ไม่เคยลืม! ไฟป่าไหม้ยกหมู่บ้าน 'ในหลวง ร.9' มอบเงินช่วยเหลือ
ชาวแก้งคร้อยังจดจำไม่เคยลืมเมื่อปี 2515 ไฟป่าลามไหม้ยกหมู่บ้าน "ในหลวง ร.9" ทรงเสด็จพระราชทานสร้างบ้านช่วยกว่า 124 ครอบครัว
พร้อมมอบเงินส่วนพระองค์ให้นำไปทำทุนประกอบอาชีพอีกรายละ 500 บาท
ชาวอำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานสร้างบ้านช่วยชาวบ้านถูกไฟป่าลามเผาหมู่บ้านเสียหายจำนวนมากกว่า 124 ครอบครัวเมื่อปี 2515 ที่ผ่านมาพร้อมพระองค์ยังมอบเงินส่วนพระองค์ช่วยเหลือราษฎรให้แต่ละครอบครัวอีกรายละ 500 บาท ที่ชาวบ้านยังไม่เคยลืมและยังช่วยกันเก็บรักษาเงินส่วนหนึ่งไว้บูชากราบไหว้ และนำไปใช้ทำทุนประกอบอาชีพมาได้จนปัจจุบัน และจะขอพร้อมใจกันอนุรักษ์บ้านพระราชทานในหมู่บ้านทั้งหมดและเก็บรักษาเงินพระราชทานมานานกว่า44ปีใช้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของปวงชนชาวไทยปลุกสำนึกให้ลูกหลานชาวไทยช่วยกันอนุรักษ์ให้ยั่งยืนอยู่อย่างพอเพียงต่อไป หลังที่เคยได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นและจะขอใช้ชีวิตตามรอยคำสอนพ่อหลวงอยู่แบบพอเพียงตามรอยพระราชดำริต่อไป
คุณยายสำลี คลังชำนาญ อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 6 บ้านหนองไผ่ล้อม ตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ในอดีตเมื่อครั้งปี 2515 ชาวอำเภอแก้งคร้อ เคยได้รับพระเมตตามหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชครั้งใหญ่เมื่อเกิดเหตุมีไฟป่าในพื้นที่เกิดรุกลามไหม้เข้ามาในหมู่บ้านสร้างความเสียหายให้กับที่พักบ้านเรือนประชาชนในหลายครอบครัวเกือบทั้งหมู่บ้านกว่า 124 ครอบครัวไม่มีที่อยู่อาศัยฯ
จนเมื่อวันที่21มีนาคม พศ.2515เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีนาถด้วยเฮลิคอปเตอร์ เยี่ยมเยียนชาวบ้านที่เกิดไฟป่าไหม้หมู่บ้านเผาบ้านเรือนชาวบ้านกว่า124หลังคาเรือนในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างบ้านให้ชาวบ้าน124หลังพร้อมยังได้พระราชทานเงินให้ตนเองได้เก็บเงินฉบับละ100บาทที่ได้รับพระราชทานจากพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้ชาวบ้านคนละ100บาททุกคนทุกหลังคาเรือนอีกด้วย
ซึ่งในการก่อสร้างบ้านช่วยเหลือราษฎรในครั้งนั้นบ้านทุกหลังจะมีเสา9ต้นยกพื้นสูงหลังคามุงสังกะสีฝาบ้านทำจากไม้ไผ่หรือใบตองตึง ซึ่งคุณยายสำลี เล่าต่อทั้งน้ำตาอีกว่าไม่เคยลืมพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร. 9 และชาวบ้านทุกคนยังจำภาพติดตาไม่เคยลืมเลือนหลังจากที่ไฟไหม้หมู่บ้านใหม่ๆ ชาวบ้านเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ต้องออกไปขุดหาหัว ขุดหัวกลอยมากินแทนข้าวประทังชีวิต ข้าวสารไม่มีเหลือแต่เมล็ดเดียว เพราะบ้านเกือบทุกหลังโดนไฟป่าเผาไหม้ มีเพียงบ้าน 3 หลังเท่านั้นที่รอด หลังจากที่ได้รับพระราชทานบ้าน 1 หลังพร้อมเงินพระราชทาน 500 บาทที่ครอบครัวตนเองได้รับก็เก็บเงินไว้100บาทไว้เป็นขวัญถุงและอีก400 บาท นำไปใช้ลงทุนทำนาและใช้จ่ายในครัวเรือน
คุณยายสำลี กล่าวว่า ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแบบพอเพียงและตั้งแต่เมื่อวันที่13ตุลาคมเป็นต้นมายังร้องไห้ทุกวัน พ่อเราจากเราไปแล้ว ต่อแต่นี้ไปเราจะหาพ่อได้ที่ไหนอีก ชาวบ้านที่นี่หลายคนบอกว่าถ้าให้ตายแทนพระองค์ได้จะยอมตายแทน
นายคำแปลง หูชัยภูมิ อายุ75ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 6ตำบลนาหนองทุ่มและบ้านของนายทองสุข คำพล ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว แต่ญาติๆก็ยังรักษาแบบบ้านไว้แบบบ้านดั้งเดิมไว้คือมีเสา9ต้นหลังคามุงสังกะสียกพื้นสูงมีเพียงฝาบ้านเท่านั้นที่เปลี่ยนสังกะสี
ทางด้านนายสุวงค์ โคนชัยภูมิ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่6ได้กล่าว่า ชาวหมู่บ้านหนองไผ่ล้อมทุกหลังคาเรือนไม่เคยลืมพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเลยแม้จะผ่านมาถึง44ปีแล้ว ปัจจุบันบ้านหลายหลังยังมีรูปของพระองค์ฯครั้งเมื่อเสด็จมาเยี่ยมและสร้างบ้านพระราชทานให้เพื่อให้ลูกหลานในหมู่บ้านได้ช่วยกันอนุรักษ์สืบสานความเป็นอยู่อย่างพอเพียงในชุมชนแห่งนี้ต่อไป







