ร้องกองปราบฯ ถูกสตูดิโอพรีเวดดิ้งตุ๋นสูญร่วม3ล้าน

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 พฤษภาคม น.ส.วราภรณ์ บุญประสม อายุ 29 ปี พร้อมด้วยผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีบริษัท เลิฟลี่โฮม เวดดิ้ง สตูดิโอ จำกัด ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หลังจากได้ว่าจ้างให้บริษัทดังกล่าวถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง แต่กลับไม่ได้มีการถ่ายภาพแต่อย่างใด โดยนำใบเสร็จการชำระเงินค่าใช้บริการถ่ายภาพกับบริษัทแห่งนี้ รวมถึงภาพถ่ายที่ทำการของบริษัทซึ่งปิดตัวไปแล้ว มามอบไว้เป็นหลักฐาน

น.ส.วราภรณ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2559 หลังจากตนกับแฟนหนุ่ม ได้ไปเดินดูงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ ที่ ไบเทคบางนา จึงพบบูธของบริษัทดังกล่าวที่เสนอขายแพ็คเกจถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง โดยมีบริการแต่งหน้าให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวพร้อมกับเช่าชุดแต่งงาน ในราคา 39,000 บาท ซึ่งตนกับแฟนหนุ่มก็ตัดสินใจจะแต่งงานกันในวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา จึงสนใจและได้ตกลงทำสัญญา พร้อมกับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตให้กับทางบริษัทนี้ไป จากนั้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 ได้เดินทางไปที่บริษัทดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนพัฒนาการ ซอย 56 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.เพื่อจะลองชุดแต่งงาน พร้อมกันนั้นยังได้จ่ายเงินเพิ่มเติมตามที่บริษัทอ้างว่าเป็นค่ามัดจำชุดอีกเป็นจำนวน 30,000 บาท

น.ส.วราภรณ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี ทางบริษัทได้นัดหมายตนกับแฟนหนุ่ม เพื่อไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกัน ที่ สวนหลวง ร.9 ในวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงวันที่ 20 มกราคม ก่อนหน้าวันนัดหมายเพียง 1 วัน ทางบริษัทก็ติดต่อมาแจ้งขอเลื่อนการถ่ายพรีเวดดิ้งออกไปเป็นวันที่ 28 มกราคม แทน เนื่องจากทางบริษัทได้ย้ายที่ทำการไปอยู่ที่ย่านงามวงศ์วาน ตนก็ยินยอมให้เลื่อนนัดไป กระทั่งในวันที่ 25 มกราคมก็ทราบว่ามีกลุ่มลูกค้าของบริษัทแห่งนี้ถูกฉ้อโกง ไม่ได้ถ่ายพรีเวดดิ้งหลังจากชำระเงินแล้ว จึงเดินทางไปที่บริษัท และพบว่ามีการปิดบริษัทหลบหนีไปแล้ว เมื่อมั่นใจว่าถูกหลอกลวงด้วย จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ประเวศ แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งยังไม่สามารถติดต่อกับผู้แทนบริษัทดังกล่าวได้อีก

ผู้เสียหายรายนี้ กล่าวอีกว่า จากที่ตรวจสอบพบมีผู้ที่ถูกหลอกลวงแล้วกว่า 100 ราย ซึ่งจ่ายเงินให้กับบริษัทนี้ไปเป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท รวมมูลค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท สำหรับผู้แทนของบริษัทที่จะเป็นคนคอยติดต่อประสานงาน ทราบเพียงชื่อเล่นว่า “ไผ่” ในวันเดียวกันนี้ จึงนัดหมายผู้เสียหายส่วนหนึ่งรวมตัวกันเข้าแจ้งความที่ บก.ป.
อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวน บก.ป.ได้ให้คำแนะนำกลุ่มผู้เสียหายว่าคดีนี้สามารถดำเนินการที่ ท้องที่ เกิดเหตุ ก่อนจะประสานไปยัง สน.ประเวศ ซึ่งรับคดีไว้แล้วก่อนหน้านี้ เพื่อสอบสวนดำเนินคดีต่อไป