ช้างบุกหมู่บ้านใกล้ป่ารอยต่อ5จว. เหยียบชาวบ้านดับ1

เหตุระทึก! ช้างป่าบุกเข้าสู่หมู่บ้านชาวไร่ เผยพฤติกรรมเหี้ยมใช้งวงกระชากชาวบ้านลงมาจากที่พัก ก่อนนำมาเหวี่ยงฟาดลงพื้นเหยียบจนสิ้นใจตาย
พร้อมกระทืบทิ้งเครื่องจักรกลทางการเกษตรให้สาแก่ใจด้วย ด้านหัวหน้าเขตฯ ระบุเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้งช้างขาดน้ำ ทั้งยังติดใจในรสชาติของพืชไร่ที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้
เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.ท.บันเทิง เกาไศยนันท์ พนักงานสอบสวน สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จุดบ้านนาอีสาน พื้นที่ ม.16 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ว่าเกิดเหตุช้างป่าบุกเข้ามาเหยียบชาวบ้านจนเสียชีวิตถึงในไร่ด้านท้ายหมู่บ้าน ใกล้กับแนวเขตป่าสงวน หรือป่ากันชนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี) ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตคาที่ 1 ราย จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพ นายบุญมี อุ่นสำโรง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 428 ม.16 ต.ท่ากระดาน นอนเสียชีวิตจมพื้นดินที่บริเวณด้านหน้าเพิงพัก ซึ่งปลูกสร้างแบบถาวรด้วยไม้ยกพื้นสูงประมาณ 2 เมตร ฐานเสาคอนกรีต หลังคามุงสังกะสี สภาพมีร่องรอยถูกช้างเหยียบที่หน้าหน้าอกจนยุบ และที่ใบหน้ามีร่องรอยของเท้าช้างเหยียบย่ำซ้ำไปมาหลายครั้ง นอกจากนี้ ในบริเวณโดยรอบยังพบเครื่องมือทางการเกษตรถูกทำลายเสียหาย เช่น รถอีแต๊ก หรือรถไถเดินตามแบบมีหางพ่วงเป็นกระบะท้าย ถูกช้างใช้เท้าเหยียบขึ้นไปขย่มจนเพลาล้อขาดหลุดพับลงมากองอยู่กับพื้นดินทั้งสองล้อ
จากการสอบถามชาวบ้านข้างเคียง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเดินทางมานอนเฝ้าไร่เช่นเดียวกัน ระบุว่าได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ และเสียงของช้างป่าที่ออกมาอาระวาดภายในบริเวณสวนปาล์ม และไร่มันสำปะหลังของนายบุญมี ผู้ตาย ซึ่งอยู่ห่างจากท้ายหมู่บ้านประมาณ 2 กม. และอยู่ใกล้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ประมาณ 500 เมตร โดยทุกคืนผู้ตายจะเดินทางมานอนเฝ้าอยู่ที่ไร่แห่งนี้
“โดยเมื่อคืนได้ยินเสียงของช้างป่าเข้ามาวนเวียนใกล้บริเวณแนวชายป่าตั้งแต่เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.50 น. ต่อมาในเวลา 04.00 น. จึงได้ยินเสียงคนร้องด้วยความเจ็บปวด และเสียงช้างที่กำลังทำร้ายคน และทำลายข้าวของ แต่ชาวบ้านไม่กล้าออกมาดู หรือให้การช่วยเหลือ โดยรอจนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. ชาวบ้านจึงได้พากันเดินทางเข้ามาดูยังจุดเกิดเหตุ และพบว่าผู้ตายนั้น ได้ถูกช้างป่าเหยียบจนเสียชีวิตไปแล้ว” ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน จากสภาพร่องรอยที่พบในบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น เชื่อว่า ขณะเกิดเหตุช้างป่าเข้ามาทำลายข้าวของ และเครื่องมือทางการเกษตรภายในบริเวณเพิงพักเฝ้าไร่ของผู้ตายนั้น นายบุญมี อาจจะใช้ไฟฉายส่องดู และพบว่าเป็นช้างป่า ขณะเดียวกันช้างป่าตัวดังกล่าว น่าจะเป็นช้างตัวผู้และอยู่ระหว่างตกมัน จึงได้ใช้งวงตะวัดลากผู้ตายลงมาจากเพิงพัก ก่อนจะจับร่างฟาดลงกับพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบย่ำซ้ำไปมา โดยใช้งวงพลิกร่างของผู้ตายกลับไปกลับมา และเหยียบจนเสียชีวิต
ด้าน นายเสริมพันธ์ สาริมาน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน กล่าวว่า สาเหตุที่ช้างป่าออกไปรบกวนชาวบ้าน เนื่องจากขณะนี้กำลังเข้าสู่ฤดูแล้ง ทำให้ช้างขาดน้ำ เพราะในเขตพื้นที่ป่ามีแหล่งน้ำ และอาหารไม่เพียงพอ เนื่องจากในการสำรวจล่าสุดของทางศูนย์วิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา เมื่อช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานั้นพบว่า ในเขตพื้นที่ป่ารอยต่อห้าจังหวัดภาคตะวันออกนั้น มีจำนวนช้างเพิ่มขึ้นมากถึง 364 ตัวแล้ว จากเดิมมีเพียง 200 กว่าตัว
“ประกอบกับช้างป่าในบริเวณนี้ ยังเคยออกไปจากป่าอยู่เป็นประจำ จึงได้ติดใจในรสชาติของอาหาร หรือพืชไร่ที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้ โดยทางเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าได้พยายามแก้ไขด้วยวิธีการขุดคู หรือแนวกันช้างป่าเอาไว้โดยรอบเขตพื้นที่รวมระยะทางกว่า 100 กม.แล้ว แต่ยังคงมีช้างป่าบางส่วนที่ยังสามารถเดินออกจากป่าไปได้ รวมถึงยังมีช้างป่าที่ยังคงอาศัยอยู่ในเขตป่าสงวนซึ่งอยู่นอกแนวเขตคูกันช้าง ที่ยังสามารถออกไปหากินกับพืชไร่ ที่ชาวบ้านปลูกไว้ได้อีก ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ตนเองจะเดินทางเข้าไปยังที่เกิดเหตุ และร่วมงานศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” นายเสริมพันธ์ กล่าว







