ขอโทษประชาชน! 'ตำรวจสารวัตรคลั่ง' กราดยิงสายไหม บุกจับ พ.ต.ท. เจ็บสาหัส

ขอโทษประชาชน! 'ตำรวจสารวัตรคลั่ง' กราดยิงสายไหม บุกจับ พ.ต.ท. เจ็บสาหัส

อัปเดต ผบ.ตร. ขอโทษประชาชน! 'ตำรวจสารวัตรคลั่ง' กราดยิงสายไหม บุกจับ พ.ต.ท. เจ็บสาหัส เตรียมพิจารณาให้ออกจากราชการไว้ก่อน

กรณี ตำรวจสารวัตรคลั่ง กราดยิงสายไหม ผบ.ตร. ขอโทษประชาชนได้รับผลกระทบ-พร้อมดำเนินการชดใช้ เผย “สารวัตรกานต์” ผ่านการฝึกสยบไพรีพินาศ มีความชำนาญหลายด้าน ก่อนย้ายเข้าสันติบาลผ่านการทดสอบจิตเภทแล้ว ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน ระบุเตรียมพิจารณาให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่เจ้าตัวบาดเจ็บสาหัส ถูกยิงเข้าหน้าอกซ้าย -ต้นขาซ้าย
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 15 มี.ค. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติ์ประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เปิดเผยขณะเข้าบัญชาการสถานการณ์ สารวัตรกานต์ ก่อเหตุกราดยิงว่าได้มีการติดตามเหตุมาตั้งแต่เมื่อวาน (14 มี.ค.) ต้องยอมรับว่า นายตำรวจผู้นี้ไม่ได้มีภาวะแบบคนปกติแต่ยังไม่ได้ถือว่าเป็นคนร้ายเพราะไม่ได้มีตัวประกัน การทำงานของตำรวจต้องทำภายใต้ความระมัดระวังไม่ให้เกิดการสูญเสียทั้งสองฝ่ายทั้งของพันตำรวจโท ที่มีอาการคุ้มคลั่งและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติการ

“ต้องขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งนี้พันตำรวจโทที่ก่อเหตุอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบและมีความรู้ยุทธวิธีพอสมควรเพราะได้รับการฝึกสยบไพรีพินาศมา ทำให้มีความชำนาญหลายด้าน จากการพูดคุยเจรจาเหมือนจะรู้เรื่องแต่ก็ไม่รู้เรื่องขอให้ประชาชนให้เวลาตำรวจอยากให้เข้าใจว่าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มีการสูญเสียแต่จะเร่งดำเนินการ ทั้งนี้ทีมแพทย์ที่เข้าประเมินอาการค่อนข้างหนักใจและคิดว่าผู้ก่อเหตุต้องได้รับการฉีดยา การพูดคุยมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระเจ้าความเชื่อส่วนตัวในส่วนของยาเสพติดยังไม่ได้รับรายงานแต่มีภาวะทางจิตที่แสดงออกเป็นลักษณะผิดปกติ”

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าบ้านเรือนประชาชนมีความเดือดร้อนหรือสูญเสียทางตำรวจก็จะดำเนินการชดใช้ให้ ขอย้ำว่าถ้ามีการจำเป็นก็จะดำเนินการให้เร็วที่สุด สำหรับพันตำรวจโทรายนี้ก่อนหน้าที่ทำงานที่กองบัญชาการศึกษายังไม่ปรากฎอาการใด และก่อนจะย้ายมาที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาลเคยผ่านการทดสอบเรื่องจิตเภทและผ่านมาได้ซึ่งเรื่องนี้ก็จะต้องไปตรวจสอบว่าข้อมูลรายงานดังกล่าวเป็นอย่างไรทั้งนี้คณะกรรมการของตำรวจสันติบาลกำลังพิจารณาเรื่องการออกจากราชการไว้ก่อนเพราะลักษณะดังกล่าวไม่เหมาะสมกับการจะทำราชการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า ภายหลังพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการได้เปิดปฏิบัติการเข้าควบคุมตัวพันตำรวจโทกิติกานต์ ทันทีโดยเริ่มเปิดปฏิบัติการเมื่อเวลา 12.15 น. ซึ่งชุดอรินทราชได้เข้าไปบริเวณชั้น 2 ของบ้านทางหน้าต่างจากนั้นพบว่ามีเสียงปืนดังยิงตอบโต้กันไปมาระหว่างตำรวจกับผู้ก่อเหตุจำนวนหลายสิบนัด โดยมีการยิงตอบโต้กันประมาณ 5 นาที

ต่อมาเวลา 12.20 น. เสียงปืนได้เงียบลงจากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินออกมาขอให้สื่อมวลชนที่เกาะติดสถานการณ์เปิดทางให้นำรถพยาบาลวิ่งออก และเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำรถพยาบาลเคลื่อนถอยหลังไปบริเวณหน้าบ้านของผู้ก่อเหตุและขับออกไปทันที โดยมีรายงานว่าผู้บาดเจ็บที่อยู่ในรถพยาบาลคือผู้ก่อเหตุ พ.ต.ท.กิตติกานต์ นำส่งโรงพยาบาลภูมิพล

ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร ได้ยืนยันก่อนเดินทางกลับว่า ผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล

ขณะที่ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. ระบุว่า บุคคลที่นำขึ้นรถพยาบาลคือ ผู้ก่อเหตุ และเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีตำรวจชุดปฏิบัติการได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาเวลา 12.55 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเดินทางเข้าที่ก่อเหตุภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่เป็นที่เรียบร้อย

รายงานข่าวระบุว่า พ.ต.ท.กิตติกานต์ ได้รับบาดเจ็บ ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณข้อพับแขนซ้าย หน้าอกซ้าย ต้นขาด้านบนซ้าย อาการสาหัส อยู่ระหว่างการช่วยเหลือของทีมแพทย์.