ดีเอสไอคาดรู้ผลดีเอ็นเอ 'บิลลี่' ใน 3 วัน-เตรียมจำลองเหตุสังหาร

วันนี้ (6 ต.ค.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) เวลา 09.00 น. ที่ดีเอสไอ จะประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าและตรวจสอบความสมบูรณ์ในสำนวนการสอบสวน ส่วนผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ จากชิ้นส่วนกระดูกอีก 8 ชิ้น ที่พบในบริเวณร่องน้ำลึกในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งคาดว่าอีก 2-3 วันจะทราบว่าสามารถสกัดดีเอ็นเอจากเศษกระดูกได้หรือไม่ เนื่องจากชิ้นส่วนระดูกได้รับความเสียหายอย่างมากจากการเผาด้วยความร้อนและนำมาทิ้งถ่วงน้ำเป็นเวลานานหลายปี ซึ่งจะต้องใช้กรรมวิธีทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อสกัดดีเอ็นเอ

"ทั้งนี้หากห้องปฏิบัติการของสถาบันนิติวิทย์ฯไม่สามาถสกัดดีเอ็นเอได้ กระทรวงยุติธรรมจะประสานไปยังหน่วยงานต่างประเทศที่มีห้องปฏิบัติการและเครื่องมือที่ทันสมัยกว่าให้ช่วยตรวจพิสูจน์"

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า สำหรับสำนวนการสอบสวนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นั้น ทราบว่าทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งสำนวนมาถึงดีเอสไอในช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นในวันพรุ่งนี้คณะพนักงานสอบสวนจะได้ตรวจสอบว่า ในประเด็นการปล่อยหรือไม่ได้ปล่อยตัวบิลลี่ พนักงานสอบสวนยังต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมอีกหรือไม่

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะร่วมประชุมกับคณะทำงานคลี่คลายคดีดังกล่าว เพื่อรับทราบและรายงานผลความคืบหน้าทางคดีจากทุกชุดปฏิบัติการ โดยในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ตนและอธิบดีดีเอสไอ จะเดินทางลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่โดยรอบของอุทยาน

ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ประสานขอใช้เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจเพื่อตรวจสอบเส้นทาง เข้า-ออก ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ว่าสามารถเดินทางเข้าออกได้กี่เส้นทาง เพื่อให้สอดคล้องกับการจำลองเหตุการณ์ฆาตกรรมที่ชุดสืบสวนได้จำลองเหตุการณ์ภาคพื้นดิน ตามช่วงระยะเวลาในจุดต่าง ๆ ที่บิลลี่และชุดจับกุมปรากฎตัวและถูกบันทึกภาพไว้ด้วยกล้องวงจรปิด เพื่อทำให้สำนวนคดีมีความรัดกุมมากที่สุด