มองสตรีหลังปี 2565 เมื่ออเมริกาถอยหลังไม่ต่างกับตาลิบัน

มองสตรีหลังปี 2565 เมื่ออเมริกาถอยหลังไม่ต่างกับตาลิบัน

ปี 2565 มีปรากฏการณ์ศาลฎีกาอเมริกันคว่ำกฎหมายคุ้มครองสิทธิ์การยุติการตั้งครรภ์ด้วยการทำแท้งของสตรีอเมริกันเมื่อเดือนมิถุนายน ในอัฟกานิสถาน

รัฐบาลซึ่งคุมโดยกลุ่มตาลิบันสั่งห้ามสตรีเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การถอยหลังทั้งสองนั้นเกิดขึ้นท่ามกลางปรากฏการณ์ที่ชี้บ่งว่า สตรีโดยทั่วไปได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้น  

ปีนี้มีการแข่งขันฟุตบอลโลกชายซึ่งนักกีฬาชั้นนำส่วนใหญ่มาจากละตินอเมริกาและยุโรป  อเมริกาเหนือมีนักฟุตบอลชายชั้นนำเพียงจำกัด สหรัฐจึงมักไม่ค่อยผ่านการแข่งขันเข้าไปถึงรอบลึก ๆ ข้อมูลเหล่านี้อาจทำให้คนส่วนใหญ่ลืมกันไปว่า ในการแข่งขันฟุตบอลโลกสตรีซึ่งมีมาแล้ว 8 ครั้ง นักฟุตบอลหญิงของสหรัฐชนะถึง 4 ครั้ง  

ทั้งที่มีความสำเร็จสูงเป็นที่ประจักษ์ดังกล่าว แต่นักฟุตบอลหญิงเหล่านั้นได้ค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับนักฟุตบอลชายมาตลอด จนกระทั่งปีนี้เมื่อสมาคมฟุตบอลอเมริกันยินยอมให้ทั้งสองฝ่ายได้รับค่าตอบแทนเท่ากันหลังสมาคมนักฟุตบอลหญิงฟ้องศาลฐานให้ความสำคัญแก่นักกีฬา 2 เพศไม่เท่าเทียมกัน  

มองสตรีหลังปี 2565 เมื่ออเมริกาถอยหลังไม่ต่างกับตาลิบัน

ในขณะที่สตรีอเมริกันถูกจำกัดสิทธิ์ในด้านการยุติการตั้งครรภ์ด้วยการทำแท้ง สตรีในโคลอมเบียและในอินเดียได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายให้ทำได้เป็นครั้งแรก

สำหรับในด้านการเมือง สตรีมีบทบาทมากขึ้นอย่างกว้างขวาง ฮอนดูรัสและฮังการีได้ประธานาธิบดีสตรีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 

ในอิหร่าน สตรีเป็นผู้นำกระบวนการต่อต้านการจำกัดสิทธิ์ต่าง ๆ โดยรัฐบาล การต่อต้านยังเข้มข้นแม้บางคนจะต้องโทษถึงถูกประหารชีวิตแล้วก็ตาม สำหรับในเมืองไทย สตรีมีสิทธิ์ทางการเมืองสูงกว่าในหลายประเทศมานานแม้เราจะมีตำนานที่มีการประท้วงในแนวของกลอนบทนี้มานับร้อยปีแล้วก็ตาม       

เรื่องวันทองสองใจไยประณาม  ขุนแผนทรามมากยิ่งกว่าว่ากันไหม
อยุติธรรมตามแนวนี้มีทั่วไป หลังหญิงไทยมีบทบาทกู้ชาติเอย

หลังเปลี่ยนระบบการปกครองเมื่อปี 2475 สตรีไทยได้รับสิทธิ์เลือกผู้แทนเท่าเทียมกับชายทันที ต่างกับสตรีในประเทศก้าวหน้าหลายประเทศรวมทั้งสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเพิ่งได้รับสิทธิ์เดียวกันนี้เมื่อปี 2514 นี่เอง 

มองสตรีหลังปี 2565 เมื่ออเมริกาถอยหลังไม่ต่างกับตาลิบัน

ย่อมเป็นที่ทราบกันดี เมืองไทยเรามีนายกรัฐมนตรีสตรีคนแรกเมื่อปี 2554 แต่เป็นที่น่าเสียดายที่นางมิได้ก้าวเข้ามารับตำแหน่งสำคัญนั้นด้วยความสามารถของตนเอง หากเป็นเพียงหุ่นเชิดให้แก่พี่ชายซึ่งหนีคดีฉ้อฉลไปอยู่ในทางประเทศ  

ในช่วงเวลาเกือบ 3 ปีที่นางครองอำนาจ เมืองไทยจึงได้รับความอับอายและประสบวิกฤติทางการเมืองแทบไม่ขาดซึ่งจบลงด้วยการยึดอำนาจโดยกองทัพอีกครั้งหลังทำเมื่อ 8 ปีก่อนอันเป็นตอนที่พี่ชายของนางดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้นางจึงหนีคดีไปอยู่กับพี่ชายในต่างประเทศ  

แม้ในปี 2565 สตรีอเมริกันและสตรีอัฟกันในช่วงรัฐบาลตาลีบันจะถูกจำกัดสิทธิ์ แต่แนวโน้มบ่งชี้ว่า ปีหน้าและปีต่อ ๆ ไปสตรีจะได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกับฝ่ายชายมากขึ้นอีก ส่วนการจำกัดสิทธิ์ในสหรัฐและในอัฟกานิสถานน่าจะเป็นเพียงชั่วคราว  
    
สำหรับในเมืองไทย เราน่าจะคาดได้ว่าจะมีความคืบหน้าต่อไปเช่นกัน บทบาทของสตรีจากครอบครัวที่อ้างถึงนั้นจะดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น คนที่จะเป็นตัวแทนครอบครัวเข้าแข่งชิงตำแหน่งนายกฯ คนต่อไปได้แก่ลูก/หลานสาวของอดีตนายกฯ ที่หนีคดีไปอยู่ยังต่างประเทศ 

จึงเป็นไปได้สูงว่า ถ้านางได้เป็นนายกรัฐมนตรี นางจะเป็นหุ่นเชิดให้แก่พ่อในแนวเดียวกันกับอาเมื่อกว่าทศวรรษมาแล้ว การก้าวเข้ามาเป็นนายกฯ จึงไม่ได้แสดงถึงความคืบหน้าในด้านการมีโอกาสเข้าถึงอำนาจด้วยความสามารถของตนเองได้เท่าเทียมกับฝ่ายชายอันเป็นสิ่งน่าภูมิใจ หากเป็นเรื่องน่าอับอายมากกว่า  

ด้วยเหตุดังกล่าวมา หวังว่าหลังปี 2565 ผ่านไป ครอบครัวดังกล่าวจะสำนึกได้และเปลี่ยนใจไม่ส่งหุ่นเชิดสตรีลงชิงตำแหน่งนายกฯ ซึ่งจะทำให้สตรีไทยถูกประณามมากกว่าได้รับการยกย่องดังที่วีรสตรีไทยได้รับในอดีต

ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ผู้อ่านตลอดปี ๒๕๖๖