หนึ่งเดียวในไทย! ร้องเพลงบอกบุญสารทเดือนสิบจ.พังงา

เมื่อวันที่ 18 ก.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบของทุกปี ก็จะถือเป็นวันรับ ตา-ยาย เป็นวันเริ่มต้นของประเพณีงานบุญสารทเดือนสิบที่มีความสำคัญของพี่น้องชาวปักษ์ใต้ สำหรับจังหวัดพังงามีชาวบ้าน ม.4 บ้านช้างเชื่อ ต.เหล อ.กะปง จ.พังงา จะร่วมกันเดินทางออกไปบอกบุญวันสารทเดือน และรับบริจาคให้กับวัดนารายณิการาม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ในอำเภอกะปง ที่มีประวัติศาสตร์ทางโบราณคดีที่สำคัญของจังหวัดพังงา

สำหรับการบอกบุญของชาวบ้านกลุ่มนี้ น่าจะมีเพียงแห่งเดียวและหาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน โดยการใช้วิธีการขับร้องเพลงบอกพื้นบ้าน ที่ได้รับการสืบทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ซึ่งสร้างสีสันให้กับผู้ที่พบเห็นและสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับผู้ที่ร่วมทำบุญเป็นอย่างมาก

ลุงสมพร แพทย์อินทร์ อายุ 71 ปี ชาวบ้าน ม.4 บ้านช้างเชื่อ อ.กะปง จ.พังงา เปิดเผยว่า เพลงบอกที่ใช้ร้องเพื่อบอกบุญสารทเดือนสิบ และหาเงินให้กับวัดนั้น ตนเองได้สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษเป็นเพลงบอกแบบพื้นบ้านมีการ้องสร้อยเล็กน้อย ไม่เหมือนเพลงบอกดอกสร้อย ที่ใช้ในการแสดงทั่วไปซึ่งจะร้องสร้อยยาวกว่ามาก

โดยทุกปีหลังจากวันรับ ตา-ยาย (แรม1ค่ำ เดือนสิบ) ตนเองและเพื่อนๆ ในหมู่บ้าน ก็จะใช้เวลาที่ว่างจากการงานประจำวัน ออกไปตระเวนไปตามที่ต่างๆในจังหวัดพังงา เพื่อขับร้องเพลงบอก บอกบุญวันสารทเดือนสิบ และหาเงินให้กับวัดนารายณิการาม เพื่อใช้ในการทำนุบำรุงศาสนาต่อไป
สำหรับความเชื่อเรื่องประเพณีบุญสารทเดือนสิบนั้น เป็นความเชื่อทางพระพุทธศาสนา ที่เชื่อว่าในปลายเดือนสิบปู่ย่า ตายาย ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว และคนบาปทั้งหลายที่ตกนรก จะถูกปล่อยจากนรกให้ขึ้นมาพบญาติพี่น้องในวันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ และให้กลับไปนรกดังเดิมในวันแรม15ค่ำ เดือนสิบ ดังนั้นผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็พยายามหาอาหารต่างๆ ไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ และในอดีตนั้นจะมีการนำพืชผลต่างๆ ที่ได้รับจากการเกษตรไปทำบุญสำหรับพระภิกษุจะได้เก็บไว้เป็นเสบียงในช่วงฤดูฝนและเข้าพรรษา

ส่วนชาวบ้านก็จะได้แสดงความรื่นเริงและสนุกสนานประจำปีร่วมกันเพราะความภาคภูมิใจ ความสุขใจ และความอิ่มใจ ที่ได้ปฏิบัติการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ ญาติมิตรที่ล่วงลับไปแล้ว ดังนั้นความเชื่อเรื่องบุญสารทเดือนสิบ นับเป็นประเพณีอันดีงามที่ควรสืบทอดต่อไป