เกษตรกรอ.สทิงพระรับทรัพย์ ราคาน้ำตาลปี๊บทะลุ1,000บาท

เร่งเก็บเกี่ยวน้ำตาลเพื่อเคี่ยวเป็นน้ำตาลปี๊บ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลของตาลโตนด ที่ให้ลูกตาลและน้ำตาลมากที่สุด

อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เป็นพื้นที่มีต้นตาลโตนดปลูกมากที่สุดในประเทศไทย ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลของตาลโตนดที่ให้ลูกตาลและน้ำตาลมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นสินค้าส่งออกไปขายให้กับโรงงานผลิตขนมหวาน ที่จังหวัดเพชรบุรีด้วย โดยต้นตาลที่ชาวบ้านขึ้นไปเก็บน้ำตาลจะเป็นตาลตัวเมีย สำหรับตาลตัวเมียนั้นนอกจากจะให้น้ำตาลแล้วยังให้ลูกตาลอีกด้วย ทั้งนี้ ฤดูกาลของตาลโหนดที่ อ.สทิงพระ เริ่มเดือนมกราคม-ตุลาคม ของทุกปี โดยในเดือนเมษายนจะเป็นช่วงมีน้ำตาลออกมากที่สุด ทำให้เกษตรกรชาวสวนตาลโตนดอำเภอสทิงพระขึ้นต้นตาลเพื่อเร่งเก็บน้ำตาล นำไปเคี่ยวเป็นน้ำตาลปี๊บ เนื่องจากในช่วงนี้ราคาน้ำตาลปี๊บราคาดี ปี๊บละ 1,000 บาท

โดยหลังจากที่เก็บน้ำตาลใส่กระบอก ลงมาจากต้นแล้ว ก็นำน้ำตาลทั้งหมดเทใส่ลงในกระทะที่ที่ตั้งอยู่บนเตาไฟให้เดือดใช้เวลาเคี่ยว ประมาณ 4 ชั่วโมง / 1 กระทะ โดยเตาหนึ่งจะมี 2 กระทะ เชื่อมติดต่อกัน และจะใช้ทางโตนดแห้งที่หล่นอยู่ตามใต้ต้น นำมาทำเป็นไม้ฟืนในการเคื่ยวน้ำตาล ซึ่งเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายอีกทางหนึ่ง ในการเคี่ยวน้ำตาลจะต้องใช้ไฟแรง เพราะฉะนั้นจะต้องมีคนคอยเฝ้าดูไม่ให้ไฟในเตาดับอยู่ตลอดเวลาโดยเกษตรกรจะทำการเคี่ยวน้ำตาล 3 กระทะ จะได้น้ำตาลปี๊บ1ปี๊บ ซึ่งใช้เวลาเคี่ยว ประมาณ4ชั่วโมง และเนื่องจากในพื้นที่อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา จะใช้น้ำตาลโตนดแทนน้ำตาลทราย โดยเฉพาะการปรุงอาหารพื้นบ้านและขนมพื้นบ้านจะใช้น้ำตาลโตนดเป็นส่วนใหญ่

สำหรับในพื้นที่ตำบลกระดังงา อำเภอสทิงพระ มีเกษตรกรชาวสวนตาลโตนด ทำการเคี่ยวน้ำตาลหลายสิบราย สองฝั่งคลองชลประทานอาทิตย์ หลังจากเคี่ยวน้ำตาลเสร็จครบ 4 ชั่วโมงก็บรรจุใส่ปิ๊ป จะมีแม่ค้านำรถมารับซื้อถึงบ้านในราคาปิ๊ปละ หนึ่งพันบาท ซึ่งสร้างรายได้อย่างงามให้กับเกษตรกรชาวสวนตาลโตนดในช่วงนี้เป็นอย่างมาก