ผบ.ทบ.ร่วมจารึกนามวีรชนทหารกล้า พลีชีพชายแดนไทย – กัมพูชา บนกำแพงอนุสรณ์

ผบ.ทบ.ร่วมจารึกนามวีรชนทหารกล้า พลีชีพชายแดนไทย – กัมพูชา บนกำแพงอนุสรณ์

ผบ.ทบ.ร่วมพิธีจารึกนาม“วีรชนทหารกล้า”กรณีพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา บนกำแพงอนุสรณ์กองทัพบก พร้อมสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 กองทัพบกจัดพิธีสดุดีกำลังพลที่เสียชีวิตจากสถานการณ์กรณีพิพาทชายแดน ไทย–กัมพูชา เพื่อรำลึกและยกย่องวีรกรรมอันกล้าหาญของทหารผู้เสียสละ ณ กองบัญชาการกองทัพบก  โดยมี พลเอก พนา  แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธาน  พลโท อมฤต  บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1, พลโท บุญสิน  พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2, พลโท ไพบูลย์  พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก, พลโท ณรงฤทธิ์  คำภีระ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ, ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงกองทัพบก, ผู้บังคับบัญชาและทายาทของผู้เสียชีวิต, ผู้แทนองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, ทหารผ่านศึก และกำลังพลกองทัพบกเข้าร่วมพิธี

โดยพิธีฯจัดขึ้นบริเวณหน้ากำแพงอนุสรณ์กองทัพบก ซึ่งเป็นสถานที่สถิตนามวีรชนกองทัพบกที่สละชีพเพื่อชาติปกป้องแผ่นดินไทยในสมรภูมิสู้รบต่าง ๆ เริ่มต้นด้วยพิธีทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้แด่ทหารผู้ล่วงลับ จากนั้นมีการจัดกองทหารเกียรติยศแสดงความเคารพ ก่อนที่ผู้เข้าร่วมพิธีจะกล่าวคำสดุดีฯ และผู้บัญชาการทหารบกประดับแผ่นป้ายจารึกรายนามทหารกล้าที่สละชีพเพื่อชาติจากสมรภูมิชายแดนไทย – กัมพูชา ลงบนแท่นประทับ โดยมีพลแตรเดี่ยวเป่าเพลงเคารพพร้อมกับการยิงสลุตเพื่อเป็นเกียรติแก่กำลังพลที่เสียชีวิตฯ และการวางพวงมาลาเพื่อแสดงความอาลัยแด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษนักรบไทย 

ผบ.ทบ.ร่วมจารึกนามวีรชนทหารกล้า พลีชีพชายแดนไทย – กัมพูชา บนกำแพงอนุสรณ์

 

รายนามวีรชนทหารกล้าหาญจากสมรภูมิรบชายแดนไทย – กัมพูชา ที่ถูกจารึกไว้ ณ กำแพงอนุสรณ์กองทัพบกในวันนี้ มีทั้งสิ้น 16 นาย ดังนี้

1. จ่าสิบเอก ธวัชชัย  บุสภา สังกัด กองพันปืนใหญ่ที่ 106 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 6

2. จ่าสิบเอก ธีระยุทธ  สีจุ้ยจ้าย สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13

3. จ่าสิบเอก อโณทัย  ป้องแก้ว สังกัด กองพันปฏิบัติการพิเศษ

4. จ่าสิบเอก อภิรมย์  ทรงพุฒิ สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 8

5. สิบเอก กฤษฎา  น้อยโครต สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6

6. สิบเอก จิรายุ  สิงห์อ้น สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6

7. สิบเอก จิรายุส  อินทุมาน สังกัด กองพันจู่โจม

8. สิบเอก นพพล  บุญเลิศ สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6

9. สิบเอก อัมรินทร์  ผาสุข สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23

10. สิบโท ต่อพงษ์  พันดวง สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16

11. สิบโท ศราวุฒิ  นามสวัสดิ์ สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 8

12. สิบตรี วรัญชิต  ยวงสุวรรณ สังกัด กรมทหารราบที่ 13

13. พลทหาร ญาณพัฒน์  โครตสาขา สังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3

14. พลทหาร ธีรยุทธ  กระจ่างทอง สังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2

15. พลทหาร พิทยุตม์  โสดา สังกัด กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23

16. พลทหาร สิรวิชญ์  ภิญโญสุข สังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8

นอกจากนี้ ยังมีการจัดพิธีสงฆ์อุทิศส่วนกุศลแด่กำลังพลที่เสียชีวิตฯ ณ หอประชุมกิตติขจร โดยมี พระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา  สิริจนฺโท หรือ หลวงปู่ศิลา) วัดพระธาตุหมื่นหิน จังหวัดกาฬสินธุ์ และคณะ ประกอบพิธีสงฆ์ ได้แก่ การสวดพระพุทธมนต์ การถวายภัตตาหารและเครื่องไทยธรรม พร้อมทั้งทอดผ้าบังสุกุล 

จากนั้นเป็นพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิตฯ โดยผู้เข้าร่วมพิธีได้รับชมวีดิทัศน์สดุดีกำลังพลที่เสียชีวิตฯ ก่อนที่ผู้บัญชาการทหารบกจะมอบเงินช่วยเหลือและของที่ระลึกให้แก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิตฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครอบครัวทหารกล้าผู้เสียสละ รวมถึงมีการบรรยายพิเศษโดย พลเอก บุญสิน  พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อให้ข้อคิดและสร้างแรงบันดาลใจแก่กำลังพลกองทัพบก
 
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวสดุดีและเชิดชูเกียรติกำลังพลที่เสียชีวิตฯ ความว่า “เหล่าทหารหาญได้อุทิศกำลังกาย กำลังใจ ยืนหยัดต่อสู้ และยอมสละชีพ เพื่อปกป้องเอกราช อธิปไตยของชาติ ด้วยความองอาจ สมเกียรติและศักดิ์ศรีของการเป็นชายชาติทหาร แม้ในสมรภูมิจะเต็มไปด้วยอันตรายและสถานการณ์ความตึงเครียดที่ไม่อาจประเมินได้ แต่ทหารกล้าทั้งหลาย มิได้ย่อท้อต่อภารกิจ พร้อมเป็นแนวหน้าปฏิบัติหน้าที่ต่อต้านผู้รุกราน เพื่อรักษาไว้ซึ่งบูรณภาพแห่งดินแดนให้ชนในชาติได้มีแผ่นดินอยู่อาศัยด้วยความสงบสุขร่มเย็น ในนามของกองทัพบก ขอสดุดี และเชิดชูวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของเหล่าวีรชนทหารกล้าที่ได้ทำหน้าที่ทหารของชาติอย่างสมบูรณ์ 

โดยกองทัพบกจะดูแลครอบครัวของเหล่าทหารกล้าให้ดีที่สุดเพื่อเชิดชูเกียรติและตอบแทนความเสียสละของท่านเหล่านี้ คุณงามความดี และความกล้าหาญเสียสละของทุกท่านจะไม่มีวันสูญเปล่า และจะเป็นเกียรติภูมิที่สถิตอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไป”