ตรึงราคาความหวาน!

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตนมถั่วเหลืองและเครื่องดื่ม น้ำอัดลม ชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกสินค้า 3 เดือนหรือตั้งราคาใหม่วันที่ 1 ม.ค. 63 หลังจากที่สินค้าดังกล่าวมีต้นทุนสูงขึ้นจากภาษีสรรพสามิตมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 62 เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน เบื้องต้นผู้ผลิตนมถั่วเหลืองบางรายพร้อมชะลอปรับขึ้นราคานมถั่วเหลือง 1-2 บาทแล้ว  และคาดว่าในเร็วๆนี้อาจจะมีสินค้าประเภทอื่นให้ความร่วมมือในการชะลอปรับขึ้นราคา เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่มีการบริโภคสินค้ากลุ่มนี้มาก

“นมถั่วเหลืองมี3 ยี่ห้อที่แจ้งขอปรับราคาตามต้นทุนจากภาษีสรรพสามิต โดยภาษีที่ต้องจ่ายก็มีทั้งภาษีความหวาน และภาษีน้ำหวานจากผักและผลไม้ และอื่นๆ อย่างไรก็ตามในภาพรวมพบว่าสินค้าส่วนใหญ่ยังไม่มีการขอแจ้งปรับขึ้นราคาสินค้ายกเว้นสินค้าที่ได้รับผกระทบจากต้นทุนทางภาษีที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของกรมเห็นว่าผู้ผลิตสินค้าแจ้งต้นทุนก็เพิ่มขึ้นและราคาที่จะขอปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกันก็คงต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการเช่นกัน และกรมฯคงทำได้คือการขอความร่วมมือในการชะลอปรับขึ้นราคาออกไป 3 เดือน”

ในส่วนการขอปรับขึ้นราคาสินค้าทั่วไปในขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายรายใดขอปรับขึ้นราคา เนื่องจากต้นทุนการผลิตและค่าบริหารจัดการไม่ได้ปรับขึ้น ประกอบกับตลาดยังไม่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นราคาทำให้ผู้ประกอบการไม่มีการยื่นปรับขึ้นราคา ส่วนที่มีขอยื่นก็จะเป็นสินค้าใหม่ๆที่นำมาจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมก่อนที่จะพิจารณาอนุมัติต่อไป

ในส่วนการขอปรับขึ้นราคาสินค้าทั่วไปในขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายรายใดขอปรับขึ้นราคา เนื่องจากต้นทุนการผลิตและค่าบริหารจัดการไม่ได้ปรับขึ้น ประกอบกับตลาดยังไม่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นราคาทำให้ผู้ประกอบการไม่มีการยื่นปรับขึ้นราคา ส่วนที่มีขอยื่นก็จะเป็นสินค้าใหม่ๆที่นำมาจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมก่อนที่จะพิจารณาอนุมัติต่อไป

นอกจากนี้ี้กรมฯยังมีการติดตามสถานการณ์สินค้าที่ได้รับประโยชน์จากการแข็งค่าของเงิน โดยเฉพาะสินค้านำเข้าหรือใช้วัตถุดิบการผลิตในไทย โดยจะเจรจาให้มีการปรับลดราคาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค ซึ่งสินค้าหลายประเภทก็ยอมปรับลดต้นตามต้นทุน ขณะที่บางรายการยันยันว่าไม่สามารถปรับลดลงได้ เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงต้นทุนปรับตัวสูง แต่บริษัทก็ยังไม่มีการปรับราคา ดังนั้นถือว่าเป็นเฉลี่ยเรื่องของต้นทุนของแต่ละปี  โดยสินค้าที่ได้รับอานิสงส์จากค่าบาทก็หลายประเภทเช่นนั้น เช่น ปุ๋ย และอื่นๆ ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาสินค้าดังกล่าวทางกรมฯก็มีการขอความร่วมมือให้มีการลดราคาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามสินค้าอีกหลายๆชนิดก็ต้องใช้วิธีถัวเฉลี่ย เช่นบางช่วงต้นทุนสูงแต่ก็ยังไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า และเมื่อต้นทุนต่ำก็ไม่ปรับลดราคา เป็นต้น