เลิก 1 ร้าง 2 เปิด 4 ธุรกิจ “ทนายษิทรา” ลอว์เฟิร์มฯปีล่าสุดกำไร 4.1 แสน

เลิก 1 ร้าง 2 เปิด 4 ธุรกิจ “ทนายษิทรา” ลอว์เฟิร์มฯปีล่าสุดกำไร 4.1 แสน

เปิดครบหมดทุกแห่ง! 4 ธุรกิจ “ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด” ลอว์เฟิร์มฯ สำนักงานกฎหมาย ปีล่าสุดรายได้ 1.8 ล้านบาท กำไรจิ๊บ ๆ 4.1 แสนบาท ที่เหลืออีก 3 แห่ง “เลิกกิจการ-ร้าง” ก่อนดราม่าเปิดหน้าชก “ชูวิทย์”

เรียกว่า “มวยถูกคู่” สำหรับ “ทนายตั้มษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กับ “เสี่ยชูวิทย์กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ที่กำลังเปิดศึก ลากใส้กันนัวเนียในประเด็นการรับเงินจาก “สารวัตรซัวพ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หนึ่งในผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน และพนันออนไลน์

วันนี้ “ทนายตั้ม” ตั้งโต๊ะแถลงประเด็นร้อน หลังจากโดน “เสี่ยชูวิทย์” แฉกลับว่า การแถลงข่าวแต่ละครั้งของเจ้าตัวมีการเรียกเก็บเงินจำนวน 3 แสนบาท โดยยืนยันว่า มีการเรียกเก็บเงินจากการแถลงข่าวจริง เนื่องจากเป็นค่าป้องกันการถูกฟ้องในอนาคต นอกจากนี้เงินดังกล่าวที่ลูกความชนะจากการฟ้องคดี จะได้รับส่วนแบ่ง 15% แต่ไม่ได้บังคับลูกความ โดยที่ผ่านมาเรียกเก็บสูงสุดคือ 3 แสนบาท

โดยก่อนหน้านี้ “ทนายตั้ม” เคยออกโรงแฉ “เสี่ยชูวิทย์” ว่า รับเงินจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่พัวพันกับกลุ่ม “สารวัตรซัว” จำนวน 6 ล้านบาท โดย “เสี่ยชูวิทย์” รีบแจงยืนยันความบริสุทธิ์ นำเงินไปบริจาคโรงพยาบาล 2 แห่ง หมดแล้ว ไม่ได้นำมาใช้แม้แต่บาทเดียว แต่โรงพยาบาลได้รีบนำเงินบริจาคดังกล่าวมาคืน โดย “เสี่ยชูวิทย์” ได้นำเงินก้อนนี้ ไปให้ตำรวจเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

สำหรับธุรกิจของ “เสี่ยชูวิทย์” กรุงเทพธุรกิจเคยเปิดเผยไปแล้วว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ในชื่อลูก ๆ ตระกูล “กมลวิศิษฎ์” โดยเฉพาะเครือข่าย “เดวิส กรุ๊ป” เบื้องต้น “ชูวิทย์” เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 5 แห่ง รวมทุนจดทะเบียน 287 ล้านบาท ส่วนบุตรของชูวิทย์ ทั้ง 4 ราย ได้แก่ ต้นตระกูล กมลวิศิษฏ์ (ต้น) เติมตระกูล กมลวิศิษฏ์ (เติม)  ตระการตา กมลวิศิษฏ์ (ต๊ะ) และต่อตระกูล กมลวิศิษฏ์ (ต่อ) ทำธุรกิจ และถือหุ้นในเครือ “เดวิสกรุ๊ป” ร่วมกันอีกอย่างน้อย 9 แห่ง รวมทุนจดทะเบียน 449 ล้านบาท

อ่านข่าว: ผ่าอาณาจักร “กมลวิศิษฎ์” ทุน 736 ล้าน ก่อน “บาร์กัญชา” โผล่ รร.เดวิสกรุ๊ป

มาดูในส่วน “ทนายษิทรา” กันบ้าง

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2566 พบว่า “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 4 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ 1 แห่ง ได้แก่ 

บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2561 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 1 อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 24 ห้องเลขที่ 2409 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร ประกอบธุรกิจกิจกรรมทางกฏหมาย มีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2565 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ถือหุ้น 45% เท่ากับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด (ภริยา) 45% ที่เหลืออยู่ในชื่อของ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ถือ 10% 

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีสินทรัพย์รวม 118,991 บาท หนี้สินรวม 363,800 บาท มีรายได้รวม 1,807,017 บาท รายจ่ายรวม 1,374,661 บาท เสียภาษีเงินได้ 19,853 บาท กำไรสุทธิ 412,502 บาท

ส่วนธุรกิจ “ทนายตั้ม” ที่เหลืออีก 3 บริษัทพบว่า

  • บริษัท มอนสเตอร์บายส์ จำกัด ประกอบกิจการจำหน่ายบัตรที่พัก บัตรร้านอาหารและบริการอื่นๆ แจ้ง “เลิกกิจการ”
  • บริษัท อเมทิส สกินแคร์ จำกัด ประกอบกิจการค้าเครื่องสำอางอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องใช้เสริมความงาม ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า “ร้าง” เมื่อ 9 มิ.ย. 2560
  • บริษัท เอสที.อินเตอร์ 2016 จำกัด ประกอบกิจการโรงแรม ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า “ร้าง” เมื่อ 18 ส.ค. 2564

ทั้งหมดคือข้อมูลในมุมธุรกิจของ “ทนายตั้ม ษิทรา” ก่อนกลับมาสู่แสงสปอร์ตไลท์ทางสังคมอีกครั้ง เมื่อเปิดศึกกับ “เสี่ยชูวิทย์” ในตอนนี้

ส่วนข้อเท็จจริงทั้งหมดจะเป็นอย่างไร คงต้องรอตำรวจ-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป