ผ่าอาณาจักร-คอนเนกชั่น “พิมรี่พาย” ดราม่าทุ่ม 400 ล้านเหมาบัตร “แดงเดือด”

ผ่าอาณาจักร-คอนเนกชั่น “พิมรี่พาย” ดราม่าทุ่ม 400 ล้านเหมาบัตร “แดงเดือด”

ผ่าอาณาจักรธุรกิจ 9 แห่ง “พิมรี่พาย” คอนเนกชั่น “นักการเมืองดัง” ก่อนดราม่าทุ่มเงินสดเกือบ 400 ล้านบาท เหมาบัตร “แดงเดือด” ไทย

กลายเป็น “ดราม่า” อย่างหนักในชั่วข้ามคืน พลันที่ “พิมรี่พาย” หรือ “พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์” แม่ค้าไลฟ์สดชื่อดังในโลกออนไลน์ ออกมาขายบัตร “บิ๊กแมตช์” คู่ “แดงเดือด” ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล ที่จะมาเยือนไทยในวันที่ 12 ก.ค. 2565 

โดย “พิมรี่พาย” ระบุในไลฟ์สดเมื่อคืนวันที่ 23 มิ.ย. 2565 ว่า มีบัตรชมฟุตบอลนัดดังกล่าวจำนวน 2 โซน คือโซน 20,000 บาท และโซน 15,000 บาท รวม 20,000 ใบ นอกจากนี้ยังมีบัตรชมการซ้อมของทั้ง 2 ทีม และมีลุ้นได้ดินเนอร์กับ “แจ๊คสัน หวัง” ศิลปินชาวจีนชื่อดัง ที่จะมาร้องเพลงก่อนเตะนัดดังกล่าวด้วย โดยทุ่มเงินสดลงไปเกือบ 400 ล้านบาท

ทำเอาบรรดากองเชียร์ของทั้ง “ปีศาจแดง-หงส์แดง” ร่วมกับแฟนคลับของ “แจ๊คสัน หวัง” ออกมากระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์ “พิมรี่พาย” เรื่องนี้อย่างหนัก

ด้าน “เสี่ยวินิจวินิจ เลิศรัตนชัย โปรโมเตอร์ใหญ่จัดแมตช์ดังกล่าว ชี้แจงเรื่องบัตรว่า บัตรที่ขายให้ “พิมรี่พาย” คือบัตรประเภท “เฟรชแอร์” ที่กันไว้ให้ทั้ง 2 ทีมเอาไปขายแฟนบอลที่ต่างประเทศ เมื่อเหลือจึงตีกลับมา ไม่ได้เข้าระบบไทยทิกเก็ตเมเจอร์ตั้งแต่แรก เมื่อพิมรี่พายติดต่อซื้อบัตร จึงขายให้ในราคาปกติ ไม่ได้ลดราคา แต่เขาไปจัดกิจกรรมของเขาเอง

อ่านข่าว: สรุปดราม่า "พิมรี่พาย" ขายลดกระหน่ำแถมบัตรซ้อมดู แจ็คสัน สุ่มดินเนอร์

แต่ “ดราม่า” เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรก เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีดราม่าที่ปรากฏชื่อของ “พิมรี่พาย” เข้าไปเกี่ยวข้องหลายครั้งหลายหนด้วยกัน “แม่ค้าไลฟ์สด” รายนี้ ชีวิตมีขึ้นมีลงมาโดยตลอด

ในมุมธุรกิจหลายคนอาจรู้อยู่แล้วว่า “พิมรี่พาย” ทำเกี่ยวกับด้านเสริมความงาม เครื่องประทินผิว และสินค้าต่าง ๆ

แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ในบรรดาอาณาจักรธุรกิจของ “พิมรี่พาย” อย่างน้อย 9 แห่งเหล่านี้ มีรายได้รวมกันหลายร้อยล้านบาท รวมถึงมีคอนเนกชั่นกับ “นักการเมือง” ดังรวมอยู่ด้วย

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2565 พบว่า “พิมรี่พาย” หรือชื่อจริง “พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์” เป็นกรรมการ-ผู้ถือหุ้น 7 แห่ง และมีบริษัทในเครืออย่างน้อย 2 แห่ง รวมทั้งหมด 9 แห่ง ได้แก่

1.บริษัท เดอะ พิมรี่พาย จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2564 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 10/53 หมู่ที่ 2 ต.บางหลวง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ประกอบกิจการบริการ ด้านการบริหารงานพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม การขาย การตลาด กฎหมายบัญชี วิศวกรรม รวมทั้งกิจการโฆษณา

ปรากฏชื่อ นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ นายสานิต สนองเกียรติ เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2565 นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ ถือหุ้นใหญ่สุด 60% นายสานิต สนองเกียรติ ถือ 30% นางสาวชัญญารักษ์ นาคปั้น ถือ 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 43,982,614 บาท รายจ่ายรวม 46,731,389 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 23,276 บาท ขาดทุนสุทธิ 2,772,051 บาท

2.บริษัท ไฮคลาวด์ มิวสิค จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2563 ทุนปัจจุบัน 15 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 193/91 ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ธุรกิจค่ายเพลง แต่งเนื้อร้องทำนองเรียบเรียง ดนตรี ผลิตเพลงจำหน่าย ดูแลศิลปินนักร้อง ร้องเพลง คอนเสิร์ต

ปรากฏชื่อ นางสาวยุภาพร ฤทธิญาณ นายณัฐวุฒิ ศรีหมอก นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2565 นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ ถือหุ้นใหญ่สุด 70% นายณัฐวุฒิ ศรีหมอก ถือ 20% นางสาวยุภาพร ฤทธิญาณ ถือ 9.9993% บริษัท วี เวนเจอร์ส เทคโนโลจีส์ จำกัด ถือ 0.0007%

