ซื้อ-ขายทองคำคึกคัก รับเทศกาลตรุษจีน ยอดขายเพิ่ม 50%

ซื้อ-ขายทองคำคึกคัก รับเทศกาลตรุษจีน ยอดขายเพิ่ม 50%

บรรยากาศการซื้อ-ขายทองคำเมืองเลยคึกคักขึ้น 50% รับตรุษจีน ขณะที่เสื้อผ้าสีแดงของเทศกาลตรุษจีนจะได้รับความนิยมสูงหากเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของ 3 ปีย้อนหลัง

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 บรรยากาศการซื้อ-ขายทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะจัดขึ้นประจำทุกปี ปีนี้เริ่มขึ้นวันที่ 20-22 มกราคม 2566 ปัจจัยเอื้อคือสถานการณ์โรคโควิด-19 เริ่มจะผ่อนคลายลง การเปิดเมือง เปิดประเททศรับนักท่องเที่ยว การเดินทางต่างๆ ดีขึ้นและ สะดวก แต่ปัจจัยด้านลบคือภาวะทางเศรษฐกิจที่ทรุดลงเป็นลำดับ วัตถุดิบ สินค้ารวมถึงสินค้าที่เกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีนทั้งเนื้อสัตว์ ผลไม้ พืชผัก วัตถุดิบประกอบอาหาร ตลอดจนของไหว้ เจ้าและบรรพบุรุษ ตลอดจนทองคำที่ชาวไทยเชื้อสายจนนิยมซื้อไปแจกไปมอบแก่บุตร-ธิดา หลาน ญาติและคนที่รัก กลับมีราคาสูงอย่างต่อเนื่อง มีการแลกเปลี่ยน ซื้อ-ขายกันคึกคักมาหลายวัน ย่านค้าทองคำคือถนนเจริญรัฐ ถนนร่วมใจ ถนนเอื้ออารีย์ ต.กุดป่อง เขตเทศบาลเมืองเลยและร้านทองคำในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ปี 2566 นี้นับว่าดีขึ้นกว่าทุกปี
 

ผู้ประกอบการร้านค้าทองเยาวราช 99.99 ถนนร่วมใจ ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย กล่าวว่า ช่วงก่อนตรุษจีนปี 2566 นี้นับว่าดีขึ้นกว่า 3 ปีที่ผ่านมาโดยยอดลูกค้าและการใช้บริการสูง 50% เนื่องมาจากปัจจัยที่ภาวการณ์ระบาดของเชื้อโรควิด ผ่อนคลายลงดังกล่าวส่งผลถึงการค้า การลงทุนเกิดการจ้างงาน ประชาชนมีรายได้กลับมาแม้ราคาสินค้าโดยรวมแล้วจะสูงขึ้นชาวไทยเชื้อจีนต้องปรับไปซื้อสิ่งของที่จำเป็น สิ่งของที่ราคาไม่สูงแทนซื้อทองคำไปแจกแทน หากเป็นทองคำก็จะซื้อในราคาที่ไม่สูงมากเช่น คือซื้อทองคำหนัก 1-2 สลึง หรือน้ำหนัก 1 กรัมถึง 1บาท นำไปแต๊ะเอีย ส่วนใหญ่เข้ามาซื้อทองคำ เพื่อมอบเป็นของขวัญในเทศกาลตรุษจีน
 

ด้านผู้ประกอบการค้าร้านมารวย ถนนร่วมใจฯ ที่ค้าเสื้อ-ผ้าต่าง ๆ ตามเทศกาล เครื่องแบบทั่วไป ก็กล่าว เช่นเดียวกันว่า เสื้อผ้าสีแดงของเทศกาลตรุษจีนจะได้รับความนิยมสูงช่วงนี้ หากเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของ 3 ปีย้อนหลังช่วงโควิดระบาดหนัก แล้ว ปี 2566 นับว่าดีขึ้นประมาณ 50% ด้วยปัจจัยที่ประชานหันกลับมามีงาน มีรายได้ สินค้าขายออก ผู้ประกอบการเดินหน้าได้ จากโรคโควิดผ่อนคลายและมีการเดินทาง มีการเปิดเมืองเปิดการท่องเที่ยว นั่นเอง เราก็ตอบแทนลูกค้าด้วยการลดราคาให้ แม้ราคาปีนี้จะเพิ่มขึ้น 5% ก็ตาม ต้องยึดเอาลูกค้าเป็นสำคัญ ไม่หวังผลกำไรอะไรมากหากลูกค้าอยู่ไม่ได้เราก็เดือดร้อนไปด้วย แบบพึ่งพากันทุกเทศกาล