'เศรษฐา' ดูพัฒนากาฬสินธุ์ยกระดับเป็นแลนมาร์ค ชมบริหารจัดการน้ำได้ดี

'เศรษฐา' ดูพัฒนากาฬสินธุ์ยกระดับเป็นแลนมาร์ค ชมบริหารจัดการน้ำได้ดี

“เศรษฐา” ดูพัฒนากาฬสินธุ์ยกระดับแลนมาร์คใหม่ ก่อนถกจังหวัด ชมบริหารจัดการน้ำได้ดีแต่ต้องสอดคล้องภาพใหญ่ พร้อมจัดสรรงบให้ หากเสนอสมเหตุสมผล ไม่ขัดระเบียบราชการ 

เมื่อเวลา 13.15 น.  วันที่ 2 มี.ค. ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รับฟังการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแลนมาร์ค (Landmark) และจุดแวะพักของจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ บึงอร่าม ตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยนายกฯสวมเสื้อผ้าไหมแพรวาสีเหลือง จากกลุ่มแพรวาโสภารักษ์ ชื่อผ้าตัดชุดลายนาค ใบบ่นช่อสน ย้อมด้วยเปลือกต้นมะหาด ต้นไม้ประจำจังหวัด 

เมื่อมาถึงนายกฯได้รับฟังรายงานศักยภาพจังหวัดในการสร้างแลนมาร์ค โดยจะมีการสร้างประติมากรรมไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุด มีระเบียงริมน้ำ มีไดโนเสาร์พ่นน้ำ มีจุดจำหน่ายสินค้า ลานกิจกรรมต่างๆเพื่อรองรับ โดยนายกฯได้รับมอบของที่ระลึกเป็นตุ๊กตาไดโนเสาร์ เนื่องจากจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นหนึ่งในแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์ และที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์สิรินธร ซึ่งเก็บรวบรวมโครงกระดูกของไดโนเสาร์ที่เจอในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ด้วย

จากนั้นนายกฯเดินชมบูธกิจกรรมต่างๆ และได้ชิมพุทรานมสด พร้อมชมว่าอร่อย และยังได้ชิมน้ำอ้อย ซึ่งสส.ในพื้นที่ถามด้วยว่า มากาฬสินธุ์ชิมน้ำอ้อยชื่นใจหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ชื่นใจ และนายกฯยังได้ชิมขนมบ้าบิ่น พร้อมอุดหนุนขนมถั่วตัด 20 ถุงไปฝากแม่ และอุดหนุนผ้าไหมแพรวา 2 ผืน 11,000 บาท 

ระหว่างเดินทักทายประชาชน และสมาชิก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นายเศรษฐา กล่าวกับ อบจ. ว่า ตนมาวันเสาร์ลำบากหน่อยนะ  และก่อนเดินทางไปจุดต่อไปได้มีประชาชนมาสวมกอดและกล่าวว่า รักนายกฯมาก

จากนั้นเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือประเด็นปัญหาและแผนพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ โดย นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวรายงานตอนหนึ่งว่า ชาว จ.กาฬสินธุ์ มีความยินดีอย่างยิ่งที่นายกฯ และคณะได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของนายกฯ และรัฐบาลที่มีต่อประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลในส่วนของ จ.กาฬสินธุ์ เรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มีผู้ลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือจำนวน 2,400 รายมากเป็นลำดับที่ 24 ของประเทศ การไกลเกลี่ยหนี้นอกระบบของ จ.กาฬสินธุ์มี ผลงานอยู่ที่ลำดับ 10 ของประเทศ การจัดระเบียบสำคัญและปราบปรามผู้อิทธิพลของ จ.กาฬสินธุ์ มีสถานะพื้นที่เฝ้าระวังสีเหลือง มีรายชื่อบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง 60 ราย รวมถึงการดำเนินการเรื่องการป้องกันยาเสพติด 

    ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในโอกาสที่นายกฯได้มาตรวจเยี่ยม จ.กาฬสินธุ์ ในวันนี้ ทางจังหวัดได้เสนอโครงการเพื่อขอรับสนับสนุนผลักดันจำนวน 16 โครงการงบประมาณ 2,013,933,000 บาท ประกอบด้วยด้านบริหารจัดการน้ำ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และศูนย์กระจายสินค้า และด้านแพทย์ และสาธารณสุข

     จากนั้น นายกฯ ได้มอบนโยบายกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยที่เดินทางมาในวันหยุด แต่ทุกคนทราบดีว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนมีอยู่มาก หากมีโอกาสเราก็ต้องช่วยกันทำงานก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่2 ที่ได้ลงมา จ.กาฬสินธุ์ ครั้งแรกคือหาเสียง ส่วนวันนี้มาดูปัญหาว่าพี่น้องประชาชนว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วศักยภาพของ จ.กาฬสินธุ์ ต้องถูกฉายออกมาอีก ดังนั้นการที่เราลงพื้นที่ครบทุกหน่วยงาน เชื่อว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะเป็นการเริ่มต้นซึ่งการที่รัฐบาลนี้ได้ทำงานมา 6 เดือนแล้ว แม้ว่าจะมาช้าไปนิดหนึ่ง แต่ก็ยืนยันว่าจะมาในทุกๆปีเพื่อมาติดตามผลงานที่เราได้ลงมาแต่ละปี ซึ่งปีนี้ก็มีโครงการอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อมด้านการบริหารจัดการน้ำ เพราะแผนที่จังหวัดเสนอมาไม่ใช่แผนเฉพาะหน้า แต่เป็นแผนทั้งระบบจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน และส่วนท้องถิ่น ทำงานอย่างบูรณาการร่วมกัน ซึ่งโครงการที่ขอในครั้งนี้ต้องสอดคล้องกับการบริหารจัดการน้ำภาพรวมประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่า และไม่ขัดต่อระเบียบภาครัฐ

     นายกฯ กล่าวอีกว่า การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการคมนาคมสำหรับการเตรียมความพร้อมในส่วนของถนนหนทางที่มักชำรุดเสียหาย เป็นเรื่องที่ดีที่ต้องมีการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ตลอดจนโครงการแก้ไขปัญหาพังทลาย และป้องกันน้ำท่วม รวมถึงการก่อสร้างสะพานอ่างเก็บน้ำลำปาวที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกสบายขึ้น ซึ่งเรื่องของการคมนาคมเป็นสิ่งสำคัญ หากจะฉายศักยภาพออกมาแต่การคมนาคมไม่ดีก็ไม่มีประโยชน์ ครั้งนี้หากเรามีงบประมาณตรงไหนเราก็พยายามจะทำให้หมด และปีต่อๆไปก็จะพยายามจัดสรรให้

      นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องสาธารณสุขการของบประมาณในการสนับสนุนเครื่องมือแพทย์ใน 8 โรงพยาบาล ตนให้ความสำคัญกับสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งพบว่าอายุเฉลี่ยของพี่น้องชาวอีสานต่ำกว่าภาคเหนือ เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับระบบสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลใกล้บ้านต่างๆ ระบบการส่งตัวผู้ป่วยเข้าสถานบริการหลักยังมีปัญหาอีกมาก รวมถึงจ.กาฬสินธุ์ด้วยที่ส่วนใหญ่โรงพยาบาลเป็นศูนย์ส่งตัว แม้จะมีแพทย์เฉพาะทาง แต่ก็ติดขัดเรื่องเครื่องมือ จึงขอให้ทางจังหวัดส่งเรื่องนี้เพื่อพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามหากมีเรื่องอื่นๆ เชื่อว่าในวันนี้สส.มากันครบทุกพรรค เรามาร่วมกันพัฒนาประเทศ หากมีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือซึ่งสมเหตุสมผล รัฐบาลยินดีที่จะตอบสนองให้กับพี่น้องประชาชน ก็ขอฝากผู้ว่าราชการจังหวัดไว้ด้วย 

