‘สภาเกษตร’ชูโมเดลเลี้ยงกุ้งอิงธรรมชาติ

 ‘สภาเกษตร’ชูโมเดลเลี้ยงกุ้งอิงธรรมชาติ

สภาเกษตรกรแนะเลี้ยงกุ้งแบบอิงธรรมชาติ ระบบหมุนเวียนเลี้ยงสัตว์น้ำ ชี้ปลอดภัย100%ลดความเสี่ยงจากวิกฤติโรคในกุ้งต่างประเทศนำไปทดลองเลี้ยงวิธีเดียวกัน พบได้ผลผลิตน่าพอใจ

นายเดชา บรรลือเดช ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประมง สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ และประธานกรรมการศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงกุ้งแบบอิงธรรมชาติ เปิดเผยว่าการเลี้ยงกุ้งแบบอิงธรรมชาติที่คิดค้นและจดสิทธิบัตรเป็นนวัตกรรมการเลี้ยงกุ้ง ว่า “การเลี้ยงกุ้งแบบอิงธรรมชาติ” เป็นระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิดจะป้องกันโรคที่เกี่ยวกับกุ้งได้แทบทุกชนิด ซึ่งเริ่มต้นจากช่วงวิกฤติโรค EMS (Early Mortality Syndrome) ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกุ้งของไทยทั้งระบบ

นายเดชากล่าวว่าโดยจากประสบการณ์การเลี้ยงกุ้งกว่า 30 ปี จนนำไปสู่การคิดค้นนวัตกรรมการเลี้ยงกุ้งแบบอิงธรรมชาติดังกล่าว มองว่าระบบนี้สามารถควบคุมได้และมีความเสถียรมากขึ้นเรื่อยๆอย่างไรก็ตามพบว่าเกษตรกรไทยไม่ค่อยสนใจโมเดลนี้จึงน่าเสียดายว่าเกษตรกรไทยไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควรส่วนใหญ่ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงานที่ศูนย์เรียนรู้ฯจะเป็นชาวต่างประเทศมากกว่าที่จะเป็นเกษตรกรไทย

“อยากให้เกษตรกรไทยได้ทดลองใช้ระบบอิงธรรมชาติแล้วต่อยอด มองว่าอนาคตต้องใช้ระบบอิงธรรมชาตินี้ในการเลี้ยงสัตว์น้ำ ระบบนี้อาจไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุดแต่มองว่าเป็นระบบที่ได้ผลและประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง ก้าวข้ามเรื่องโรคไปได้อย่างปลอดภัย"

ทั้งนี้ด้วยบทบาทการผลักดันจากสภาเกษตรกรแห่งชาติที่พยายามทำระบบอิงธรรมชาติให้เป็นที่รู้จักของเกษตรกรทั่วประเทศ สามารถแก้ปัญหาให้เกษตรกรและเป็นระบบที่ทดลองทำและใช้เองจนมั่นใจมากจึงได้จัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดให้กับเกษตรกรทั้งในและต่างประเทศได้ เกษตรกรส่วนใหญ่ที่มาดูงานที่ศูนย์ฯแล้วนำไปต่อยอดไม่ค่อยมีปัญหา เช่น บ่อเลี้ยงที่ จ.นครนายก จันทบุรี นครศรีธรรมราช หรือแม้แต่พื้นที่สีแดงที่แย่สุดๆไม่สามารถทำบ่อเลี้ยงได้เลย แต่พอปรับเป็นระบบอิงธรรมชาติก็สามารถเลี้ยงได้รอด ปลอดภัยล่าสุดประเทศเกาหลีใต้ที่มาดูงานที่นี่ตอนนี้ผลิตได้ 7 - 10 ตันกว่า ด้วยช่วงระยะเวลาไม่เกิน 4 ปี