ขอนแก่น เร่งเสริมคันดินคลอง หลังน้ำพองทะลักหวั่นคลองขาด

ขอนแก่น เร่งเสริมคันดินคลอง หลังน้ำพองทะลักหวั่นคลองขาด

สำนักงานชลประทานที่ 6 วางแผนรับมือมวลน้ำที่มาจากแม่น้ำชี จังหวัดชัยภูมิ และจากการเพิ่มการระบายของเขื่อนอุบลรัตน์ โดยเฉพาะที่คลอง3Lตำบลบึงเนียม หลังน้ำพองทะลักเข้าคลองชลประทาน

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 65 ที่คลองส่งน้ำ3L บ้านบึงใคร่นุ่น ตำบลบึงเนียม อำเภอเมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชลประทานจังหวัดขอนแก่น ต้องใช้รถแบ็คโฮมาเสริมคันดินหลังจากที่มีน้ำทะลัก ไหลเข้าในคลองชลประทาน เพื่อป้องกัน ไม่ให้มีน้ำไหลเข้าไปเพิ่มเติมภายในคลองชลประทาน เพื่อรักษาความแข็งแรงของคันคลองตลอดสาย หลังพบว่ามีน้ำที่ล้นตลิ่งจากลำน้ำพองได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ตำบลบึงเนียม และขยายเป็นวงกว้างต่อเนื่อง โดยให้ที่ประตูระบายน้ำห้วยพระคือ D8 เป็นจุดในการกรอกกระสอบทราย เพื่อนำไปวางตามแนวคันคลอง 3L ซึ่งมีความยาวกว่า 5 กิโลเมตร

นายสมปอง ฉ่ำกมล ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 6 ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่สำนักชลประทานที่ 6 มีพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมไปแล้วกว่า 3 แสนไร่ คาดว่าน้ำจะท่วมนานกว่า 1 เดือน ซึ่งขณะนี้จะต้องเฝ้าดูมวลน้ำ ที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณมาก ส่วนน้ำจากการระบายของเขื่อนอุบลรัตน์ ก็จะไหลมารวมกันที่อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น หากน้ำมารวมกันจะทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ซึ่งขณะนี้ได้มีการเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำชี ตั้งแต่จังหวัดยโสธ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้น้ำไหลลงแม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด ซึ่งทางสำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ให้สำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย ได้เร่งรับมือน้ำที่จะล้นคลอง 3L เพราะเป็นจุดสำคัญป้องกันน้ำเข้าท่วมเมืองขอนแก่น ขอให้ประชาชนที่อยู่ติดลำน้ำพองได้เตรียมตัวรับน้ำที่จะไหลเข้าท่วม โดยเหตุการณ์จะใกล้เคียงกับปี 2560

ส่วนที่สำนักงานชลประทานที่6ขอนแก่น นายเกรียงไกร ภาคพิเศษ รักษาราชการผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่6ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อรับมือมวลน้ำ หลังตากที่มีการเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์และมวลน้ำชีที่ไหลจากจังหวัดชัยภูมิ โดยได้วางแผนว่าจะทำอย่างไร ที่จะให้น้ำที่กำลังท่วมขังได้ลดระดับลงให้เร็วที่สุด เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำในการช่วยระบายน้ำ
 

ขณะที่จังหวัดขอนแก่น ได้มีมติให้เขื่อนอุบลรัตน์ปล่อยน้ำเพิ่มได้หลังน้ำเกินระดับความจุ 100% แล้วแต่ให้ปล่อยเป็นขั้นบันไดยังไม่ให้ตามที่เขื่อนขอปล่อยสูงสุดที่ 54 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันละ 3 ล้าน ลบ.ม. โดยคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดขอนแก่น ในการประชุมวันอังคารที่ 4 ตุลาคม 2565 โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานประชุมมีมติรับทราบแผนการระบายน้ำ ของเขื่อนอุบลรัตน์ดังนี้ วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ระบาย 35 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน วันที่ 6 ตุลาคม 2565 ระบาย 38 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน วันที่ 7 ตุลาคม 2565 ระบาย 41 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน หลังจากนั้นจะระบายคงที่ วันละ 41 ล้าน ลบ.ม. จนกว่าจะมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง คณะอนุกรรมการฯจะพิจารณาความเหมาะสมกันอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นทางเขื่อนอุบลรัตน์ขอเพิ่มแบบขั้นบันไดเหมือนกันแต่ขอให้ปล่อยน้ำสูงสุดที่ 54 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งหลังจากสามวันนี้ไป 5-7 ตุลาคม 2565 ทางคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจะนำเข้าหารือกันอีกครั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นก็ขอให้ประชาชนผู้อยู่ใต้เขื่อนอุบลรัตน์สองฝั่งลำน้ำพองได้เตรียมความพร้อมที่จะอพยพและการขนย้ายสิ่งของรถยนต์ สัตว์เลี้ยงวัวควายไปอยู่บนที่สูง