อัปเดต ลำดับเหตุการณ์ 'ชูวิทย์' บุกท้าชก 'สันธนะ' หวิดวางมวย บช.น.

อัปเดต ลำดับเหตุการณ์ 'ชูวิทย์' บุกท้าชก 'สันธนะ' หวิดวางมวย บช.น.

อัปเดต ลำดับเหตุการณ์ หวิดวางมวยวุ่น "ชูวิทย์" บุกท้าชก "สันธนะ" กลาง บช.น. ตำรวจเข้าห้ามชุลมุน ขณะจี้คดีเอาผิด "ชูวิทย์" กับ "นอท กองสลากพลัส" ด้าน “ชูวิทย์” ฟาด “สันธนะ” พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จนถูกไล่ออก แจงไม่เคยเจอ “หิมาลัย” แต่เคยจ้างบริษัท รปภ. คดีรื้อบาร์เบียร์

นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เพื่อให้เร่งรัดคดีที่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ และพวก รวม 9 คดี และดำเนินคดี นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส และพวก 5 คดี

ระหว่างที่นายสันธนะ เดินทางมาถึงที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นายชูวิทย์พยายามเข้ามาเผชิญหน้ากับ นายสันธนะ จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น แต่ถูกคนติดตามของนายสันธนะ คล้ำคอไว้ ทำให้นายชูวิทย์ ไม่พอใจ นำนวมมามอบให้นายสันธนะ พร้อมท้าชก หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำให้ตำรวจหลายสิบนายเข้าระงับเหตุกันอลหม่าน

อัปเดต ลำดับเหตุการณ์ \'ชูวิทย์\' บุกท้าชก \'สันธนะ\' หวิดวางมวย บช.น.

ด้านนายสันธนะ เปิดเผยว่า การส่งหนังสือถึง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งรัดดำเนินคดี เพราะตัวเองได้แจ้งความท้องที่ สน.ทองหล่อ สน.ลุมพินี และ สน.พหลโยธิน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ข้อหายาเสพติด และสถานบริการ ผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว แต่กลับไม่มีความคืบหน้า

ขณะที่นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ต้องการมาเพื่อเจอหน้านายสันธนะ และท้าชกแบบลูกผู้ชาย และพาดพิงถึง นายสันธนะ ว่าเป็นตำรวจที่ถูกไล่ออกจากราชการ เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหรือไม่

นายชูวิทย์ยังได้พูดถึงประเด็น กรณีที่ออกมาวิจารณ์และโจมตี นักการเมืองพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายหิมาลัยอยู่เบื้องหลัง ยืนยันว่าตัวเองกับนายหิมาลัย ไม่เคยเจอกัน แต่เคยจ้างทีมบริษัทรักษาความปลอดภัย ในสมัยคดีรื้อบาร์เบียร์

อัปเดต ลำดับเหตุการณ์ \'ชูวิทย์\' บุกท้าชก \'สันธนะ\' หวิดวางมวย บช.น.

ลำดับเหตุการณ์ ชูวิทย์ VS สันธนะ

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา (2 มี.ค. 2566) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เดินเข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ นายสันธนะ ประยูรัตน์ อดีตตำรวจยศ พ.ต.ท. เดินทางมาเช่นกัน ในระหว่างที่เจ้าตัวลงจากรถ แต่ก็มีทีมงานที่ติดตามนายสันธนะ ใส่เสื้อสีชมพู เดินเข้าไปหา ก่อนที่นายชูวิทย์จะถึงตัวนายสันธนะ 

ชายเสื้อชมพูได้ล็อคคอนายชูวิทย์ จนเกิดการชุลมุนกัน ตำรวจควบคุมฝูงชนที่อยู่บริเวณนั้น ต้องเข้ามาห้ามให้แยกออกจากกัน

จากนั้น นายชูวิทย์ก็ได้ตะโกนท้าทายนายสันธนะตลอดเวลา โดยมีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน จำนวน เกือบ 30 นาย เข้ามากันไม่ให้ทั้งคู่เข้าใกล้กัน

โดยนายชูวิทย์ ได้ถอดเสื้อเชิ้ตออก เหลือเพียงเสื้อกล้าม พร้อมกับใส่นวม และตะโกนให้นายสันธนะ มาชกต่อยกัน ตามประสาลูกผู้ชาย และโยนนวมชกมวยให้ นายสันธนะ ให้รับคำท้ามาชกกับตัวเอง

ส่วนนายสันธนะ ก็ไม่ได้ตอบโต้ และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และยื่นหนังสือร้องเรียนให้ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ระหว่างนั้น นายชูวิทย์ก็ได้ตะโกนท้าทายอยู่ตลอดเวลา

นายสันธนะ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองมาทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ จำนวน 9 ข้อหา ที่แจ้งไว้ที่ สน.ทองหล่อ และ นายพันธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท กองสลากพลัส แต่ก็มาถูก นายชูวิทย์ ก่อกวน และท้าทาย ยืนยันว่า จะไม่ตอบโต้ เนื่องจากว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นสถานที่ทำงานเก่าของตนเอง เมื่อครั้งยังเป็นตำรวจ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่นายสันธนะ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน นายชูวิทย์ได้ตะโกนด่าท้าทายตลอดเวลา ซึ่งนายชูวิทย์กล่าวหาว่า นายสันธนะ เป็นตำรวจที่ถูกไล่ออกจากราชการ ไม่มีลูกน้อง ไม่มีความน่าเชื่อถือ ถ้าจะฟ้องร้องคดี นายสันธนะมีเงินจ้างทนายความหรือเปล่า

ส่วนนายสันธนะ หลังจากที่ถูกต่อว่าหนักๆ ท่ามกลางสื่อมวลชน และตำรวจ ก็เริ่มหมดความอดทน และตะโกนด่านายชูวิทย์ กลับไปว่า จะไม่ยอมให้นายชูวิทย์ ต่อว่าอย่างเสียศักดิ์ศรี และจะดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้นายชูวิทย์ ท้าทายอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ขอให้นายสันธนะเดินทางกลับไปก่อน

หลังจากนายสันธนะ เดินทางกลับ นายชูวิทย์ก็ได้มาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่าตนเองไม่กลัวนายสันธนะ เพราะนายสันธนะเป็นตำรวจถูกไล่ออก ส่วนที่นายสันธนะ มาร้องเรียนตนเองที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล อย่าคิดว่ายังมีลูกน้อง นายสันธนะหลงเหลืออยู่ จากนี้จะไปตามนายสันธนะไปทุกที่ถ้าคิดจะไปร้องเรียนเรื่องอะไร

นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค.) ตนเองจะแถลงข่าวเปิดโปงความชั่วร้ายของพรรคการเมือง และสื่อมวลชนอาวุโสรายหนึ่ง อีกด้วย ขอให้ติดตาม