แจ้ง 3 ข้อหาหมอนวดทำลูกค้าขาหัก!!

ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหมอนวดทำลูกค้าขาหัก พร้อมตั้งวงเงินประกัน 3 หมื่นบาท ด้านลูกสาวผู้เสียหายยันอยากให้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล
ความคืบหน้ากรณีที่นางพิมพ์ญาณี ธัญวงศ์สกุล อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/14 หมู่ 4 ซอยชลรัตน์ ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยลูกสาว ได้ไปนวดแผนไทยที่ ร้านอู๊ดดี๊แนนเม้ง โดยมีนายณธนาภพ กล้าชิงชัย อายุ 50 ปี เจ้าของร้าน เป็นผู้นวดให้ จากการนวดทำให้นางพิมพ์ญาณี ขาข้างขวาหัก จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลชลบุรี หลังเกิดเหตุหมอนวดไม่ยอมไปเยี่ยม น.ส.ศรัญญา ธัญวงศ์สกุล อายุ 25 ปี ลูกสาวต้องไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เสม็ด เพื่อให้หมอนวดชดใช้ค่าเสียหาย รวมทั้งร้องเรียนสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมอีกด้วย
ล่าสุด พ.ต.ท.ชนะทัต นวคุณรังษี รอง ผกก.ปป.สภ.เสม็ด ได้มีการประชุมเพื่อสรุปสำนวนเกี่ยวกับกรณีที่มีการนวดและทำให้ลูกค้าขาหัก เพื่อสรุปแนวทางในการดำเนินคดี โดยมีนายประยูร วัฒน์ศิริบรรจง ปลัดอำเภอเมืองชลบุรี พร้อมด้วยสาธารณสุขอำเภอเมืองชลบุรี สาธารณสุขเทศบาลตำบลเสม็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี พ.ต.ท.ตรีเพชร ชลชีวศรานนท์ เจ้าของคดีกล่าวว่า น.ส.ศรัญญาได้มาลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เนื่องจากเกรงว่าหมอนวดจะเบี้ยวค่ารักษา และได้เชิญตัวนายณธนาภพมาแจ้งให้ทราบแล้ว
หลังจากนั้นชุดสรุปสำนวนเกี่ยวกับความผิดของหมอนวดจึงได้เดินทางไปที่ร้านอู๊ดดี๊แนนเม้ง เพื่อตรวจสอบสถานที่บริการนวดแผนไทย หลังจากนั้นจึงได้แจ้งข้อหาให้ทราบว่ามีความผิดทั้งหมด 3 ข้อคือ 1.ประกอบกิจการสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ไม่ได้รับอนุญาตประกอบการซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งได้กำหนดไว้ทั้งหมด 141 ข้อ ซึ่งจะได้ต้องได้รับอนุญาตถึงจะประกอบการได้ และ 3.ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดสถานบริการ สำหรับข้อหาที่หนักที่สุดคือไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดสถานบริการ มีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายณธนาภพไปดำเนินคดีต่อไป โดยตำรวจได้ตั้งวงเงินประกันไว้ 3 หมื่นบาท
นายณธนาภพ กล้าชิงชัย หมอนวด กล่าวว่า ตนก็พยายามปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ และเข้าร่วมประชุมทุกครั้งที่เกี่ยวข้องกับนวดแผนไทย ล่าสุดได้มีไลน์แจ้งว่า จะต้องไปจดทะเบียนสถานประกอบการในเดือนกรกฎาคม 2560 นี้ จึงได้มีการเตรียมเอกสารไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ไปแจ้งประกอบการ แต่มีเหตุเกิดขึ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตามก็ว่ากันไปตามความจริง ส่วนลูกค้าที่ขาหักตนเองก็รับผิดชอบอยู่แล้ว วันเกิดเหตุบอกว่าขาพลิก จึงได้นวดให้
ด้าน น.ส.ศรัญญา ธัญวงศ์สกุล ลูกสาวของนางพิมพ์ญาณี กล่าวว่า ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย อยากจะให้เยียวยาในเรื่องค่ารักษามากกว่า เพราะไม่เป็นแค่ขาถลอก แต่นี่ขาหักจะเดินไม่ได้อีกหลายเดือน ซึ่งจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ปกติแม่จะไปขายโรตีที่ตลาดหน้าอำเภอเมืองชลบุรีทุกวัน มีรายได้บวกต้นทุนวันละ 2,000 บาท เงินส่วนนี้ก็จะต้องหายไปแล้วใครจะรับผิดชอบ คนนวดไม่ยอมมาดูแลเลย จึงต้องร้องเรียนสื่อมวลชน ส่วนที่อ้างว่าจะไปจำนำรถจักรยานยนต์แล้วนำเงินมาใช้หนี้ รวมทั้งบอกว่าเป็นโรคกระดูกพรุนนั้น ทำให้โลกโซเชียลออกมาต่อว่ามากเหมือนกัน แต่ข้อเท็จจริงแม่เป็นมะเร็งที่เต้านม ไม่ได้เป็นที่ขา ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาตนเองได้นวดแม่ตลอด หากแม่ขาจะหักนั้นคงจะหักช่วงที่ตนเองนวดแล้ว คงไม่ต้องถึงหมอนวด ที่สำคัญประวัติการรักษาก็อยู่ที่โรงพยาบาลชลบุรี และยังไม่เคยระบุว่าเป็นโรคกระดูกพรุน
"หากรับผิดชอบสมเหตุสมผล คงไม่ออกมาร้องเรียนอย่างนี้หรอก แม่ทำงานมีรายได้ทุกวัน เมื่อขาหักก็ไม่สามารถทำงาน แต่หมอนวดทำงานทุกวันมีรายได้ น่าจะคุยให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ ส่วนค่ารักษานั้นยังไม่ทราบว่าเป็นจำนวนเงินเท่าใด เพราะจะต้องใช้เหล็กพิเศษในการดามขา ซึ่งจะต้องจ่ายเงินส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ระหว่างการปรึกษากับแพทย์"
ด้าน พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง สารวัตรสอบสวน สภ.เสม็ดกล่าวว่า ความผิดทางอาญานั้นเกี่ยวกับประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บนั้น ยังไม่เข้าองค์ประกอบความผิด แต่เป็นเรื่องสุดวิสัยมากกว่า ซึ่งเป็นความผิดทางแพ่งเกี่ยวกับละเมิด ต้องไปฟ้องร้องทางแพ่ง ตำรวจจึงไม่ได้ตั้งข้อหาเกี่ยวกับความผิดทางอาญา แต่ความผิดอื่นเกี่ยวกับใบประกอบการ การขออนุญาตประกอบการ ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง




