กสม.ชี้ให้เด็กแต่งงานทำลายอนาคต

กสม.ชี้ให้เด็กแต่งงานทำลายอนาคต

กสม.จี้หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ กรณีเด็ก 11 ขวบ ถูกจัดให้แต่งงานกับชายมาเลเซีย ชี้ทำร้ายเด็กตัดอนาคต

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์แสดงความวิตกและห่วงใยต่อข่าวที่ปรากฏในสื่อมวลชน กรณีชายสัญชาติมาเลเซีย อายุ 41 ปี เดินทางมายังอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อแต่งงานกับเด็กหญิงชาวไทยวัย 11 ปี ในช่วงเทศกาลฮารีรายอที่ผ่านมา นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม

แถลงการณ์ระบุว่า การจัดให้เด็กแต่งงานก่อนวัยอันควร หรือผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ถือเป็นการตัดอนาคตของเด็กผู้หญิงในการได้รับการศึกษา ตลอดจนเป็นการปิดโอกาสในการพัฒนาความพร้อมด้านต่าง ๆ สู่วัยผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นการขัดต่ออนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 22 มาตรา 23 และมาตรา 26 ที่บัญญัติให้การปฏิบัติต่อเด็กต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ และผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และพัฒนาเด็กที่อยู่ในความปกครองของตน

ซึ่งคณะกรรมการประจำอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) และอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (CEDAW) วินิจฉัยแล้วว่า การจัดให้เด็กแต่งงานก่อนวัยอันควรถือเป็นการกระทำก่ออันตรายให้แก่เด็ก และมีข้อเสนอแนะให้รัฐภาคีทั้งสองอนุสัญญา ออกกฎหมายห้ามจัดให้เด็กแต่งงานก่อนวัยอันควร รวมทั้งในการจัดทำรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศ (Universal Periodic Review) ครั้งล่าสุด คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council) มีข้อเสนอแนะให้ประเทศไทยออกกฎหมายห้ามจัดให้เด็กแต่งงานก่อนวัยอันควรทุกกรณี นอกจากนี้ การจัดให้เด็กแต่งงานก่อนวัยอันควรเพราะความยากจนถือเป็นการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก โดยเฉพาะชายสามีที่เป็นผู้ใหญ่ ย่อมถือว่าได้กระทำผิดต่อเด็กหลายกรณี

กสม. จึงขอให้บุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องนำข้อห่วงกังวลดังกล่าวของ กสม.ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการ เพื่อมิให้มีการจัดให้เด็กแต่งงานก่อนวัยอันควร และเห็นว่า ควรดำเนินการอนุวัติกฎหมายในประเทศให้สอดคล้องกับหลักการของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เพื่อให้การคุ้มครองสิทธิของเด็กเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ซึ่งสังคมโลกมีเป้าหมายร่วมกันประการหนึ่งว่า จะต้องไม่มีการจัดให้เด็กแต่งงานก่อนวัยอันควรภายในปี 2573

อีกด้านหนึ่ง ชาวมาเลเซียกว่า 1.3 หมื่นคน ได้ร่วมกันลงชื่อในคำร้องผ่านเวบไซต์ change.org เพื่อรณรงค์ให้รัฐบาลแก้ไขกฎหมายเพิ่มเกณฑ์อายุของเยาวชนแต่งงานได้เป็น 18 ปี เพื่อป้องกันการจับเด็กมาแต่งงาน ซึ่งเป็นกระแสต่อเนื่องจากกรณีที่ชายวัย 41 ปี แต่งงานกับเด็กหญิงชาวไทยวัย 11 ปี