โปรตุเกสสถิติข่มโครแอต - โรนัลโด้พร้อมยิง

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016”
ผ่านมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว โดยจะเริ่มประเดิม 3 นัดแรก ในคืนวันเสาร์ที่ 25 มิ.ย. นี้ เริ่มจาก สวิตเซอร์แลนด์-โปแลนด์ ในเวลา 20.00 น. ต่อด้วยคู่ของ เวลส์-ไอร์แลนด์เหนือ ในเวลา 23.00 น. และปิดท้ายด้วยบิ๊กแมตช์ ระหว่าง โครเอเชีย กับ โปรตุเกส เวลา 02.00 น. โดยฝ่ายหลังที่นำโดย คริสเตียโน โรนัลโด แม้ฟอร์มล่าสุดจะเป็นรอง แต่สถิติในการพบกันที่ผ่านมา เป็นฝ่ายชนะรวดทั้ง 3 นัด ยิงได้ถึง 6 ลูกและไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว สวิตเซอร์แลนด์ – โปแลนด์ สนาม: สต๊าด เจฟฟรัว-กีชาร์, แซงต์-เอเตียน เวลา: 20.00 น. ผู้ตัดสิน: มาร์ค แคลทเท่นเบิร์ก (อังกฤษ) สวิตเซอร์แลนด์ รองแชมป์ของกลุ่ม เอ ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ของรายการนี้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยผลงานชนะ 1 เสมอ 2 ทว่า สถิติเกมรุกของทีมก็ยังไม่ดีนัก เมื่อยิงได้เพียง 2 ประตูจาก 3 นัด จากลูกเตะมุมทั้งหมด และนับเป็นทีมเดียวที่เหลืออยู่ในรายการที่ยังยิงประตูจากการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ไม่ได้ สภาพทีมล่าสุด ลูกทีมของ วลาดิเมียร์ เพตโควิช ลงซ้อมเป็นครั้งสุดท้ายที่ สต๊าด เด ลา มอสซง โดยไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ ส่วนผู้เล่นที่ถูกคาดโทษใบเหลืองก่อนเกม ประกอบด้วย วาลอน เบห์รามี่, บรีล เอ็มโบโล่, ฟาเบียน ชาร์ และ กรานิต ชาก้า โปแลนด์ ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ของรายการนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน ด้วยผลงานชนะ 2 เสมอ 1 มี 7 คะแนนเท่ากับ เยอรมนี แชมป์กลุ่มซี เป็นรองเรื่องประตูได้เสียเพียงลูกเดียว ส่วนสถิติในการพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ นั้น “เดอะไวท์อีเกิลส์” เป็นฝ่ายที่เหนือกว่า คือชนะ 4 เสมอ 5 แพ้เพียงนัดเดียว สภาพทีมล่าสุด อดัม นาวัลก้า ต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ วอจเซียค เชสนี ผู้รักษาประตู แต่หากหายไม่ทัน ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ที่ลงเฝ้าเสาแทนในนัดชนะ ยูเครน 1-0 ก็พร้อมทำหน้าที่ต่อ นอกจากนี้ จะไม่สามารถใช้งาน บาร์ตอสซ์ คาปุสตก้า กองกลางที่ติดโทษแบน
