'ขนส่ง' เล็งยึดใบขับขี่คดีเสี่ยรถเบนซ์ชนฟอร์ด

"อธิบดีกรมขนส่ง" ชี้หากพบเสี่ยรถเบนซ์ดัง ขับรถโดยประมาทเตรียมยึดใบอนุญาตขับขี่ 1 ปีทันที ด้าน กทพ. ไม่แจ้งความ เหตุไม้กั้นไม่ชำรุด
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวถึงกรณีรถเบนซ์ ทะเบียน ษง 3333 กทม. ที่ก่อเหตุขับรถพุ่งชนรถฟอร์ด เฟียสต้า โดยระบุว่า ปัจจุบันเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคม และถือเป็นคดีร้ายแรงที่มีผู้เสียชีวิตถึง 2 คน ส่งผลให้ปัจจุบัน ขบ.อยู่ระหว่างเก็บรวบรวมหลักฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำมาพิจารณาฐานความผิดของผู้ขับขี่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รถยนต์ พ.ศ.2522 โดยขณะนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากับผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.จราจรไปก่อนหน้านี้แล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี
“ขณะนี้รถก็ถูกตำรวจยึดไว้เป็นของกลาง ส่วนตัวผู้ขับขี่ก็นอนอยู่โรงพยาบาล ดังนั้น ขบ.จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำผู้ขับขี่ให้เสร็จก่อน จากนั้นจะไปขอคัดสำเนาปากคำผู้ขับขี่มาใช้ในการพิจารณาความผิด หากตำรวจชี้ว่าคนขับประมาทและถูกลงโทษตามความผิดเกี่ยวกับการ พ.ร.บ. จราจรขบ.จะดำเนินการยึดใบอนุญาตขับขี่เป็นระยะเวลา 1 ปีทันที”
นายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กพท.) เผยว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังบริเวณด่านพระราม 4 ที่มุ่งหน้าไปยังดินแดง พบว่าเมื่อเวลา 10.58 น. ของวันที่13 มี.ค.ที่ผ่านมา รถเบนซ์ ทะเบียน 3333 ซึ่งกำลังกลายเป็นข่าวดังมีการขับรถผ่านเข้ามาใช้ทางพิเศษในช่องทางเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ หรืออีซีพาส บริเวณช่องทางที่ 2 ของด่านพระราม 4 จุดที่ 2 จริงโดยรถคันดังกล่าวได้ขับมาเข้ามายังช่องทางมาด้วยความเร็ว เมื่อใกล้ถึงตู้เก็บเงินคนขับได้เปิดกระจกยกกล่องอีซีพาสขึ้นโบกให้สัญญาณในบัตรเชื่อมต่อกับกล่องรับสัญญาณหักเงินค่าผ่านทางที่ แต่เนื่องจากรถขับมาด้วยความเร็วทำให้บัตรและกล่องรับสัญญาณไม่เชื่อมต่อกันไม้กั้นจึงไม่เปิด จึงทำให้รถวิ่งชนฝ่าไม้กั้นออกไปด้วยความเร็ว
“เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าไม่กั้นที่ถูกชนไม่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งผู้ขับขี่ก็มีการติดตั้งเครื่องมือรับ และส่งสัญญาณอีซี่พาส และขับเข้ามาใช้ช่องทางอีซี่พาสตามปกติดังนั้นผู้ขับขี่จึงไม่มีความผิดอะไร และในเมื่อไม้กั้นไม่ได้รับความเสียหาย กทพ.ก็ไม่ได้แจ้งความเรียกร้องค่าเสียหายอะไร"
อย่างไรก็ตาม กทพ.จะต้องกลับไปหักเงินค่าผ่านทางย้อนหลังกับรถคันดังกล่าวด้วยจำนวน 50 บาท เพราะในวันเกิดเหตุไม้กั้นไม่เปิดก็เท่ากับว่ายังไม่มีการเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างบัตรอีซี่พาสกับตู้เก็บเงินจึงยังไม่มีการหักเงินค่าผ่านทาง ส่วนกรณีการขับรถเร็วบนทางด่วนนั้นจะต้องไปสอบถามกับตำรวจทางด่วนว่าจะมีการดำเนินคดีหรือไม่







