ยกระดับ แปลงใหญ่หม่อนไหม ด้วยเกษตรสมัยใหม่ สร้างรายได้ 9.18 ล้านบาท/ปี

ยกระดับ แปลงใหญ่หม่อนไหม ด้วยเกษตรสมัยใหม่ สร้างรายได้ 9.18 ล้านบาท/ปี

แปลงใหญ่หม่อนไหมรุ่งเรือง เมืองเพชรบูรณ์ ยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด สร้างรายได้กลุ่ม 9.18 ล้านบาทต่อปี

ดร.ทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลติดตาม โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาด ของกลุ่มแปลงใหญ่            หม่อนไหมรุ่งเรือง ตำบลคลองกระจัง อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีกรมหม่อนไหม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก

โดยทางกลุ่มได้เข้าร่วมโครงการเมื่อปีงบประมาณ 2564 ได้รับงบประมาณสนับสนุน จำนวน 2.87  ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารเก็บผลผลิตเพื่อรอจำหน่าย โรงเรือนอุปกรณ์การเลี้ยงไหม อาคารห้องประชุม และห้องสำหรับถ่ายทอดความรู้ และปัจจัยการผลิตในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม

ยกระดับ แปลงใหญ่หม่อนไหม ด้วยเกษตรสมัยใหม่ สร้างรายได้ 9.18 ล้านบาท/ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

จากการติดตามผลการดำเนินโครงการฯ โดยศูนย์ประเมินผล สศก. พบว่า กลุ่มแปลงใหญ่หม่อนไหมรุ่งเรือง มีนางนพมาศ มูลสุวรรณ เป็นผู้จัดการแปลง เกษตรกรสมาชิก 30 ราย พื้นที่ 312 ไร่ โดยงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุน ส่งผลให้ทางกลุ่มฯ มีรายได้จากการเลี้ยงไหมในโรงเรือนด้วยกล่องขนาดความจุ 3 กล่อง รวมตัวไหม 120,000 ตัว (เฉลี่ยกล่องละ 40,000 ตัว) ซึ่งในระยะเวลา 1 ปี สามารถเลี้ยงหมุนเวียนได้ 6 รอบการผลิต คิดเป็นผลผลิตไหมรวม 900 กิโลกรัมต่อโรงเรือนต่อปี ราคาจำหน่ายรังไหมเฉลี่ย 200 บาทต่อกิโลกรัม สร้างรายได้ให้กับกลุ่มฯ รวมกว่า 180,000 บาทต่อปี ซึ่งผลผลิตจะจำหน่ายให้กับบริษัท จุลไหมไทย จำกัด ทั้งหมด

นอกจากนี้ สมาชิกกลุ่มฯ ยังทำการผลิตรังไหมในครัวเรือนตนเอง และมีการรวบรวมผลผลิตรังไหมจากเกษตรกรในกลุ่มนำไปจำหน่ายรวมกัน เพื่อประหยัดต้นทุนค่าขนส่ง โดยส่งจำหน่ายให้กับบริษัท จุลไหมไทย จำกัด  ทำให้มีรายได้เฉลี่ย 300,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี หรือคิดเป็นรายได้รวมของทุกครัวเรือนเฉลี่ย 9,000,000 บาทต่อปี

ยกระดับ แปลงใหญ่หม่อนไหม ด้วยเกษตรสมัยใหม่ สร้างรายได้ 9.18 ล้านบาท/ปี

ทั้งนี้ เมื่อคิดเป็นรายได้ทั้งหมดของกลุ่ม ทั้งจากผลผลิตในโรงเรือน และรายได้ของแต่ละครัวเรือนสมาชิกจะสามารถสร้างรายได้รวมทั้งสิ้น 9,180,000 บาทต่อปี

“หลังจากการเข้าร่วมโครงการฯ ทางกลุ่มแปลงใหญ่หม่อนไหมรุ่งเรือง ได้ยกระดับเป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด หม่อนไหมรุ่งเรือง ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2564 อีกทั้งยังพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับเกษตรกรผู้สนใจเข้ามาศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน มีเกษตรกรสนใจเข้ามาเรียนรู้ในทุก ๆ ปี รวมแล้ว 6 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นใช้เวลาเรียนประมาณ 20 วัน ซึ่งเป็นการต่อยอดอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้เกษตรกรทั้งในชุมชน และนอกชุมชนได้อย่างยั่งยืน” ดร.ทัศนีย์ กล่าวทิ้งท้าย