เวลส์ – ไอร์แลนด์เหนือ สนาม: ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์, ปารีส เวลา: 23.00 น. ผู้ตัดสิน: มาร์ติน แอตกินสัน (อังกฤษ) เวลส์ ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์รายการเมเจอร์ได้เป็นหนที่สอง ในฐานะแชมป์ของกลุ่มบี ด้วยสถิติชนะ 2 แพ้ 1 โดยเป็นทีมที่ยิงประตูในรายการนี้ได้มากที่สุด (6 ประตู) ร่วมกับ ฮังการี สภาพทีมล่าสุด คริส โคลแมน จะไม่มีผู้เล่นอย่าง ทอม แบรดชอว์, อดัม เฮนลีย์, ทอม ลอว์เรนซ์ และ อดัม แมทธิวส์ แต่ไม่น่าจะเป็นปัญหา โดยจะยึดผู้เล่นจากนัดล่าสุดที่ชนะ รัสเซีย 3-0 เป็นหลัก นำโดย แกเร็ธ เบล ดาวซัลโวสูงสุดของรายการ (3 ประตู) และ แอรอน แรมซีย์ (1 ประตู 2 แอสซิสต์) เช่นเดิม ไอร์แลนด์เหนือ ผ่านเข้าสู่รอบนี้ในฐานะทีมอันดับ 3 ของกลุ่มซี ด้วยสถิติชนะ 1 แพ้ 2 และเป็นทีมที่มีสถิติการครองบอลต่ำที่สุดในรายการ เพียง 28.5% เท่านั้น
ในการเตรียมทีมก่อนเกมนี้ ไมเคิ่ล โอนีล จะต้องขาด คริส บรันท์ กองกลางคนสำคัญที่เจ็บเข่า ส่วน ไมเคิ่ล แม็คกัฟเวิร์น ผู้รักษาประตูที่เป็นฮีโร่ในนัดพบเยอรมนี ได้รับอนุญาตให้พักไม่ต้องลงซ้อมกับทีม แต่จะกลับมาลงช่วยทีมในเกมนี้ได้ตามปกติเช่นเดียวกับตัวหลักคนอื่นๆโครเอเชีย – โปรตุเกส สนาม: สต๊าด โบลลาร์-เดอเลลิส, ล็องส์ เวลา: 02.00 น. ผู้ตัดสิน: การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโญ่ (สเปน) โครเอเชีย แชมป์กลุ่มดี ผ่านเข้ารอบมาด้วยสถิติ ชนะ 2 เสมอ 1 โดยผลงานล่าสุดคือการแซงชนะ สเปน 2-1 ในนัดสุดท้ายของรอบแรก หยุดสถิติไร้พ่ายของทีมแชมป์เก่าไว้ที่ 14 นัด
สภาพทีมล่าสุด โค้ช อันเต ซาซิช ไม่มีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แม้ว่าจะมีนักเตะคาดโทษใบเหลืองอยู่ถึง 8 คนก็ตาม โดยทั้ง 23 คนกลับมาลงซ้อมอย่างพร้อมหน้าที่เทรนนิ่งแคมป์ใน โดวิลล์ ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รวมถึง ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญซึ่งได้พักในเกมชนะ สเปน 2-1 และ เวดราน ชอร์ลูก้า เซนเตอร์ฮาล์ฟคนสำคัญซึ่งบาดเจ็บศีรษะจากนัดแรกที่พบตุรกีด้วย ด้าน โปรตุเกส ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ ในฐานะทีมอันดับ 3 ของกลุ่มเอฟ ด้วยผลงานเสมอ 3 นัดรวด แม้จะยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่สถิติในเกมอย่างเป็นทางการนั้น พวกเขาไม่แพ้ใครมา 10 นัดติดต่อกันแล้ว (ชนะ 7 เสมอ 3) โดยใน 7 นัดที่ชนะ เป็นการเฉือนชนะคู่แข่งเพียงประตูเดียวทั้งหมด
ในส่วนของความพร้อมล่าสุด นอกเหนือจากการซ้อมยิงจุดโทษแล้ว เฟร์นานโด ซานโตส โค้ชของทีมสั่งให้ผู้เล่นตัวจริงฝึกซ้อมเฉพาะในโรงยิม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น โดยทั้งหมดจะกลับมาลงสนามอีกครั้ง นำโดย คริสเตียโน โรนัลโด ดาวซัลโวประจำทีมที่เพิ่งคืนฟอร์มเก่งยิง 2 ประตูในนัดล่าสุด ทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิงประตูในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 4 สมัยซ้อน







