เรื่อง ‘ชีส’ น่ารู้ ก่อนจัด ‘ชีสบอร์ด’ ชีสแบบไหน ทานคู่อะไรดี?

เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองแบบนี้ แน่นอนว่า งาน “ชีสบอร์ด” ต้องเข้าแล้ว สำหรับหลายๆ ปาร์ตี้ถ้าจะมีไวน์ การมีชีสแกล้มไปด้วยก็เลิศไม่หยอก

แต่นอกจากคำถามว่า จะเลือกชีสตัวไหนดีในการจัดชีสบอร์ดแล้ว หลายคนยังไม่แน่ใจว่า จับคู่ไวน์แอนด์ชีสแบบไหน และแกล้มกับอะไรดีอีกด้วย

เรื่องนี้ มีคำตอบให้ โดยเป็นเกร็ดความรู้จากงานเอ็กซ์คลูซีฟดินเนอร์ “Enjoy Eating Day 2025” มีโฮสต์ระดับตัวตึงเรื่องชีสและเนยอย่าง “เคซีจี คอร์ปอเรชั่น” หรือ KCG นำโดย “ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล” ซีอีโอ KCG ออกโรงนำทัพเชฟแถวหน้าของเมืองไทยมาร่วมสร้างสรรค์ 5 คอร์สเมนูสุดพิเศษให้ได้ชิมกันเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ณ ห้องอาหาร Greenhouse Restaurant โรงแรม Avani Sukhumvit Bangkok

ชีสบอร์ดคืออะไร และจัดอย่างไร?

ก่อนอื่น ขอพาไปสรุปสั้นๆ เกี่ยวกับ “ชีสบอร์ด” (Cheese Board) กันก่อน ชีสบอร์ดนั้นเป็นเหมือนของทานเล่นในงานเลี้ยง โดยเป็นการจัดวางชีสหลากหลายชนิดบนถาดไม้พร้อมด้วยสารพัดเครื่องเคียง ตั้งแต่เนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆ (Cold Cuts) เช่น ซาลามี แฮม พาร์มาแฮม รวมถึงยังมีผลไม้เบอร์รี่ ถั่ว ผลไม้แห้ง แยม น้ำผึ้ง เป็นต้น

สำหรับชีสที่เลือกมานั้น ควรมีความหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่ที่นำมาจัดก็จะมีตั้งแต่ ชีสนิ่ม (Soft Cheese) สัมผัสก็ตามชื่อเลย คือ มีความนิ่ม รสนวล และออกครีมมี่ อย่างเช่น บรี, กามองแบรต์ และไล่ระดับความแข็งไปที่ ชีสกึ่งนิ่ม (Semi-Soft Cheese) ซึ่งมีเนื้อแน่นขึ้นมาหน่อย พอนุ่มบ้างแต่ไม่ถึงกับเหลว เช่น เกาด้าชีส จากนั้นเป็น ชีสแข็ง (Hard Cheese) ที่นอกจากเนื้อสัมผัสจะแข็งแล้ว รสชาติก็เข้มข้น ที่คุ้นกันดีอย่างเช่น เชดดาร์ชีส จากนั้นสำหรับใครที่มีประสบการณ์ชีสมาแล้ว คงไม่ยอมพลาด บลูชีส (Blue Cheese) อย่างแน่นอน ที่ถึงแม้กลิ่นจะแรง แต่ถ้าชินแล้ว ขอบอกว่า ติดใจไปอีกนาน

ทั้งนี้ ยังมีทริคการวางชีสอีกเล็กน้อย คือ ควรจัดวางชีสตามเข็มนาฬิกาตามลำดับความเข้มข้นของรสชาติ (จากอ่อนไปเข้ม) โดยวางชีสที่นุ่มที่สุดไว้ตรง 12 นาฬิกา แล้วเรียงลำดับไปเรื่อยๆ ตามทิศเข็มนาฬิกา

จับคู่ชีสกับไวน์และเครื่องเคียงแบบไหนดี?

