เจ้าหน้าที่ป่าไม้ศรีสะเกษฯ เจอวางระเบิดหวังเอาชีวิตขณะไล่ล่าขบวนการตัดไม้พะยูง

เจ้าหน้าที่ป่าไม้ศรีสะเกษฯ เจอวางระเบิดหวังเอาชีวิตขณะไล่ล่าขบวนการตัดไม้พะยูง

พบ ถูกย้ายมาวางใหม่หวังสกัดการติดตาม

เจ้าหน้าที่ หน่วย SMART Patrol เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา จังหวัดศรีสะเกษ ได้ออกเดินลาดตระเวนในพื้นที่ พบกลุ่มลักลอบตัดไม้ไม่ทราบสัญชาติได้ทำการลักลอบตัดไม้พะยูงใหญ่ เส้นรอบวงราว 1 เมตร โดยในระหว่างนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงต้นไม้โค่นล้มขณะที่มีฝนตกลงมา จึงได้เดินตามเส้นทางเพื่อไปหาเป้าหมาย ซึ่งห่างกันไปประมาณ 200 เมตร นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์กล่าวในรายงานที่ส่งไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9

ขณะที่เดินตามทางนั้น ได้มีกิ่งไม้หักโน้มมาปิดให้แคบลง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องย่อตัวลงเพื่อจะลอดกิ่งไม้นั้น แต่ในขณะที่กำลังจะลอดกิ่งไม้ ได้เหลือบไปเห็นแผ่นเหลือบแสงวงกลมขวางทางเดินเท้าอยู่ จึงหยุดชะงักลง และเมื่อใช้ไม้เขี่ยดู จึงรู้ว่าเป็นระเบิดชนิดทุ่นระเบิด Type 72 ซึ่งเคยเห็นจากการฝึกอบรมกับหน่วยตรวจค้นและทำลายทุ่นระเบิด 

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้แยกชุดเดินเข้าเป้าหมายที่ไม้โคนล้ม พบกลุ่มขบวนการทำไม้ไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่สามารถจับกุมได้เพราะต้องเพิ่มความระวังในการเข้าชาร์จเพื่อความปลอดภัยทั้งหมดไว้ก่อน 

ในการตรวจยึด จึงพบว่า มีต้นพะยูงเส้นรอบวงประมาณ 1 เมตร ถูกตัดโค่นลงแล้ว 1 ต้น ใกล้ๆกัน ยังพบอุปกรณ์ยังชีพของกลุ่มทำไม้จำนวนหนึ่งพร้อมทั้งอุปกรณ์แบกไม้อีก 5 ชุด ทิ้งไว้ข้างไม้พะยูง

ผอ. สบอ. 9 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร จึงได้มอบหมายให้นายสาธิตประสานหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิด ด้านมนุษยธรรมที่ 3 และหน่วยตรวจค้นและทำลายทุ่นระเบิดนำกำลังเสริมทันที

โดยเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดได้รายงานนายชัยวัฒน์ว่า สำหรับระเบิด Type 72 ลูกนี้ ถูกย้ายนำมาวางใหม่ซึ่งสามารถหวังผลถึงชีวิต จนท.ลาดตระเวนที่จะติดตามกลุ่มขบวนการทำไม้ เพื่ออาจหวังสกัดไม่ให้ติดตามได้ทัน

นอกจากนี้ ในบริเวณเดียวกันยังพบระเบิดชนิดอื่นๆ อีก นายชัยวัฒน์กล่าว

โดยทางเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจค้นทุ่นระเบิดรายงานว่า ลักษณะของการวางระเบิดตอบโต้แบบนี้เป็นลักษณะที่ “กองกำลังไม่ทราบฝ่าย” มักใช้

การพบการวางระเบิดเพื่อหวังสกัดเจ้าหน้าที่นี้นับเป็นยุทธวิธีล่าสุดที่กลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ไม่ทราบสัญชาติได้นำมาใช้

ห้วยศาลา นับเป็นอีกพื้นที่อนุรักษ์หนึ่งที่มีพื้นที่ตามแนวชายแดน และประสบปัญหาการลักลอบเข้ามาตัดไม้อย่างรุนแรงในรอบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะไม้พะยูง และไม้มีค่าอื่นๆ

นอกจากชาวไทยแล้ว ยังมีผู้ลักลอบตัดไม้สัญชาติอื่นเข้ามาลักลอบตัดไม้ในพื้นที่และเกิดการปะทะกันอยู่เป็นระยะ นอกเหนือไปจากการเจอหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่ทำให้ฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวอาจได้รับการคุ้มครองจาก “กองกำลังไม่ทราบฝ่าย”

นอกจากนี้ ในพื้นที่ยังเต็มไปด้วยกับระเบิดที่ยังคงเหลืออยู่จากช่วงสงคราม ก่อนที่จะมีการพบรูปแบบการจงใจวางระเบิดในครั้งนี้ เพิ่มความยากลำบากในการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่

แม้สภาพปัญหาจะเชื่อมโยงประชาชนสัญชาติอื่น แต่ยังไม่มีการพูดคุยในระดับนโยบายระดับสูงอย่างเป็นทางการเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน