เช็ก! เส้นทางสัญจรได้-ไม่ได้ หลังน้ำท่วม 19 จังหวัด พร้อมเฝ้าระวังต่อเนื่อง

เช็ก! เส้นทางสัญจรได้-ไม่ได้ หลังน้ำท่วม 19 จังหวัด พร้อมเฝ้าระวังต่อเนื่อง

กรมทางหลวง รายงานสถานการณ์น้ำท่วม พบทางหลวงถูกน้ำท่วม 19 จังหวัด การจราจรผ่านไม่ได้ 28 แห่ง พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

กรมทางหลวง โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นโนรู สถานการณ์ประจำวันที่ 10 ตุลาคม  2565 เวลา 13.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 19 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์, จ.บุรีรัมย์, จ.นครราชสีมา จ.หนองบัวลำภู, จ.อุบลราชธานี, จ.ร้อยเอ็ด, จ.มหาสารคาม, จ.ยโสธร, จ.สระบุรี, จ.ลพบุรี, จ.สุพรรณบุรี, จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.สิงห์บุรี, จ.นครสวรรค์ , จ.ปราจีนบุรี และ จ.เพชรบุรี จำนวน 50 สายทาง 78 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 28 แห่ง ดังนี้ 

1. จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3 แห่ง

  • ทางหลวงหมายเลข 2131 บ้นสะอาด – เหล่านางาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 6+700 – 7+200 ระดับน้ำ 40 – 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้                  
  • ทางหลวงหมายเลข 2065 พล – ลำชี ในพื้นที่ อ.พล ช่วง กม.ที่ 33+150 – 34+000 ระดับน้ำ 35 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2183 น้ำพอง – โคกท่า ในพื้นที่ อ.น้ำพอง ช่วง กม.ที่ 14+500 – 15+100 ระดับน้ำ 40 - 45 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงแยกโคกท่า กม.25+600

2. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 8 แห่ง 

  • ทางหลวงหมายเลข 226 ศรีสะเกษ – ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 311+000 – 313+384 ระดับน้ำ 60 – 80 ซม. แ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2178
  • ทางหลวงหมายเลข 2083 หัวช้าง – สะเดา ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 16+000 – 19+500 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
     
  •  ทางหลวงหมายเลข 2086 บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500 – 29+000 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2086 บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 30+000 – 31+500 ระดับน้ำ 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2086 เมืองน้อย – กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่103+500 – 107+125 ระดับน้ำ 80 - 90 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2086 บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 37+000  - 39+500 ระดับน้ำ 50 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้
  • ทางหลวงหมายเลข 2373 โนนสำนัก – ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+050 ระดับน้ำ 40 - 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 2412 ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 60 - 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

3. จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 1 แห่ง  

  • ทางหลวงหมายเลข 2378 จอมพระ – สะพานบุรีรินทร์ ในพื้นที่ อ.จอมพระ ช่วง กม.ที่ 18+900 – กม.20+040 ระดับน้ำ 20 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้

         

4. จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง  

  • ทางหลวงหมายเลข 2146 หนองบัวลำภู - เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 39+500 – 42+000 ระดับน้ำ 20 - 65 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทช.4013

          5. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 8 แห่ง

  • ทางหลวงหมายเลข 24 วารินชำราบ – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 115 ซม. แนะนำเส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี
  • ทางหลวงหมายเลข 23 เขื่องใน - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 259+700 – 261+800 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 23 เขื่องใน - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 274+840 น้ำกัดเซาะข้างท่อเหลี่ยม ทำให้ถนนทรุด (ปิดการจราจรขาออก ใช้ทางเบี่ยง)
  • ทางหลวงหมายเลข 226 ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 313+400 – 313+700 ระดับน้ำ 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  • ทางหลวงหมายเลข 226 ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600 – 319+800 ระดับน้ำ 130 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน
  •  ทางหลวงหมายเลข 231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 3+600 – 8+200 ระดับน้ำ 105 - 135 ซม. ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231
  • ทางหลวงหมายเลข 2404 เขื่องใน – นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 14+120 – 14+550 ระดับน้ำ 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2408 และ 2382 
  • ทางหลวงหมายเลข 2412 ท่าวารี – ท่าศาลา ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 9+500 – 10+325 ระดับน้ำ 15 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

6. จังหวัดลพบุรี จำนวน 1 แห่ง  

  • ทางหลวงหมายเลข 205 ม่วงค่อม - คลองห้วยไผ่ ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 58+900 – 59+500 ระดับน้ำ 35 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

7. จังหวัดอ่างทอง จำนวน 3 แห่ง 

  • ทางหลวงหมายเลข 33 นาคู – ป่าโมก ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000 - 36+200 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ 
  • ทางหลวงหมายเลข 3501 อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 9+900 – 10+400 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้
  • ทางหลวงหมายเลข 3501 อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 10+400 – 11+000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 10 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้

8. จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 3 แห่ง 

  •  ทางหลวงหมายเลข 311 แยกวัดสนามไชย - วัดกระดังงา ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 33+500 – 36+000 ระดับน้ำ 105 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบท สห.3030
  • ทางหลวงหมายเลข 311 วัดกระดังงา  - บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 40+900 – 42+700 ระดับน้ำ 90 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)
  • ทางหลวงหมายเลข 311 วัดกระดังงา  - บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 57+400 – 57+850  ระดับน้ำ 60 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย) 

         

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนน้ำท่วม ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเผ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586  (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1