แล้วเราจะจับคู่ชีสกับไวน์ตัวไหนดี? เรื่องนี้ ขอเล่าผ่านกิจกรรมการชิมชีสที่จัดในงานนี้ โดยมี กูรูตัวจริง อย่าง “ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ร่วมแนะนำวิธีการทานให้อร่อย ผ่านการชิมชีส 8 สไตล์ 8 คาแรกเตอร์ ตัวเด็ดจากทั่วโลกที่ KCG ได้รวบรวมไว้ ซึ่งเป็นแบรนด์ภายใต้ KCG ได้แก่ ILE DE FRANCE, Garcia Baquero, Emmi, Coombe Castle, Brazzale, Emborg

เริ่มต้นดังนี้

1.BRIE จากแบรนด์ ILE DE FRANCE

ชีสนมวัวจากฝรั่งเศส เนื้อเนียนครีมมี่นุ่มละลายในปาก อ่อนโยน ละมุนช่วงปลายมีความเฮเซลนัท เบาๆ จากแบรนด์ต้นตำรับผู้รังสรรค์ “ศิลปะรสชาติชีสจากฝรั่งเศส” สืบทอดกันมายาวนานกว่า 8 ทศวรรษ

จับคู่กับไวน์ Chardonnay ทานกับลูกแพร์, ถั่ว, แยม, น้ำผึ้ง, แครกเกอร์

2. APERIFRAIS D PROVENCE จากแบรนด์ ILE DE FRANCE

ชีสนุ่มจากฝรั่งเศส ก้อนเล็กขนาดพอดีคำ ท็อปด้วยสมุนไพรสไตล์ฝรั่งเศสตอนใต้ สื่อถึงรสชาติแบบ โพรวองซ์ (Provence) รสสดชื่นทานง่าย เปรี้ยวละมุน

จับคู่กับไวน์ Prosecco, Sauvignon Blanc, Vermouth พร้อมด้วย องุ่น เมลอน บาแกตต์ Grapes, Melon, Baguette และแฮม Prosciutto

3. Wensleydale with Blueberry จากแบรนด์ Coombe Castle

ชีสอังกฤษเนื้อนุ่ม ผสมบลูเบอร์รี่ หอมหวานเปรี้ยวสดชื่นจากผู้เชี่ยวชาญในการส่งออกผลิตภัณฑ์นมของอังกฤษและไอร์แลนด์ เหมาะสำหรับทำชีสบอร์ด

จับคู่กับไวน์ Alsace และ Gewurztraminer ทานแกล้มแคร็กเกอร์ ผลไม้ และ สลัด

4. Reserva 12 Month จากแบรนด์ Garcia Baquero

ชีสนมผสม (Mixture) จาก แกะ, แพะ และ วัว จากสเปน บ่มนาน 12 เดือน รสชาติกลมกล่อม นุ่มลึก เป็นเอกลักษณ์ เนื้อเเน่น เรียบเนียน พร้อมรสถั่วอ่อน ๆ เหมาะสำหรับจับคู่กับไวน์ เสิร์ฟเป็นทาปาส รวมถึงจัดในชีสบอร์ด

จับคู่กับไวน์ Crianza, Burgundy และ Bordeaux ส่วนเคียงจานด้วยแซนวิช ผลไม้ และ สลัด

5. Kaltbach Le Gruyere จากแบรนด์ Emmi

ชีสแข็ง (Hard Cheese) จากสวิตเซอร์แลนด์บ่มในถ้ำ Kaltbach 12 เดือน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวจากการบ่มในถ้ำหินทราย โทนถั่วหวานปลาย มีกลิ่นเฉพาะตัว เนื้อสัมผัสโดดเด่นด้วยเกลือผลึกกรุบ ผสานชีสเนื้อนุ่ม พร้อมการรับรองความเป็นต้นตำรับ AOP จาก สวิตเซอร์แลนด์

ไวน์ที่เหมาะจับคู่ด้วย คือ Burgundy, Cabernet France และ Syrah พร้อมด้วยน้ำผึ้ง อัลมอนด์ และ ไวท์ช็อคโกแลต

6. Parmigiano Reggiano จากแบรนด์ Brazzale

ชีสอิตาเลียนระดับคลาสสิก บ่มนาน 18 เดือน ทำจากนมวัว กลิ่นเข้ม หรู นัว ขาดไม่ได้ในอาหารชั้นดี โดยเป็นชีสที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชาแห่งชีส" (King of Cheeses) พร้อมการรับรองความเป็นต้นตำรับ D.O.P. จากอิตาลี

จับคู่กับไวน์ Cabernet Sauvignon, Chianti, Prosecco พร้อมด้วย แอปเปิ้ล แพร์ น้ำผึ้ง มะกอก และ โคลด์คัตส์

7. Cheddar with Truffle จากแบรนด์ FORD FARM

Cheddar semi-hard จากอังกฤษ กลิ่นหอมจากทรัฟเฟิลแท้ หอมลึก รสเข้มกำลังดี มี body หนักแน่น เพิ่มเสน่ห์ในทุกคำด้วยเกล็ดทรัฟเฟิลดำ

