สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาว ที่พบว่ายังมีน้ำไหลหลากเข้ามายังอ่างอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีน้ำไหลหลากเข้ามากว่า36ล้าน ลบ.ม. ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างได้เพิ่มปริมาณขึ้นเป็น1,742ล้าน ลบ.ม. ซึ่งทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว มีการลดการระบายจากเดิมวันละ30ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ25ล้าน ลบ.ม. ต่อวันเพื่อลดความเสียหายในเขตพื้นที่ลุ่มที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมถึง5อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ร่องคำ และ อ.ฆ้องชัย
นายพัฒนะ พลศรี ผู้อำนวยการฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่3โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนกลาง กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในการดูแลของโครงการฯ ระดับน้ำแม่น้ำชีอยู่ที่139.98ม.รทก. ที่เหลือเพียงประมาณ1เมตรก็จะมีระดับที่141.03ที่เป็นระดับน้ำสูงที่สุดเมื่อปี2554ปัจจุบันอยู่ในระดับวิกฤติและได้ปักธงแดงแสดงสัญลักษณ์ให้ประชาชนได้ทราบ รวมถึงป้ายแสดงสถานการณ์ โดยประชาชนจะเดินทางมาติดตามสถานการณ์น้ำตลอดเวลาด้วยความกลัวว่าน้ำจะไหลท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนเช่นปี2554ที่ผ่านมา นอกจากนี้บรรยากาศบริเวณพนังดินกั้นแม่น้ำชีระยะทาง22กม. ชาวบ้านได้จัดวางกำลังอยู่เวรยามติดตามสถานการณ์น้ำตลอด24ชม. รวมถึงการเตรียมกระสอบทรายเสริมพนังเป็นแนวยาว ถึงแม้ว่าทางเขื่อนลำปาวจะลดปริมาณระบายน้ำแต่ระดับน้ำในแม่น้ำชียังสูง
สำหรับธารน้ำใจจากหลายภาคส่วนได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งสำนักงานสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ และสหกรณ์การเกษตรกมลาไสย จำกัด จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ส.อ.เพิ่มพูน สารีบุตร หัวหน้าชุดชป.มทบ.23ค่ายศรีพัชรินทร ตำบลศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำถุงยังชีพข้าวสรอาหารแห้งมอบให้กับผู้ประสบภัย จำนวน2,140ชุด ในพื้นที่7ตำบล ประกอบด้วย ต.เจ้าท่า ต.ดงลิง ต.ธัญญา ต.กมลาไสย ต.โพนงาม และ ต.หลักเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่ถูกน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร ด้านความเสียหายจากน้ำท่วม จ.กาฬสินธุ์ ได้ประกาศให้14อำเภอ ของ จ.กาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว ที่ขณะนี้มีนาข้าวจมอยู่ใต้น้ำประมาณ195,301ไร่ ถนนชำรุดเสียหายจากกระแสน้ำ200แห่ง นอกจากนี้ยังมีวัด สถานที่ราชการ และบ้านเรือนราษฎรอีกจำนวนมากที่ยังถูกน้ำท่วมในขณะนี้
