


จับแล้วมือค้อนทุบหัวชิงเงินขายวัว 4 หมื่นบาท จ.บึงกาฬ ที่แท้เป็นญาติกัน
จากกรณีนายบรรพจน์หรือบัน คำโคตร อายุ 52 ปีชาวบ้านโนนสมบูรณ์ ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ไปตามเอาเงินค่าขายวัวจำนวนเงิน 3.8 หมื่นบาท จากพ่อค้ารับซื้อที่บ้านนาสวรรค์ ต.นาสวรรค์ อ.เมืองบึงกาฬ หลังได้รับเงินจะเดินทางกลับบ้านได้แวะนั่งดื่มเหล้าที่บ้านญาติ 3 คน เมาได้ที่ควักเงินขายวัวออกมาอวด ว่ามีเงินเยอะแยะชาตินี้ไม่รู้จะใช้หมดหรือเปล่า นั่งดื่มจนดึกขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านถูกคนร้ายดักใช้ค้อนทุบหัวชิงเอาเงินประมาณ 4 หมื่นบาทพร้อมโทรศัพท์มือหลบหนีไป จนมีคนไปกรีดยางมาพบนายบรรพจน์นอนสลบอยู่แปลงนาข้างทางนำส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตำรวจมุ่งประเด็นฆ่าชิงทรัพย์เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 29 ส.ค.ตามข่าวที่เสนอไปแล้วล่าสุดจับผู้ต้องหาได้แล้ว เป็นญาติที่นั่งดื่มเหล้าด้วยกันรับสารภาพตำรวจพาไปค้นหาของกลางจนครบและควบตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที
เมื่อเวลา 09.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ได้เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามแกะรอยคนร้ายและจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดยมี พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.ท.สันติ บุญชู รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.เสกสรร บาอุ้ย สวป. พ.ต.ท.ฉายยนต์ ชาวดอน รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ต.พสุชา บุตรเชียงคำ รอง สว.สส.ร.ต.อ.ไพบูลย์ พรมมาหล้า รอง สว.สส.สภ.เมืองบึงกาฬและ พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ สว.กก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬต่อมาชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 คนที่นั่งดื่มเหล้าด้วยกันที่บ้านของนายสมยงค์หรือยงค์ เหลาทอง อายุ 48 ปีบ้านเลขที่ 82 หมู่ที่ 5 บ้านแสนสุข ต.นาสวรรค์ อ.เมืองบึงกาฬและแยกย้ายจากกันก่อนที่นายบรรพจน์จะไปถูกฆ่าชิงทรัพย์บนถนนกลางทุ่งนาจะกลับบ้านในคืนเกิดเหตุ โดยทั้งหมด 3 คนเป็นญาติใกล้ชิดกัน หลังการสอบสวนเค้นหาความจริงตลอดทั้งวัน นายสมยงค์จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่านายบรรพจน์ โดยทำคนเดียวไม่เกี่ยวกับคนอื่น
นายสมยงค์ ผู้ต้องหาได้เล่าถึงเหตุที่ต้องฆ่านายบรรพจน์ ซึ่งเป็นญาติกันแท้ๆ ว่าคืนเกิดเหตุหลังจากนั่งดื่มเหล้าด้วยกันจนเมาได้ที่ ผู้ตายได้ควักเงินจำนวน 48,000 บาทออกมาจากระเป๋าเสื้อด้านหน้ามาวางกลางวงเหล้า บอกว่า “พึ่งขายวัวได้เงินเยอะแยะจะกันเท่าไหร่ ชาตินี้คงใช้ไม่หมด “ทำให้คิดอยากได้เงินนำไปรักษาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน จึงเอ่ยปากขอยืมผู้ตายแต่ถูกปฏิเสธ หลังจากเลิกวงเหล้า จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์สะกดรอยตามหลังไป ถึงที่เกิดเหตุผู้ตายสงสัยมีใครขี่รถตามจึงหยุดรถกลางถนน เป็นจังหวะที่ตนตามไปทัน จึงหยิบค้อนปอนด์ที่เตรียมไปด้วยและวางอยู่ตะกร้าหน้ารถทุบเข้าท้ายทอย 1 ที พอรถล้มลงจึงตีซ้ำอีกครั้ง เข้าใจว่าตายแล้วจึงค้นเอาเงิน 38,000 บาทและเงินในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่ผู้ตายสวมใส่ได้เงินประมาณ 4 หมื่นบาท ส่วนโทรศัพท์มือถือของผู้ตายได้โยนลงน้ำในนาข้าวพร้อมกับค้อนปอนด์ ก่อนจะลากนายบรรพจน์ที่สลบไปทิ้งทุ่งนาข้างทาง แล้วขี่รถกลับไปอาบน้ำที่บ้านเข้านอน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปค้นหาของกลางตามคำรับสารภาพได้เงินสด 37,000 บาทซ่อนอยู่ใต้ตู้เย็นบนบ้าน โทรศัพท์มือถือของผู้ตายและค้อนปอนด์ทิ้งลงนาข้าวห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร
พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.เปิดเผยว่า คดีนี้ปิดคดีได้เร็วแค่เพียงข้ามคืนก็จับกุมผู้ต้องหาได้แล้วเนื่องจากผู้ใต้บังคับบัญชาทุกส่วนได้ให้ความใส่ใจติดตามกดดันฆาตกรอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติงานอย่างรวดเร็วจนผู้ต้องหาขยับตัวหนีไม่ทัน หลังการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงแจ้งข้อหาว่าชิงทรัพย์ผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายก่อนที่จะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางสายฝนตกลงมาโปรยปรายและประชาชนแห่ดูการทำแผนจำนวนมากพร้อมกับเสียงสาปแช่งว่าเป็นญาติกันแท้ๆ ยังทำลงได้




