จากกรณีที่นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง ชาวอ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ว่าถูกขโมยลอตเตอรี่ที่ตนเองถูกรางวัลที่1 เป็นเงิน12ล้านบาท ต่อมามีสองสามีภรรยาชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นำไปขึ้นเงิน ต่างฝ่ายต่างงัดหลักฐานมายืนยัน อีกทั้งพ่อค้าที่ขายลอตเตอรี่ยังออกมายืนยันว่าได้ขายลอตเตอรี่ให้กับทั้ง2คน แต่จำไม่ได้ว่าใครซื้อเลขอะไร สร้างความสับสนว่าใครพูดจริงใครโกหก
จากการสอบถามนายพันธุ์ศักดิ์ กล่าวว่า ยังคงมั่นใจในหลักฐาน และการทำหน้าที่ของตำรวจ ถึงแม้สองสามีภรรยาจะนำรูปถ่ายที่อ้างว่าถูกรางวัลที่1 มายืนยันกับตำรวจ ทำให้พบความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งรูปถ่ายลอตเตอรี่ที่นำมายืนยันทำไมจึงถ่ายเก็บไว้แค่2คู่ คือชุดที่31,32และชุดที่57,58แล้วทำไมอีกคู่จึงไม่ถ่ายไว้เป็นหลักฐาน แต่ชุดที่ตนเองแจ้งว่าถูกขโมยเป็นชุดที่31,32และชุดที่37,38 ประกอบกับหลักฐานจากกองสลากฯ ก็ระบุเพียงว่ามีการไปขึ้นเงิน2คู่ แล้วอีก1คู่ใครไปขึ้นเงิน จึงอยากให้มีการตรวจสอบกับทางกองสลากฯอีกครั้ง ว่าลอตเตอรี่ชุดที่57,58ที่สองสามีภรรยาระบุว่าถูกรางวัลที่1นั้นได้ไปขึ้นเงินจริงหรือไม่
ขณะที่นายสิทธิ์พิทักษ์ ชาญชาติ ชาวบ้านต.เมืองยาง อ.ชำนิ กล่าวว่า ไม่ได้รู้จักกับครู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนที่มาเป็นพยานให้นายพันธุ์ศักดิ์ เนื่องจากได้ไปทำธุระที่สภ.นางรอง แล้วบังเอิญเจอกับนายพันธุ์ศักดิ์และคนขายลอตเตอรี่ ที่มาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงพูดคุยสอบถาม คนขายยืนยันว่านายพันธุ์ศักดิ์ ซื้อลอตเตอรี่กับเขาแล้วถูกรางวัลที่1จริง แต่หลังจากนั้นได้ติดตามข่าวพบว่ามีสองสามีเป็นผู้ไปขึ้นเงินที่กองสลาก และพ่อค้าที่ขายก็กลับคำพูดอ้างจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนซื้อและถูกรางวัลกันแน่ ซึ่งตนเห็นว่ามีความผิดปกติ จึงมาแสดงตัวเป็นพยานว่าคนขายเคยมาให้การยืนยันว่านายพันธุ์ศักดิ์
ทางด้านพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ได้สอบปากคำผู้เสียหาย ผู้ที่ถูกพาดพิงถึง และพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า10ปาก คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนเสนอผู้บังคับบัญชา และส่งอัยการพิจารณาตามกระบวนการขั้นตอนได้ไม่เกิน1สัปดาห์
