อดีตปชส.อุบลฯ เผยวินาทีถวายพานบายศรีกลางถนนแด่ร.9

อดีตปชส.จังหวัดอุบลฯ ที่ได้เฝ้าฯ รับเสด็จตอนอายุ 13 ปี เผยรถพระที่นั่งในหลวงร.9 หยุดรับพานบายศรี ตำรวจ-ทหารวิ่งวุ่นเหตุใดจึงหยุด
เมื่อวันที่ 22 ต.ค.59 ที่บ้านเลขที่ 122 ถ.พิชิตรังสรรค์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พูดคุยกับ นางปรมาภรณ์ ศรีสินธารากุล อายุ 65 ปี อดีตประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ข้าราชการบำนาญ ซึ่งเป็นบุคคลที่เคยเข้าเฝ้า รอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 อย่างใกล้ชิด
นางปรมาภรณ์ เล่าถึงความประทับใจในการรอรับเสด็จ ว่าวันที่ 24 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จะเสด็จวางพวงมาลาที่อนุเสารีย์ รัชกาลที่ 6 ที่สวนลุมพินี ในวันนั้น แม่ได้ทำเป็นบายศรีของคนอีสาน แต่ใช้กระดาษสีทองทำแทนใบตอง สูง 1 ฟุต ได้ถือไปโรงเรียนตั้งแต่เช้า พอโรงเรียนเลิกในหลวงจะเสด็จประมาณ 4 โมงเย็น หลังเลิกเรียนก็ได้นั่งรถเมล์มากับเพื่อน 2 คนมาลงยืนรอรับเสด็จที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงพยาบาลจุฬา ซึ่งในวันนั้นคนรอรับเสด็จเยอะมาก ก็ยืนรอรับเสด็จอยู่ตรงป้ายรถเมล์เอากระเป๋านักเรียนวางไว้ในมือถือพานบายศรีที่แม่ทำให้ ส่วนเพื่อนถือพวงมาลัยดอกไม้
“ขณะที่ขบวนรถพระที่นั่งเสด็จผ่านมา ได้ชวนเพื่อนซึ่งอยู่ในชุดนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ บางรัก ขณะนั้นอายุ 13 ปีเรียนอยู่ชั้น ม.ศ.1 เดินออกมากลางถนนขณะที่ขบวนรถพระที่นั่งจะเสด็จผ่าน ซึ่งรถพระที่นั่งได้หยุดโดยมีราชองครักษ์ได้เดินลงมาเปิดประตูรถพระที่นั่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ชุดปกติขาว ประทับอยู่บนรถ ตนเองกับเพื่อนก็ได้เข้าไปย่อตัวถวายพานบายศรีและดอกไม้ พร้อมกล่าวว่า ทรงพระเจริญเพคะ พระองค์ท่านได้ทรงยิ้ม แล้วพระองค์ท่านได้หยิบเอาพานบายศรีมาวางด้านข้าง รถพระที่นั่งจึงเคลื่อนขบวนต่อ เมื่อกลับมาถึงบ้านคุณแม่กับคุณป้าที่รับเสด็จอยู่ใกล้ๆ กันได้พูดขึ้นว่าวันนี้รถของพระเจ้าแผ่นดินเป็นอะไรไม่รู้ ตำรวจวิ่งกันใหญ่เลย รถในหลวงหยุด ไม่รู้เกิดเหตุอะไรขึ้น ก็เลยบอกคุณแม่ไปว่าที่ขบวนรถพระที่นั่งหยุดเนื่องจากตนเองกับเพื่อนมายืนรอกลางถนนเพื่อถวายพานบายศรีกับพวงมาลัย”
และช่วงอายุ 17 ปี ได้รับเสด็จในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ทั้ง 2 พระองค์ เสด็จมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แต่ละคนก็จะมีผ้าเช็ดหน้า มีพวงมาลัยดอกมะลิ ดอกไม้ใส่พาน รอถวาย เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จฯ มาถึงจุดที่นั่งอยู่กับแม่ ได้ถวายดอกไม้ ตอนที่ถวายดอกไม้ไม่มีกล้องแต่มีผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ ถ่ายแล้วนำไปตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ พี่ชายไปเจอจึงซื้อมาตัดเก็บไว้ ยังคงเก็บรูปถ่ายไว้จนถึงทุกวันนี้
และได้ขยายเป็นภาพขนาดใหญ่ ติดไว้ที่บ้าน ส่วนรูปเล็กก็เก็บติดตัวไว้ตลอดเวลา ยังรู้สึกได้ถึงความปลาบปลื้มปีติ ตื้นตันใจที่ได้เฝ้าฯ รับเสด็จทำให้ตนเองยังคงจำมาจนถึงทุกวันนี้ และภาคภูมิใจมาก ที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ และดีใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยอยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ เมื่อรู้ว่าพระองค์สู่สวรรคาลัยตอนนี้ยังไม่สามารถทำใจได้ เพราะพระองค์ประกอบพระราชกรณียกิจให้กับประเทศไทยมามากมายาวนาน จนทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้







