่า ครึ่งปีแรก 2568 ถือเป็นช่วงต่ำสุดของธุรกิจร้านอาหาร

โดยพบว่า ยอดขายต่อร้าน (sales per store) หดตัวหนักถึง -14% ใน Q2 แต่หลังจากเข้าสู่ครึ่งปีหลัง ตลาดเริ่มกลับมาเป็นบวก โดย Q3 โต +1% และ Q4 (ข้อมูลเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) กลับมาโต +5% สะท้อนการกลับมาของกำลังซื้อในวงกว้าง หลังแรงส่งของโครงการคนละครึ่ง พลัส”

แม้จำนวนร้านเปิดใหม่เพิ่มขึ้น 3% ในครึ่งปีหลังแต่อัตราร้านที่ปิดตัวลงยังอยู่ที่ 50% ถือว่าคงตัวจากครึ่งปีแรก แปลว่าธุรกิจร้านอาหารยังแข่งขันหนักและได้รับผลกระทบหนักจากต้นทุนที่สูง

'คนละครึ่ง พลัส' ดันกำลังซื้อพุ่ง-ร้านเล็กโตเกือบ 6 เท่า

ไลน์แมนพบว่า มาตรการรัฐช่วยปลดล็อกกำลังซื้อในวงกว้าง ทำให้เงินสะพัดสู่ฐานรากตั้งแต่ร้านเล็กจนถึงไรเดอร์ โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจจากโครงการคนละครึ่ง พลัส ดังนี้

  • LINE MAN เป็นแพลตฟอร์มดิลิเวอรีหลักของโครงการ โดย 65% ของร้านที่เข้าโครงการเลือกขายบน LINE MAN และทำยอดขายคนละครึ่ง พลัสคิดเป็น 63% มากที่สุดในตลาด
  • เกิดยอดออเดอร์คนละครึ่งรวมกว่า 8 ล้านออเดอร์ ภายใน 3 สัปดาห์ 
  • ยอดขายร้านค้าทั่วประเทศ เติบโตเฉลี่ย 4.2 เท่า และเติบโตสูงสุดมากกว่า 10 เท่า สูงกว่าโครงการคนละครึ่งในรอบที่ผ่านมา 
  • คนละครึ่ง พลัส ช่วยขยายฐานผู้ใช้และกระตุ้นกำลังซื้ออย่างชัดเจน ร้านค้าได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น +22% ความถี่ในการสั่งบ่อยขึ้น +30% และมูลค่าต่อบิลโต +15%

ที่น่าสนใจคือคนละครึ่ง พลัสช่วยให้ “ร้านเล็ก” (รายได้น้อยกว่า 10,000 บาท/เดือน) เติบโตได้จริง โดยมียอดขายพุ่งถึง 5.9 เท่า เมื่อเทียบกับยอดขายช่วงก่อนโครงการ

ส่วน ร้านขนาดกลาง (รายได้มากกว่า 10,000 บาท/เดือน) เติบโต 2 เท่า ถือเป็นการอัดฉีดของรัฐที่ทำให้เม็ดเงินไหลสู่ร้านรายย่อยอย่างชัดเจน

ฝั่งไรเดอร์เองก็ได้อานิสงส์จากโครงการ มีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15–25% ตามปริมาณออเดอร์ต่อวันที่สูงขึ้น

สำหรับเมนูที่มียอดสั่งสูงสุดผ่านแคมเปญคนละครึ่ง พลัสบน LINE MAN 5 อันดับแรก ได้แก่ ชาไทย, ตำปูปลาร้า, ชาเขียวนม, โกโก้ และ ตำป่า

นอกจากนี้ คนละครึ่งยังทำให้เกิดเมนู “จัดหนัก” ที่มียอดบิลสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ แซลมอน, ทุเรียนหมอนทองแกะเนื้อ, กุ้งเผา, ปูไข่นึ่ง และหมูหัน มูลค่าบิลสูงสุดแตะ 1,700 บาท แสดงว่าผู้บริโภคมองโปรโมชันจากรัฐเป็นโอกาสลองของแพง

