อัยการฯสาวลึก 'ธรรมกาย' ปมฟอกเงิน-กลุ่มทุนเลี่ยงภาษี

อัยการฯสาวลึก 'ธรรมกาย' ปมฟอกเงิน-กลุ่มทุนเลี่ยงภาษี

"อัยการพิเศษ" สาวลึก "ธรรมกาย" คดีฟอกเงิน เร่งสอบเพิ่มใบอนุโมทนาบัตร ออกให้กลุ่มทุน,ระบบการเงินวัด ตอบโจทก์ฟอกเงิน-เลี่ยงภาษีหรือไม่

นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินจากการยักยอกและฉ้อโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เปิดเผยภายหลังเข้าพบอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ว่า อัยการฝ่ายคดีพิเศษได้มีคำสั่งให้คณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว สอบสวนเพิ่มเติมในหลายประเด็นโดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายกับพระสงฆ์ลูกวัดใกล้ชิดรวม 5 รูป ที่มีตำแหน่งบริหารงานภายในวัด เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าภายในวัดได้จัดรูปแบบการบริหารจัดการเงินและจัดวางระบบงบประมาณของวัดอย่างไรบ้าง

รวมทั้งสั่งให้ตรวจสอบใบอนุโมทนาบัตรกับผู้บริจาคเงิน ซึ่งมีทั้งกลุ่มบริษัท ห้างร้าน นิติบุคคล และบุคคลที่เกี่ยวข้องว่ามีการหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่ เนื่องจากคดีนี้มีข้อสังเกตว่าวัดพระธรรมกายมีกลุ่มทุนเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก จึงต้องตรวจสอบให้ได้ความชัดเจนถึงยอดเงินบริจาคจริงกับยอดเงินที่แจ้งในใบอนุโมทนาบัตร ซึ่งนำไปใช้ยื่นลดหย่อนภาษี นอกจากนี้จะตรวจสอบถึงระบบการออกใบอนุโมทนาบัตรว่าถูกควบคุมและบริหารจัดการอย่างไร วัดพระธรรมกายดำเนินการเพียงลำพังหรือมีการกำกับควบคุมจากสำนักพระพุทธศาสนา รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ซึ่งจะต้องสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 11 ส.ค. นี้

นายขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ระหว่างนี้พนักงานสอบสวนได้แยกชุดสอบสวนลงพื้นที่สอบสวนเพิ่มเติมในทุกประเด็นที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษสั่งการ โดยจะส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมถึงอัยการก่อนวันที่ 11 ส.ค.นี้ เพื่ออัยการฝ่ายคดีพิเศษจะสามารถสั่งคดีได้ตามกำหนด ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินนั้น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ตรวจสอบเชิงลึกทำให้คดีมีความคืบหน้าพอสมควร แต่เนื่องจากคดีนี้เกี่ยวพันถึงกลุ่มบุคคลจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เงินบริจาคให้กับวัดพระธรรมกายมี 3 ประเภท คือ 1.เงินที่บริจาคด้วยความศรัทธา 2.เงินที่ได้จากการฟอกเงินผิดกฎหมาย เช่น เงินที่ได้รับบริจาคจากสหกรณ์คลองจั่นฯ และ 3.เงินที่บริจาคจากกลุ่มทุนที่เข้ามาบริจาคซึ่งอาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายหลบเลี่ยงภาษี