     นายกฯ ยังพูดถึงเรื่องปัญหายาเสพติดว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะแม้ว่าจะจับได้เยอะขึ้นแต่ก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป ซึ่งอาจมาจากหลายสาเหตุ ผู้ค้าต้องการเงินเยอะก็เอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อทำเรื่องนี้ขณะเดียวกันก็เกิดจากความต้องการด้วย ซึ่งความต้องการมาจากความไม่สบายใจ ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศไทย ที่มีสถาบันครอบครัวที่แข็งแกร่งมีความรักของคนในครอบครัว ในอดีตปัญหายาเสพติดไม่ค่อยมี แต่ในช่วง 10 ปีหลัง ปัญหายาเสพติดเพิ่มขึ้นเยอะมากคงไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คหรือบังเอิญ เพราะหากไปดูจริงๆมันควบคู่ไปกับเรื่องของหนี้นอกระบบด้วย ซึ่งเรื่องหนี้นอกระบบก็สูงขึ้นมาอย่างมโหฬาร เชื่อว่าท่านที่อยู่ในที่นี้คงรู้ว่าหนี้นอกระบบใช้กันเป็นร้อยเป็นพันทำงานเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้หนี้ เพราะมีการเก็บดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ตนจึงเน้นให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ พยายามปัญหานี้เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตนดีใจที่จ.กาฬสินธุ์ ทำได้เป็นอันดับที่ 10 ของประเทศ แต่ก็ถือว่าจำนวนผู้มาลงทะเบีบนยังน้อยอยู่ ซึ่งก็เข้าใจว่ามีเรื่องผู้มีอิทธิพลต่างๆ ตนขอสั่งการว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด รวมถึงเรื่องความมั่นคง ก็ขอให้จัดการให้ดีจะมีการติดตามงานอย่างต่อเนื่อง

     ขณะที่ตัวแทนสส.​ โดยสส. เขต 1 จ.กาฬสินธุ์​ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอบคุณนายกฯ ที่คิกออฟให้เริ่มเรื่องยาเสพติด เรื่องคนวิกลจริตมีจำนวนมากในพื้นที่ ขอนายกฯว่า​ในเมื่อมีคนเดินตามหมู่บ้าน 2-3 คน ทรมานชาวบ้าน ขอวิธีกำจัดยาเสพติดให้พ้นไป พร้อมกับยังระบุว่าในฐานะที่เป็นสส. ตัวแทนประชาชนในพื้นที่​ จะทำงานให้เต็มที่​ จะเป็นปากเป็นเสียงแทนพรรคและรัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่​ 

     จากนั้น นายกฯ กล่าวว่า ตนทราบดีว่าสส. มีความกดดันอย่างมาก ส่วนการผลักดันเรื่องสนามบินได้ให้มีการศึกษาไปแล้ว และได้ให้งบประมาณไปก้อนหนึ่งเพื่อศึกษารูปแบบว่าสามารถทำตรงไหนอย่างไร และคุ้มค่าหรือไม่ ก็รับที่จะดูให้ แต่ก็มีขีดจำกัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีการอนุมัติงบประมาณเพื่อไปศึกษา อย่างน้อยให้โอกาสในพื้นที่ที่จะเกิดขึ้น ชื่อว่าสนามบินสารสินธุ์ คือมหาสารคามบวกกับกาฬสินธุ์ ถ้าท้องถิ่นดี เราก็จะมีความหวัง ยืนยันว่าเราให้โอกาสเต็มที่ในการศึกษาว่าจะสร้าง หรือไม่สร้าง และเรื่องผังเมืองเป็นปัญหาใหญ่ในทุกหวัด พื้นที่สีเหลือง สีแดง ก็ต้องปรับกันไปตามบริบท และโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ซึ่งตนเองได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็จะมีการเปลี่ยนและจะเร่งปรับผังเมืองโดยเร็ว พร้อมยืนยันว่าเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล

ทั้งนี้ทางจังหวัดได้มอบพระพุทธสัมฤทธิ์นิรโรคันตราย (หลวงพ่อองค์ดำ-ชุ่มเย็น) ให้นายกฯด้วย