โฆษกรัฐบาล แจงยืนยันไม่มีการโอนเงินเข้า "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" 1,000 บาท

โฆษกรัฐบาล แจงยืนยันไม่มีการโอนเงินเข้า "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" 1,000 บาท

โฆษกรัฐบาล แจงยืนยันไม่มีการโอนเงินเข้า "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือ "บัตรคนจน" 1,000 บาท พร้อมเตือนประชาชนระวังQr code หลอกลวง แนะตรวจสอบให้ดีก่อนทำธุรกรรมออนไลน์

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจงข่าวปลอม จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือ "บัตรคนจน" สามารถกดเงินสดได้ 1,000 บาท เงินเข้า 18 มิถุนายน 2565 นั้น ซึ่งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบและพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ ไม่มีการโอนเงินแต่อย่างใด โดยขอให้ประชาชนรับข้อมูลประชาสัมพันธ์จากช่องทางหลัก ที่เชื่อถือได้ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบระบบการโอนเงินของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพบว่า วันที่ 18 มิถุนายน 2565 ไม่มีเงินเข้า "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" 1,000 บาท และทุกวันที่ 18 ของเดือน จะได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

นายธนกรฯ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนรับข่าวสารจากช่องทางหลัก หรือตรวจสอบผ่านการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง อย่าหลงเชื่อข้อมูลเท็จ ที่มีผู้ไม่ประสงค์ดีส่งต่อ รวมทั้ง ขอความร่วมมือไม่ส่งต่อข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ ข่าวสารจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง สามารถติดตามได้ที่ เว็บไซต์ กรมบัญชีกลาง หรือโทร 02 1277000

พร้อมกันนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ห่วงใยการใช้จ่ายของประชาชนผ่านสังคมไร้เงินสด โดยกล่าวว่า ขอให้ประชาชนมีสติในการใช้งาน เพราะอาจมีผู้ไม่หวังดีจงใจใช้ QR Code พิมพ์ URL นำไปสู่เว็บไซต์หลอกลวง (Phishing) ให้กรอกข้อมูลหรือบัญชีธนาคารหรือหลอกให้โอนเงินไปบัญชีคนอื่นที่ไม่ใช่บัญชีของร้านค้า

โดยประชาชนควรพิจารณาให้รอบคอบ หากพบว่าลิงก์ หรือ URL ที่ปรากฎขึ้นมาแปลกๆ หรือไม่ตรงกับชื่อเว็บไซต์ที่ใช้บริการอยู่ก็ไม่ควรที่จะกด Scan ต่อ รวมทั้ง ก่อนโอนเงินหรือทำธุรกรรมควรจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นบัญชีของผู้ขาย โดยสอบถามยืนยันกับผู้ขายว่าชื่อบัญชีถูกต้องหรือไม่ก่อนที่จะโอนเงินชำระค่าสินค้า

“ในยุคเทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยให้การใช้ชีวิตของประชาชนง่าย และรวดเร็วขึ้น เข้าถึงข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือ ใช้จ่ายผ่านสังคมไร้เงินสด ทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ดี มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่อาศัยใช้ประโยชน์ จากเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมจากประชาชนนี้ ด้วยความห่วงใย ขอให้ประชาชนรับข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และตรวจสอบความถูกต้องก่อนทำธุรกรรม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และความผิดพลาด ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐได้ เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน ของประชาชนทุกคน”