ไปให้เขากอดที่ ‘ทองผาภูมิ’ ธรรมชาติแสนงดงาม ที่ 'กาญจนบุรี'
ฮีลใจในอ้อมกอดของขุนเขา นอนฟังเสียงน้ำไหล ริมแม่น้ำแควน้อย เดินชมตลาดเช้าท่ามกลางสายหมอก ความสุขเรียบง่ายที่ ‘กาญจนบุรี’
ไม่มีเวลาตั้งตัวหลังเสียงโทรศัพท์ดังมารัว ๆ ให้เร่งเก็บกระเป๋าเดินทางโดยด่วนเราจะไปนอนเล่น ริมแม่น้ำแควน้อยที่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี กัน
เชื่อว่าในชีวิตหนึ่งเราน่าจะมีเพื่อนแบบนี้อยู่สักคน คนที่มักจะทักมาในยามอ่อนล้า แล้วพาไปชาร์จแบตเตอร์รี่เติมไฟด้วยการเดินทางไปต่างจังหวัด เมื่อเธอทักทายฉันก็พร้อมไปในทันที
ปลายทางทริปนี้รู้อย่างเดียวว่าจะไปพักที่ สวนริมแคว ทองผาภูมิ หากรสชาติของการเดินทางมักจะเกิดขึ้นระหว่างทางเสมอ มาเริ่มต้นออกเดินทางไปกับเราเพื่อไปให้ภูเขาโอบกอดเรากันค่ะ
เราเดินทางโดยรถยนต์แบบไม่พัก ปักหมุดจากกรุงเทพฯโดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ M81 สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ที่เปิดให้ใช้ฟรีระหว่างวันศุกร์เวลา 15.00 น. ไปจนถึงวันจันทร์ เวลา 9.00 น.
ทาง 92 กม. (ควรเข้าห้องน้ำมาให้พร้อมก่อน แม้จะมีจุดพักเข้าห้องน้ำแต่ก็ไม่ได้สะดวกสบายนัก) ทำให้เราเดินทางถึงอำเภอเมืองกาญจนบุรีได้อย่างรวดเร็ว และจากอำเภอเมืองขับรถต่ออีก 145 กม.จึงจะถึง อำเภอทองผาภูมิ
ระยะทางดูเหมือนอีกยาวไกล หากทัศนียภาพสองข้างทางที่มีทั้งเทือกเขาที่ทอดยาว บางมุมชวนให้จินตนาการถึงผู้หญิงที่กำลังนอนมองท้องฟ้า แน่นอนว่าก้อนเมฆหน้าฝนมีความอวบอิ่ม สีขาวแซมเทามองเห็นริ้วฝนที่อยู่ไกลออกไป ช่วยต่อเติมความคิดความฝันได้อย่างสนุกสนานเลยทีเดียว
ฝันกำลังเคลิ้ม สหายก็พาเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่ ด่านกักลาว โอ้แม่เจ้า แถวนี้ประชากรส่วนมากเป็นมอญ พม่า มิใช่หรือ เพื่อนหันมาส่งยิ้ม “กักตัวที่นี่ก่อน เธอถูกใจแน่นอน”
แวะตรงนี้ก่อน ด่านกักลาว อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ภายในร้านกว้างขวาง มีอ่างล้างมือหลายจุด
ด่านกักลาว เป็นร้านอาหารค่ะ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ร้านลาบป้าวรรณา เหตุที่มาของชื่อเป็นเพราะว่าจำหน่ายอาหารประเภทส้มตำ ลาบ ต้ม ยำ สไตล์อีสานที่มีรสชาติกลมกล่อม ข้อควรระวัง คือ ระดับความเผ็ด เพราะความเผ็ดของคนเราไม่เท่ากัน คอส้มตำปลาร้าอย่างเราถูกใจรสชาติส้มตำที่นัวได้ที่เผ็ดกำลังดี ปลาร้าไม่เค็มเกินไปมีรสเปรี้ยวของมะนาวให้ชื่นใจ
ต้มยำปลาคัง รสชาติจัดจ้าน ใครที่ง่วงเหงาหาวนอนระหว่างเดินทางซดน้ำซุปเข้าไปตื่นได้ทันทีเลย ปีกไก่ทอด อันนี้ชอบใจมากทอดมาสีสวยหนังไก่กรอบมีกระเทียมทอดกรอบโรยมาด้วยกินกับข้าวเหนียวร้อน ๆแสนจะเข้ากัน ส่วน หมูทุบ-หมูทอด ที่นำมาทุบให้กินง่าย เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว เมนูนี้ก็แจ๋วเลย (ราคาอาหาร 40 – 120 บาท)
ส้มตำหมูตกครก ส้มตำปลาร้า ปีกไก่ทอด
ปีกไก่ทอดมีกระเทียมทอดกรอบ ๆ มาให้ด้วย
ส้มตำปลาร้ารสเด็ด
ร้านลาบป้าวรรณา อยู่ อำเภอไทรโยค (เปิดทุกวัน โทร.06 2371 1939)ฝั่งที่เราจะมุ่งหน้าไป ทองผาภูมิ เป็นจุดแวะเติมอาหารมื้อกลางวันที่ไม่ต้องกลับรถและอยู่ระหว่างทาง อิ่มแล้วเพื่อน ๆ มองหาผลไม้รับประทาน
มีร้านค้าทุเรียนเงาะเรียงรายอยู่ตลอดทางก่อนถึงทองผาภูมิ เราแวะกันที่ร้านลุงเท่งทุเรียนซิ่ง (โทร.06 1581 4199) ซึ่งเพื่อนเคยแวะมาอุดหนุนกันจนไลน์สั่งกันหลายครั้ง
คนรักเงาะ รักทุเรียน มาถึงทองผาภูมิแล้วต้องชิมผลไม้ทั้งสองชนิดนี้ให้ได้นะคะ เพราะทุเรียนและเงาะทองผาภูมิจัดเป็นผลไม้ที่เป็นสินค้า GI (Geography Indication) ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
ทุเรียนทองผาภูมิ มีรสหวาน มัน เนื้อครีม กลิ่นไม่ฉุน มีเส้นใยน้อย ในขณะที่เงาะทองผาภูมิ มีรสหวาน เนื้อกรอบ ร่อน สนนราคาเงาะอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 – 70 บาท ทุเรียนกิโลกรัมละ 160 – 180 บาท
เงาะทองผาภูมิรสหวาน กรอบ เนื้อร่อน กินเพลิน
ร้านลุงเท่งทุเรียนซิ่ง
ยืนกินกันหน้าร้านเลย
เพื่อน ๆ กับ พี่ ๆ สนุกกับการกินผลไม้ชนิดอร่อยริมทางกินกันหน้าแผงขายเลย ใครอยากลองลิ้มชิมรสชาติผลไม้ GI ของทองผาภูมิ
พ่อค้าแม่ขายฝากแจ้งข่าวมาว่า 26 – 30 มิถุนายนนี้จะมีงานเทศกาลผลไม้สืบสานประเพ ณีลานบ้าน ลานวัฒนธรรมของดี อำเภอทองผาภูมิที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ เขื่อนวชิราลงกรณ์
เดือนกรกฎาคม วันที่ 4-6 มีงานผลไม้ GI ทองผาภูมิที่โรบินสัน กาญจนบุรี แต่ถ้ามา 11 – 13 กรกฎาคม ไปซื้อได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด กาญจนบุรี สะดวกที่ไหนก็ตามไปซื้อชิมกันได้
ทุเรียนและเงาะทองผาภูมิ ผลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
คราวนี้ก็ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้ว สวนริมแควรีสอร์ท เป็นที่พักอยู่ชิดแม่น้ำแควน้อย จากที่พักมีบันไดทางขึ้นไปพบกับตลาดเช้าทองผาภูมิได้เลย (ราคาเริ่มต้นที่ 800 บาท โทร. 08 1190 9284)
ได้รับกุญแจห้องแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่เพราะไปถึงช้ากว่าใครจึงไม่มีสิทธิเลือกเอง เป็นห้องพักชั้นล่างเปิดประตูห้องเข้าไปเจอวิวริมหน้าต่างถึงกับอ้าปากค้างเลยทีเดียว
ได้มองเห็นภูเขาสูงที่อยู่ไกล ๆบนยอดมีหมอกขาวคลุมบางเบา ตรงกลางเป็นแม่น้ำแควน้อยที่มีน้ำสะอาดใส นาน ๆ ครั้งจะมีเรือหางยาวแล่นผ่านเตือนให้รู้ว่านี้ภาพความจริงที่ไม่ได้ฝันไป
ธรรมชาติจากริมหน้าต่างห้องนอน
ชีวิตริมแม่น้ำแควน้อย
ยามเย็นวิวนี้ที่ว่างามแล้ว ช่วงฟ้าสางที่ตะวันยังไม่ทำงานเต็มที่เราเฝ้ามองหมอกขาวที่ปกคลุมโดยทั่วบริเวณ มองเห็นเส้นขอบของภูเขาเป็นเงาดำในความมืด ไม่ต้องออกไปไหนกันล่ะ
ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปรไปตามเวลาค่อยๆขยับ แดดเช้ามาหมอกหาย แต่ได้เห็นสะพานแขวนที่ทอดยาวออกไปสุดสายตา ได้เห็นเงาแดดสะท้อนลงน้ำ ได้ยินเสียงน้ำไหลรินอยู่ใกล้ ๆ จะให้อยู่ในห้องไม่ออกไปไหนก็ไม่เป็นไรเลย
ยามเช้าเดินไปใส่บาตรได้ที่สะพานที่มองเห็นไกลจากห้องพัก
อิ่มวิวแล้วเราไต่บันไดจากที่พักขึ้นไปยังตลาดเช้าที่อยู่ติดกัน เป็นความเรียบง่ายที่มีระเบียบอยู่ในทีที่สำคัญตลาดเล็ก ๆแห่งนี้โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูงที่มีหมอกปกคลุมอยู่แม้จะยามสายแล้วก็ตาม ร้านกาแฟโบราณ ไข่ลวก ขนมครก ปาท่องโก๋ มีให้กินครบครัน ข้าวต้มเลือดหมู ก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกง ของสดของแห้ง ปลาเค็มทอดร้อนๆตัวละ 25 บาทซื้อมากินกับข้าวสวยร้อน ๆ บีบมะนาวซอยหอมแดงเติมพริกป่นลงไปข้าวสวยคนละจานแทบจะน้อยไปเลย
หอบร่างกายที่แบตใกล้เสื่อม ได้มาชาร์จพลังในอ้อมกอดของภูเขาที่มีสายหมอกยามเช้าช่วยปลอบประโลมใจ เป็นความสุขเรียบง่ายที่อยากจะแบ่งปันและบอกต่อว่า
“มาให้(ภู)เขากอดกันเถอะ ดีต่อใจจริง ๆ”
ตลาดทองผาภูมิยามเช้า
กาแฟ ปาท่องโก๋ ขนมครก (ไข่ลวกกินหมดแล้ว) อาหารเช้าที่เราปรารถนา
