ทัพไทยลุ้นระทึกชิงเจ้าเหรียญทอง

โดยคณะนักกีฬาไทยยังเก็บเหรียญทองเพิ่มต่อเนื่อง ทั้งจากเทนนิสที่วันสุดท้ายทำได้จากชายเดี่ยวและหญิงคู่ พลาดไปแค่คู่ผสม ทำให้ทีมเทนนิสไทยกวาดเบ็ดเสร็จ 6 ทอง 2 เงิน 3 ทองแดง, เรือพาย กรรเชียงหญิงของ พุทรักษา นิกรี, ปัญจสีลัตที่ชิง 4 ได้มา 3 ทอง 1 เงิน ทำให้ในตารางเหรียญไทยยังนำเป็นอันดับ 1 มี 86 ทอง 82 เงิยน 63 ทองแดง ขณะที่สิงคโปร์เจ้าภาพมี (80-71-98) ส่วนเวียดนาม (72-49-56) ขณะที่เหลือคิวแข่งขันอีก 2 วัน และมีการชิงเหรียญแค่ 17 เหรียญ ซึ่งไทยยังมีลุ้นจากกีฬาประเภททีมทั้งจากฟุตบอล, เปตอง, วอลเลย์บอล, ตะกร้อ และ แบดมินตัน รวมแล้วราว 7 เหรียญทอง มีโอกาสที่จะคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ เป็นสมัยที่ 13 ในขณะที่ สิงคโปร์ เจ้าภาพ ก็ยังมีลุ้นจากโปโลน้ำและสควอช

ในส่วนของไฮไลท์ในการแข่งขันเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ปันจักสีลัต รอบชิงชนะเลิศ นักกีฬาเข้าชิงเหรียญทอง 4 รุ่น คว้าได้ 3 ทอง ประเภทต่อสู้ รุ่นบี 50-55 กก.หญิง สุดา เหลืองอภิชาติกุล ชนะ ออระไท สวนทะวง จากลาว 3-2 คะแนน , รุ่นซี 55-60 กก.ชาย อดิลัน เจ๊ะแมง ชนะ เหวียน เหวียน ไธ ลินห์ จากเวียดนาม หลังนักกีฬาเวียดนามถูกปรับแพ้, และ รุ่นดี 60-65 กก.ชาย พรเทพ พูลแก้ว ชนะ มูฮัมหมัด ฟามิ รอมลี่ จากมาเลเซีย 5-0 คะแนน

นอกจากนี้ รุ่นบี 50-55 กก.ชาย นันทชัย ขันธ์สาคร ซึ่งเป็นแชมป์เก่า และแชมป์โลกปีล่าสุด ถูกปรับแพ้ให้กับ มูฮัมเหม็ด ไฟซัล นาเซอร์ อดีตแชมป์โลกจากมาเลเซีย โดย นันทชัย แทงเข่าคู่แข่งเสือเหลืองจนลงไปนอนกองกับพื้น แต่กรรมการมองว่าไทยทำผิดกติกา จึงปรับให้ไทยแพ้ฟาวล์ แม้ทีมสตาฟโค้ชจะประท้วงแต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้ นันทชัย ได้เพียงเหรียญเงิน สรุปทีมไทย คว้า 3 ทอง 1 เงิน

นายเกษม เบ็ญจวงศ์ ผู้จัดการทีมปันจักสีลัตไทย กล่าวว่า ผลงาน 3 ทอง 1 เงิน ถือว่าผลงานเกินเป้า เพราะตั้งไว้เพียง 2 ทองเท่านั้น โดย นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมปันจักสีลัตไทยเตรียมมอบเงินอัดฉีดให้กับนักกีฬาที่ได้เหรียญทองจะได้รับคนละ 200,000 บาท รวมกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติจะได้รับคนละ 400,000 บาท ซึ่งหลังจากนั้นจะเก็บตัวซ้อมนักกีฬาต่อเพื่อส่งไปลุยศึกปันจักสีลัตชิงแชมป์โลก 2015 ที่ประเทศอินโดนีเซียต่อไป

เรือกรรเชียง “แพท” พุทธรักษา นีกรี ฝีพายวัยเก๋าคว้าทองในรายการกรรเชียง 1 คน พายคู่หญิง รุ่นไลท์เวต ทำเวลา 3.55.27 นาที คว้าเหรียญทองมาครองตามคาด ส่งผลให้ พุทธรักษา แข่งซีเกมส์ 9 ครั้ง ทำได้ถึง 16 ทอง พุทธรักษา กล่าวว่า พอใจกับผลงาน เพราะว่าก่อนแข่งขันมีอาการบาดเจ็บหลัง โดยหลังจากนี้ จะต้องสร้างเนื้อให้แข็งแกร่งกว่านี้ หากจะได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2016 อย่างไรก็ตามสถิติตอนนี้ทำได้ดีกว่าการเล่นทีมชาติช่วงแรกๆ เมื่อ 20 ปีก่อน และมั่นใจว่ามีโอกาสได้ไป “ริโอเกมส์” ในประเภทกรรเชียงพายคู่

ขณะที่ น.ต.ปรีชา พ่วงไพโรจน์ ผู้ฝึกสอนเรือพาย กล่าว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตามเป้า 12 ทอง แต่นักกีฬาไทยชุดนี้อายุค่อนข้างน้อย แต่สามารถทำผลงานได้ระดับนี้ ทำให้มองเห็นอนาคตของกีฬาเรือพายมากขึ้น

สรุป ผลงานเรือพายไทยคว้าไป 11 ทอง 10 เงิน 4 ทองแดง แบ่งเป็น กรรเชียง 2 ทอง 4 เงิน 3 ทองแดง แคนู-คยัก 4 ทอง 6 เงิน 1 ทองแดง เรือยาวประเพณี 5 ทอง 3 เงิน