ชุดพยัคฆ์ไพรลงพื้นที่ป่าสงวนฯระยอง หลังผู้ร้องเรียน รมว.ทส. ถูกขู่ฆ่า

ชุดพยัคฆ์ไพรลงพื้นที่ป่าสงวนฯระยอง หลังผู้ร้องเรียน รมว.ทส. ถูกขู่ฆ่า

พบมีการเข้าไปใช้ประโยขน์พื้นที่ หลังศาลตัดสินจำคุก และบุกรุกเพิ่มเติม

โดย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาตาขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ร้องเรียนผ่านสื่อถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลข่มขู่อาฆาตต่อหน้าสาธารณะ เนื่องจากไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบพื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่ากระเฉด ป่าเพ และป่าแกลง ท้องที่ตำบลสำนักทอง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง 

ชุดพยัคฆ์ไพร นำโดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่ปรึกษาฯ และผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจนคำ่วานนี้

พบว่า ได้มีการร้องเรียนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ว่ามีการบุกรุกป่าเขาแหลมในตำบลสำนักทองจากผู้หวังดี ก่อนจะมีการจับกุมดำเนินคดีไป พร้อมตรวจยึดพื้นที่ปลูกยางพาราประมาณ 6 ไร่เศษ

ต่อมาปี พ.ศ. 2554 เจ้าหน้าที่ได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดีอีกครั้งว่า พบการบุกรุกในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ากระเฉด ป่าเพ ป่าแกลง และได้ตรวจพบอาคารบ้านพักสองชั้นและบิลแจ้งค่าไฟฟ้าระบุชื่อนายสมปอง รัตนเสถียร ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน จนกระทั่งศาลจังหวัดระยองได้พิพากษาจำคุกนายสมปอง 4 เดือน 15 วัน ปรับ 5,000 บาท โทษจำรอไว้ 2 ปี และให้ออกจากพื้นที่ด้วย 

ต่อมา นายสมปองได้เสียชีวิตลง แต่กลับพบว่ามีผู้เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ จึงเกิดการร้องเรียนอีกครั้งเป็นที่มาของการข่มขู่อาฆาต

ชุดพยัคฆ์ไพรได้ตรวจสอบ พบว่า ปัจจุบันยังมีบุคคลใช้ประโยชน์ในพื้นที่ และพบคนงาน 1 คน จึงนำตัวมาสอบถามข้อมูล โดยได้ให้การว่า ตนเป็นลูกจ้างดูแลสวนยาง โดยผู้ว่าจ้างเป็นอดีตผู้คุมเรือนจำแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ซึ่งปรากฎว่าเป็นเครือญาติของนายสมปองเองที่ได้เข้ามาครอบครองพื้นที่ ทั้งที่รู้ว่าศาลสั่งให้ออกจากพื้นที่ตั้งแต่ปี 2556 ชุดพยัคฆ์ไพรถือว่าไม่เกรงกลัวกฎหมาย และยังละเมิดคำสั่งศาล 

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการขยายพื้นที่เพิ่มเติมจากเดิม 6 ตารางวา และมีก่อสร้างสิ่งขีดขวางลำน้ำสาธารณะ 

จากการสำรวจด้วยอากาศยานไร้คนขับ พบพื้นที่ป่ายังคงสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำมีน้ำไหลผ่านลำธาร เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม พร้อมนำคนดูแลพื้นที่ นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสำนักทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะเสนอเรื่องราวทั้งหมดนำเรียนนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อใช้อำนาจตามมาตรา 25 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติปี 2507 เพื่อรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และพืชผลทั้งหมดออกจากพื้นที่ป่าต่อไป

ภาพ/ เครดิต: สำนักป้องกันฯ กรมป่าไม้