บริษัท วี เวนเจอร์ส เทคโนโลจีส์ จำกัด มีนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ หรือ “ไฮโซกึ้ง” เป็นกรรมการ โดยเจ้าตัวเป็นบุตรชายของ “ประยุทธ มหากิจศิริ” อดีตนักการเมืองชื่อดัง ก่อนหน้านี้เคยเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 39,444,976 บาท รายจ่ายรวม 44,523,691 บาท ขาดทุนสุทธิ 5,078,715 บาท

3.บริษัท พิมรี่ มีเดีย จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2564 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 10/53 หมู่ที่ 2 ต.บางหลวง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ประกอบกิจการด้านการสื่อสารการโฆษณาทุกชนิด

ปรากฏชื่อ นายสานิต สนองเกียรติ นายทัตพล ชัยชนะเมธี เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2565 นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ ถือหุ้นใหญ่สุด 60% นายสานิต สนองเกียรติ ถือ 30% นางสาวชัญญารักษ์ นาคปั้น ถือ 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 11,227,613 บาท รายจ่ายรวม 10,782,095 บาท เสียภาษีเงินได้ 21,827 บาท กำไรสุทธิ 423,690 บาท

4.บริษัท พิมรี่ เอ็มที จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 10/53 หมู่ที่ 2 ต.บางหลวง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการค้าส่ง สินค้าอุปโภคและบริโภคทุกชนิดและผ่านระบบอินเตอร์เน็ต

ปรากฏชื่อ นายสานิต สนองเกียรติ นายทัตพล ชัยชนะเมธี เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2565 นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ ถือหุ้นใหญ่สุด 60% นายสานิต สนองเกียรติ ถือ 30% นางสาวชัญญารักษ์ นาคปั้น ถือ 10%

ยังไม่มีข้อมูลงบการเงิน

5.บริษัท พิมรี่ โลจิส จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2564 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 10/53 หมู่ที่ 2 ต.บางหลวง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ประกอบกิจการให้บริการขนส่งและขนย้ายสินค้า ไปยังผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศ

ปรากฏชื่อ นายสานิต สนองเกียรติ นายทัตพล ชัยชนะเมธี เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2565 นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ ถือหุ้นใหญ่สุด 60% นายสานิต สนองเกียรติ ถือ 30% นางสาวชัญญารักษ์ นาคปั้น ถือ 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 187,017,285 บาท รายจ่ายรวม 182,847,509 บาท เสียภาษีเงินได้ 836,346 บาท กำไรสุทธิ 3,333,429 บาท

6.บริษัท พิมรี่พาย สกินแคร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2562 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 345/1 ซอยงามวงศ์วาน 47 แยก 42 (ชินเขต 2/40) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ประกอบกิจการคลินิคเวชกรรม ศัลยกรรม ดูเเลรักษาผิว เเละรับเป็นที่ปรึกษาดูเเลผิว เเละศัลยกรรม ทุกชนิด

ปรากฏชื่อ นายสานิต สนองเกียรติ เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2565 บริษัท เดอะ พิมรี่พาย จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 60% นายสานิต สนองเกียรติ ถือ 30% นางสาวชัญญารักษ์ นาคปั้น ถือ 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 7,008,554 บาท รายจ่ายรวม 6,543,531 บาท กำไรสุทธิ 465,023 บาท

7.บริษัท พิมรี่พาย แอนด์ เฟรนด์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2563 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 10/53 หมู่ที่ 2 ต.บางหลวง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการสื่อสาร การโฆษณาทุกชนิด

ปรากฏชื่อ นายสานิต สนองเกียรติ เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2565 นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ ถือหุ้นใหญ่สุด 60% นายสานิต สนองเกียรติ ถือ 30% และนางสาวชัญญารักษ์ นาคปั้น ถือ 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 11,695,824 บาท รายจ่ายรวม 14,885,394 บาท ขาดทุนสุทธิ 3,189,569 บาท

ส่วนบริษัทในเครือ “พิมรี่พาย” อีก 2 แห่ง โดยมีชื่อ “สานิต สนองเกียรติ” เป็นกรรมการ-ผู้ถือหุ้น ได้แก่

1.บริษัท เอสท์คิวท์ คลินิก จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 345/1 ซอยงามวงศ์วาน 47 แยก 42 (ชินเขต2/40) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการคลินิคเวชกรรม ศัลยกรรม ดูแลรักษาผิว และรับเป็นที่ปรึกษาดูแลผิว และศัลยกรรม ทุกชนิด

ปรากฏชื่อ นายทัตพล ชัยชนะเมธี นายสานิต สนองเกียรติ เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2565 นายสานิต สนองเกียรติ ถือหุ้นใหญ่สุด 60% นางสาวชัญญารักษ์ นาคปั้น ถือ 38% นายทัตพล ชัยชนะเมธี ถือ 2%

ยังไม่มีข้อมูลงบการเงิน

2.บริษัท พิมรี่พาย คอสเมติก จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2562 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 345/1 ซอยงามวงศ์วาน 47 แยก 42 (ชินเขต 2/40) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด จำหน่ายสินค้าประเภท อุปโภค บริโภค ทางอิเล็กทรอนิกส์

ปรากฏชื่อ นายทัตพล ชัยชนะเมธี นายสานิต สนองเกียรติ เป็นกรรมการ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 นายสานิต สนองเกียรติ ถือหุ้นใหญ่สุด 60% นายธนิศ นภาดล ถือ 30% นายทัตพล ชัยชนะเมธี ถือ 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 175,732,538 บาท รายจ่ายรวม 162,400,903 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 78,127 บาท เสียภาษีเงินได้ 2,737,052 บาท กำไรสุทธิ 10,516,456 บาท