สมโภชเชียงใหม่ 729 ปี 'มาดามหยก' ระดมช่างฟ้อนเล็บ ลงกินเนสส์บุ๊ก

"มาดามหยก" จัดเต็ม สมโภชเชียงใหม่ 729 ปี ระดมช่างฟ้อนเล็บกว่า2หมื่นชีวิต หนุน Soft Power บันทึก “กินเนสส์บุ๊ก” 19 เม.ย. นี้
10 เม.ย.2568 นางสาวกชพร เวโรจน์ (มาดามหยก)ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ประธานชมรม CHANGE TOGETHER & INDY TEAM
และ ประธานคณะทำงาน บันทึก World Records งานสมโภช 729 ปีเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า งานดังกล่าวจัดขึ้นในวันที่ 19 เมษายน 2568 ถือเป็นงานสำคัญของชาวเชียงใหม่ เพื่อระลึกถึงและน้อมบูชาถวายบูรพกษัตริย์ตลอดจนบรรพบุรุษแห่งเมืองล้านนา โดยมีสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ เป็นหน่วยงานหลัก ในการจัดงาน ร่วมกับหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงประชาชน โดยมีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 729 รูป เท่ากับอายุของเมืองเชียงใหม่
นางสาวกชพร กล่าวว่า ภายในงานจะมีช่างฟ้อนเล็บกว่า 2 หมื่นคน ที่บริเวณราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งจะเป็นแถวที่ยาว และงดงามมาก โดยจะมีการบันทึกสถิติโลก กินเนสส์บุ๊ก เวิลด์เรคคอร์ด ด้วย โดยขณะนี้มีความพร้อมแล้วมั่นใจว่าจะทำให้ทั่วโลก และนักท่องเที่ยว จะได้ประจักษ์ถึงความงดงาม ได้เห็นว่าเมืองเชียงใหม่ มีศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และ Soft Power ที่สวยงามมีความเป็นมาอย่างยาวนาน นานาประเทศจะได้เห็นความงดงามของวัฒนธรรมไทยเราว่างดงามมากเพียงใด จนอยากเดินทางมาสัมสัมผัสด้วยตนเองซักครั้ง เป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว คงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และชื่อเสียงของเมืองเชียงใหม่อย่างมาก
ส่วนตัวรู้สึกดีใจ เป็นเกียรติ และยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในงานนี้ อยากให้ประชาชน โดยเฉพาะชาวเชียงใหม่ได้ภูมิใจ ที่เรามีประเพณีที่ดีงาม มีศิลปะวัฒนธรรมที่สวยงามมากๆ ชาวต่างชาติชื่นชอบ รู้จักวัฒนธรรมไทยเราเป็นอย่างดี จึงอยากให้ชาวเชียงใหม่ทุกคนตระหนักว่าเชียงใหม่เป็นบ้านของพวกเราทุกคน
ดังนั้นเราควรเป็นเจ้าบ้านที่ดี อีกทั้งภาคภูมิใจที่เรามีสิ่งดีๆให้สืบสานต่อยอด ยิ่งช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก เราต้องทำให้นักท่องเที่ยวได้มาเห็นความสวยงาม ความพร้อมเพรียง มีระเบียบวินัย ได้เห็นจารีตประเพณีที่งดงาม ของเมืองเชียงใหม่ ที่สำคัญงานนี้ ยังแสดงให้เห็นถึง Soft Power ของเมืองเชียงใหม่ ประเทศไทย ขอให้ช่วยกันสืบสานต่อยอด ความเป็นอัตลักษณ์ของล้านนาในครั้งนี้
นางสาวกชพร ย้ำว่า ภูมิใจที่เมืองเชียงใหม่ มีอายุยาวนานถึง 729 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเรามีรากเหง้า มีพื้นฐานวัฒนธรรมที่ยาวนาน จึงอยากให้ทุกคนภูมิใจ และคงความเป็นอัตลักษณ์ ตรงนี้ไว้ อย่างไรก็ตามคาดว่าในงานครั้งนี้ ซึ่งเป็น Soft Power และส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่ คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท ในช่วงเวลาอันสั้น โดยยังไม่ต้องหวังพึ่งคาสิโน ที่สำคัญจะเป็นการปูทางไปถึงการพิจารณาเชียงใหม่มรดกโลกได้อีกด้วย ดังนั้นจึงขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่ ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี มารอต้อนรับ ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในงานนี้ด้วยกัน ท่านที่อยู่ไกลบ้านถือโอกาสช่วงปีใหม่ไทยนี้กลับมาพบเจอพ่อแม่ญาติพี่น้องความอบอุ่นที่เชียงใหม่