'ไลน์แมน' ชี้แรงส่ง 'คนละครึ่ง พลัส' ดันยอดฟู้ดดิลิเวอรีโต 4 เท่า

ต่างจังหวัดฟื้นตัวแรง กรุงเทพฯ ยังไม่ฟื้นเต็มที่

ข้อมูลระบุว่า ช่วง Q4 (เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) ภาพรวมตลาดร้านอาหารในต่างจังหวัดฟื้นตัวแรงกว่ากรุงเทพฯ โดยยอดขายต่อร้านต่างจังหวัดโตเฉลี่ย +7% (จาก -11% ใน Q2)

ขณะที่กรุงเทพฯ โตเพียง +2% (จาก -16% ใน Q2) ด้านเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างเชียงใหม่ (+9%), พัทยา (+12%) และภูเก็ต (+7%) เริ่มฟื้นตามการกลับมาของนักท่องเที่ยว

ผลพวงจากคนละครึ่ง พลัส ที่ดันยอดขายร้านต่างจังหวัดโตสูง จังหวัดที่ทำผลงานโดดเด่น มียอดขายร้านเติบโตสูงที่สุด เมื่อเทียบกับยอดขายช่วงก่อนโครงการ ได้แก่ จันทบุรี (+9.4 เท่า), หนองบัวลำภู (+9.3 เท่า), อุตรดิตถ์ (+8.9 เท่า), อุดรธานี (+8 เท่า) และเชียงราย (+7 เท่า) 

แม้ตลาดภาพรวมจะเริ่มฟื้นช่วงสิ้นปี แต่กรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ที่ฟื้นตัวช้าที่สุด โดย “โซนฮอตสปอต” หลายย่านยังมียอดขายติดลบ ได้แก่

  • ย่านธุรกิจสุขุมวิท-สีลม-สาทร มียอดขายต่อร้าน -19% ใน Q2 และแม้ดีขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน แต่ยังติดลบเล็กน้อยที่ -1% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  • ย่านบรรทัดทอง ชะลอตัวหนักที่สุด ติดลบถึง -35% ใน Q2 และยังติดลบ -21% ในช่วงปลายปี สะท้อนว่าร้านอาหารในย่านยอดนิยมของเมืองหลวงยังต้องเผชิญการแข่งขันและต้นทุนสูงต่อเนื่อง
  • ร้านในห้าง เริ่มเห็นสัญญาณบวก ยอดขายช่วง Q2 ลดลง -21% แต่ดีดตัวขึ้นมาที่ +1% ในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นกลุ่มเดียวในกรุงเทพฯ ที่พลิกกลับมาบวกได้ในช่วงปลายปี

ผู้บริโภค 'เลือกกินคุ้มค่า' เมนูต่ำกว่า 500 บาทยังเป็นพระเอก

ข้อมูลจาก LINE MAN Wongnai ชี้ว่า คนไทย “เลือกกินคุ้มค่า” มากขึ้น กลุ่มเมนูยอดบิลต่ำกว่า 500 บาท ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่า ยอดขายต่อร้านลดลงเพียง -12% ใน Q2 ก่อนจะกลับมาโต +5% ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน

แต่ในทางตรงกันข้าม เมนูที่ยอดบิลสูงกว่า 500 บาทถูกกดดันหนักกว่าในช่วงกลางปี -14% ใน Q2 และเริ่มฟื้นปลายปีเป็น +4% แต่ยังโตน้อยกว่าเมนูราคาถูก แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อระดับกลางยัง “รัดเข็มขัด” ต่อเนื่อง ขณะที่ผู้บริโภคหันมานิยมเมนูราคาจับต้องได้มากขึ้นในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ตึงตัว

สถานการณ์ร้านอาหารปีนี้ แม้ตลาดจะกลับมาเริ่มดีขึ้น แต่พฤติกรรมคนไทย “เลือกกิน” มากขึ้น มุ่งเมนูราคาจับต้องได้ และเพิ่มการใช้จ่ายเฉพาะช่วงที่มีแรงกระตุ้น เช่น คนละครึ่ง พลัส

ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2569 เป็นปีที่ต้องจับตา เพราะเมื่อแรงกระตุ้นจากรัฐหมดลง ตลาดจะรักษาโมเมนตัมเช่นนี้ได้หรือไม่..