จับคู่ไวน์ Cabernet Sauvignon, Barolo พร้อมด้วยแอปเปิ้ล แพร์ แคร็กเกอร์ และ ขนมปังเปลือกแข็ง (Crusty Bread)

8. Danablu Danish Blue Cheese จากแบรนด์ Emborg

บลูชีสจากเดนมาร์ก เนื้อครีมมีกลิ่นเฉพาะตัว รสเข้มชัด มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ลายสีฟ้าปนเขียวที่เป็นเอกลักษณ์จากราธรรมชาติ

จับคู่กับไวน์ Sauvignon Blanc, Chardonnay, Pinot Noir ทานกับ แคร็กเกอร์, ผลไม้, น้ำผึ้ง และ สลัด

ถัดจากเรื่องชีสๆ ไปแล้วก็มาถึงของจริงกับ 5 คอร์สเมนูสุดพิเศษ จากวัตถุดิบพรีเมียมของ KCG ที่รังสรรค์โดยกองทัพ KCG Ambassador Chefs เชฟดีกรีระดับโลก และเชฟชื่อดังแนวหน้าของไทย เชฟวิลแมน ลีออง, เชฟบิ๊บ ชัชชญา, เชฟเมย์ พัทธนันท์, เชฟพลอย ฐาติกานต์ และเชฟเซนส์ วาทิศ ที่มาร่วมเปลี่ยนค่ำคืนธรรมดาให้กลายเป็นโมเมนต์แห่งความอร่อย

เริ่มจาก Bread & Flavoured Butter โดย เชฟเซนส์ - วาทิศ สนิทวรรณะ (KCG Bakery Chef Specialist) ด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของขนมปังอบสดใหม่ "Purpurmix Apricot Cranberry Soft Roll" และ "Sourdough Foccacia" เนื้อนุ่มหนึบ เสิร์ฟคู่กับเนยรสพิเศษ Honey Butter และ Sun-dried Tomato Butter ที่ใช้เนยเกรดพรีเมียมจาก Allowrie และ Le Gall เพื่อเปิดต่อมรับรสให้พร้อมสำหรับจานถัดไป

ต่อด้วย Appetizer โดย เชฟพลอย - ฐาติกานต์ ตัณฑจินนะ (KCG Ambassador Chef) ให้สดชื่นไปกับเมนูเรียกน้ำย่อย "Crab & Mango Tartlette with Balsamic Veil" ทาร์ตปูเนื้อแน่นผสานความหวานอมเปรี้ยวของมะม่วงในแป้งทาร์ตบางกรอบ โดดเด่นด้วย Balsamic Veil แผ่นเจลลี่บัลซามิก Mazzetti สีเข้มเนื้อเนียนวาวที่วางท็อปด้านบน มอบรสเปรี้ยวหวานอันมีมิติ ผสานความหอมมันจากน้ำมันมะกอก La Espanola ช่วยชูรสชาติให้กลมกล่อมลงตัว

จากนั้นมาสู่ Soup โดย เชฟวิลแมน ลีออง (เชฟที่ปรึกษา KCG) สัมผัสความละมุนของ "White Onion Cream Soup" ซุปครีมหัวหอมขาวเนื้อเนียนนุ่ม รสชาติเข้มข้น หอมมันจากวิปปิ้งครีม ชีสและเนยแท้จาก Emborg เสิร์ฟพร้อมหอยเชลล์โฮตาเตะ (Scallop) และครูตองซ์ซาวโดว์กรุบกรอบ

ส่วน Main Course รับหน้าที่โดย เชฟเมย์–พัทธนันท์ ธงทอง (KCG Ambassador Chef) ยกระดับความพรีเมียมสู่จานหลักที่มีให้เลือกตามความชอบ ระหว่าง "Roasted Beef" เนื้อย่างนุ่มชุ่มฉ่ำ หรือ "Confit Salmon" แซลมอนเนื้อนุ่มละลายในปาก ทั้งสองจานเสิร์ฟเคียงคู่กับ Pasta Terrine พาสต้าในรูปแบบเทอร์รีนสุดเก๋ ราดซอส Spicy Tomato และ Rocket Pesto ที่กลมกล่อมลงตัว

ปิดท้ายด้วย Dessert โดย เชฟบิ๊บ–ชัชชญา รักตะกนิษฐ (KCG Ambassador Chef และผู้อำนวยการ KCG Creative Center) เมนูของหวานที่แฝงความหมายมงคลรับปีใหม่ "Yuzu Cheesecake & