ทายาทเจน 3 โรงแรมรีเจนท์ ชะอำ ชู ‘วาลา หัวหิน’ เป็น ‘โรงแรมยั่งยืน’
‘วาลา หัวหิน’ บูทีค บีชรีสอร์ท 5 ดาว บริหารโดยทายาทเจน 3 ของ ‘โรงแรมรีเจนท์ ชะอำ’ วศุมา คณาธนะวณิชย์ มุ่งหมายให้เป็น ‘Sustainable Hotel’ หรือ ‘โรงแรมยั่งยืน’
วศุมา คณาธนะวณิชย์ ทายาทเจน 3 โรงแรมรีเจนท์ ชะอำ โรงแรมใหญ่ขนาด 442 ห้อง บนพื้นที่ 50 ไร่ ติดชายหาดชะอำ ก่อตั้งมากว่า 40 ปี
วันนี้คนเจน 3 นำทีมบริหาร วาลา หัวหิน - นู แชปเตอร์ โฮเทล (VALA Hua Hin – Nu Chapter Hotel ชื่อเต็ม) บูทีค บีชรีสอร์ท บนพื้นที่ 20 ไร่ (อยู่ติดกับรีเจนท์ ชะอำ) ห้องพัก 97 ห้อง มองเห็นวิวทะเลบนชายหาดยาว 260 เมตร
และวางเป้าหมายให้เป็น โรงแรมยั่งยืน งดใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง และพยายามลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง (food waste) จนถึงทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ฯลฯ
วาลา หัวหิน เปิดตัวเมื่อปลายปี 2019 ปีนี้ได้ฤกษ์เปิด เซลา ซี แซงชัวรี สปา จากแนวคิด “ทะเลบำบัด”
และ วันเดอร์ วูดส์ คิดส์คลับ (สำหรับเด็กอายุ 2-12 ขวบ) แรงบันดาลใจจากผืนป่า จัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติและทะเล เช่น โซนบ่อบอล มินิสไลเดอร์ และชวนเด็ก ๆ ปลูกผัก เก็บไข่ไก่ ในออร์แกนิคฟาร์ม
วาลา หัวหิน ออกแบบห้องพักแนบอิงกับธรรมชาติ ด้วยเฉดสีเอิร์ธโทนละมุนตา เช่น บีชฟรอนท์ ริมชายหาดมองเห็นวิวทะเลกว้าง / แฟมิลี่ รูม สำหรับครอบครัว มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง สระว่ายน้ำอยู่ติดห้อง / รูม&สวีท ขนาด 45-60 ตรม. / พูลวิลลา มีอ่างอาบน้ำในห้องและสระว่ายน้ำส่วนตัว
ปี 2023 วาลา หัวหิน ได้รางวัล Thailand Best Beach Island Resorts in Thailand จาก Travel+Leisure Luxury Awards Asia Pacific
วศุมา คณาธนะวณิชย์ (นูนู่, นู่)
ชื่อของโรงแรมต่อท้ายด้วย Nu Chapter มีที่มาจากชื่อของคุณตากับคุณยายมาผสมกัน คือตัว N+U (อุธรณ์ - โนรี เตชะไพบูลย์ ผู้ก่อตั้งโรงแรมรีเจนท์ ชะอำ ปี พ.ศ.2525) และเป็นชื่อเล่นของวศุมา ว่า นูนู่ หรือ นู่
นูนู่ หรือ วศุมา เป็นบุตรสาวคนโตของ ปิยะมาน เตชะไพบูลย์ กับ วิศิษฐ คณาธนะวณิชย์ ที่เข้ามาช่วยคุณแม่ดูแล โรงแรมรีเจนท์ ชะอำ มานับ 10 ปีแล้ว ทายาทเจน 3 เล่าว่า
ห้องสกาย บีชฟรอนท์
“ดูหลายแผนก เช่น รีโนเวทห้อง ทำแลนด์สเคป ทำเอาท์เลต เนื่องจากส่วนตัวชอบด้านดีไซน์ก็เข้ามาช่วยดูเรื่องตกแต่งห้อง ทำแบรนดิ้งคอนเซปต์ เพราะรีเจนท์ ชะอำ มีโพเทนเชี่ยลสูงที่จะปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ ๆ ด้วยมีพื้นที่เยอะ มีสเปซเยอะ เราพยายามปรับให้ลูกค้าได้เอ็นจอยกับการใช้สเปซ ซึ่งเราปรับแบบไมเนอร์เชนจ์มาตลอด”
ห้องแฟมิลี รูม
เมื่อมีโอกาสทำโรงแรมของตัวเอง วาลา หัวหิน จึงเกิดขึ้นในคอนเซปต์ Sustainable Hotel อีกทั้งชูเรื่องการดีไซน์ห้องพักในคอนเซปต์ Nature’s Touch with a Modern Design ดูเรียบสไตล์โมเดิร์น หากกลมกลืนกับธรรมชาติ ตั้งใจให้มีพื้นที่สีเขียวถึง 48%
“ตอนแรกทำเรามีทีมงานของคุณแม่มาช่วยบ้าง แต่เราก็มีทีมงานของเรา เช่น อินทีเรีย การทำบิสสิเนส ดีเวลอปเมนท์ และทำแบรนดิ้ง มาเสริมการทำงานคู่กับทีมเดิม วาลา หัวหิน เปิดช่วงโควิดแต่ก็ถือว่าได้ผลตอบรับที่ดี ทีมงานก็ยังมีศักยภาพที่จะไปต่อ”
เนื่องจากบริหารโดยคนเจน 3 ที่มองภาพการท่องเที่ยวว่าเป็นยุคของคนรุ่นใหม่ที่มองหาที่พักที่มีดีไซน์ ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ชอบอาหาร และคำนึงถึงระบบจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วย
“วาลา หัวหิน มีแนวคิดทำโรงแรมยั่งยืนให้เป็น sustainability ตั้งแต่ก่อตั้ง เช่นการออกแบบ และเรื่องการปฏิบัติตั้งแต่แรกเลย ตอนนี้เหลือแค่ 1 อย่างที่เรากำลังทำ คือการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง กลางปีนี้อะมานิตี้ในห้องจะเปลี่ยนเป็นรีฟิลล์ ตอนนี้น้ำดื่มเป็นขวดแก้วด้วยวิธีการกรองที่สะอาด นอกจากนี้ก็ไม่ใช้หลอดพลาสติก รวมถึงทุกทัชพอยท์เลือกวัสดุที่ย่อยสลายได้
อะมานิตี้ในห้องพักที่ใช้แบบรีฟิลล์ โดยพัฒนากลิ่นและโปรดักของเราเอง เพื่อใช้ในสปาด้วย”
เมื่อเทรนด์การท่องเที่ยวต้องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม อาจเป็นโจทย์ใหม่ของคนรุ่นใหม่
“โลกเปลี่ยนไปเร็วมาก เราต้องปรับตัวให้ทัน พัฒนาตลอด มีน้องชายมาช่วยดูแลด้านไฟแนนซ์และการจัดระบบต่าง ๆ ส่วนตัวดูแลด้านโปรเจค ดีเวลอปเมนท์ และมาร์เก็ตติ้ง
การบริหารโรงแรมในแต่ละยุคสมัยมีความแตกต่างกัน เราต้องเข้าใจ แต่ละยุคล้วนมีเหตุผล ไม่ใช่เราจะเอาความคิดของเรามาลงทันทีเพราะคิดว่านี่คือไซเคิลของเรา แต่ความจริงทุกอย่างต้องเรียนรู้ร่วมกัน
เมื่อเรียนรู้ไปด้วยกันเราจะมีทุกมุมมอง ทำให้เราคิดได้ครบมากขึ้น บางมุมมองมาจากประสบการณ์ที่คุณแม่เคยเจอ มีความเห็นแตกต่างกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อเราเข้าใจมุมมองของคนรุ่นก่อน กับของตัวเราเองและทีมงานเรา จะทำให้เกิดการคอนสตรัคทีฟแล้วเราไปต่อได้
ธุรกิจโรงแรมสิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ เรื่องของบุคลากร ดังนั้นเราต้องเรียนรู้ให้มาก เข้าใจมุมมอง มองภาพกว้างให้ได้ วางแผนอย่างไรให้ทีมงานเติบโต ธุรกิจโรงแรมการแข่งขันสูง แต่เราต้องสร้างความแตกต่าง เราต้องชัดเจน”
