แม่ใจสลายลูกจมน้ำดับพร้อมกัน 3 ราย ที่มหาสารคาม

เมื่อเวลา14.30น.วันที่ 3 พ.ค. 60 เจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดมหาสารคาม1669ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเด็กจมน้ำ 3 รายที่บึงคันชาบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่ระหว่างบ้านโพนสวางต.โพนทองและบ้านโนนสังข์ต.หนองบอนอ.โกสุมพิสัยจ.มหาสารคามจากนั้นได้ประสานหน่วยกู้ชีพโกสุมพิสัยกู้ชีพ อบต.หนองบอนกู้ชีพ อบต.โพนงามกู้ชีพ อบต.แก้งแกและกู้ภัยพุทธธรรม245ให้รีบรุดมายังที่เกิดเหตุ

 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุชาวบ้านได้นำตัวเด็กหญิงขึ้นมาจากน้ำแล้ว2รายเจ้าหน้าที่เร่งปั๊มหัวใจเพื่อช่วยเหลือเป็นการด่วนส่วนอีกรายได้ให้นักประดาน้ำลงไปงมหากว่า20นาทีจึงพบซึ่งทั้งหมดเสียชีวิตเจ้าหน้าที่จึงได้นำศพเด็กทั้ง3 ส่งที่โรงพยาบาลโกสุมพิสัย

จากการสอบถามนางสาวบุหงา อาดีอายุ 34 ปี แม่เด็กทั้ง 3 เล่าว่ามีลูกทั้งหมด 5 คน ลูกทั้งสามที่จมน้ำเสียชีวิตชื่ อด.ญ.กาญจนา แก่นคำ หรือน้องกาญอายุ 9 ปี ด.ญ.สุกัญญา สายจันทร์ หรือน้องบีม อายุ 7 ปี และ ด.ญ.สุชาวดี สายจันทร์ หรือ น้องแพรวา อายุ 2 ปี เมื่อเวลา 10.00 น. ได้พาลูกทั้ง 3 คนพร้อมหลานชาย 1 คน ไปเก็บบัวที่บึงคันชา เพื่อเตรียมนำไปขายที่ตลาด ทุกครั้งที่ไปเก็บบัวเด็กๆ จะพากันเล่นอยู่บนคันดินสูงจากบึงน้ำประมาณ 3 เมตร โดยแม่ได้ลงไปเก็บบัวในบึงน้ำต่อมาหลานชายได้เจอปลาช่อนตัวใหญ่ขนาดเท่าต้นขาหนึ่งตัวจึงได้ตะโกนว่าได้ปลาช่อนตัวใหญ่จึงได้นำไปใส่ไว้ในถุงปุ๋ย จากนั้นไม่นานก็ขึ้นจากน้ำแต่กลับไม่พบลูกทั้งสามคนจึงได้ออกตามหา พอดีมีคนในหมู่บ้านผ่านมาจึงได้ร้องเรียกให้ช่วยเหลือต่อมาพบน้องแพรวาลูกสาววัย 2 ขวบ ลอยขึ้นมาจากน้ำ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้รีบมาช่วยปั๊มหัวใจจากนั้นพบน้องบีมลูกสาววัย 7 ขวบส่วนน้องกาญลูกสาววัย 9 ขวบต้องให้นักประดาน้ำช่วยงมหาพบอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 3 เมตรซึ่งทั้งหมดเสียชีวิตเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งที่โรงพยาบาลโกสุมพิสัย

“ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับลูก ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุฝันว่าลูกสาวคนเล็กจมน้ำจึงเข้าช่วยเหลือลูกและเห็นคนแก่เป็นผู้ชายมายืนหัวเราะ จึงถามว่าคนแก่คนนั้นว่าเป็นคนบ้านไหนทำให้มายืนหัวเราะแบบนี้แต่คนแก่คนนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันรุ่งขึ้นได้พาลูกออกมาหาเก็บบัวในบึงเป็นปกติแต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น” นางสาวบุหงา กล่าว

 ที่โรงพยาบาลโกสุมพิสัยมีบรรดาญาติพี่น้องของเด็กหญิงทั้งสามที่ทราบข่าวต่างก็เดินทางมาที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมากจากนั้นพ่อของเด็กคือนายเรวัติสายจันทร์ก็ได้เดินทางมาถึงโรงพยาบาลเมื่อทราบว่าลูกทั้งสามเสียชีวิตแล้วก็ถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงไปกองกับพื้นเพื่อนบ้านและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องช่วยกันประคองและนำตัวไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พิมพ์ลายนิ้วมือเด็กทั้งสามเสร็จได้เรียกให้พ่อกับแม่มาเรียกน้องกลับบ้านซึ่งทั้งพ่อและแม่ก็ต่างร้องไห้เรียกชื่อน้องกาญน้องบีมและน้องแพรวากลับบ้านเป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็นโดยศพเด็กทั้งสามจะตั้งสวดอภิธรรมที่วัดใต้ชัยมงคลหมู่ 14 บ้านแพง ต.แพง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ก่อนทำการฌาปนกิจ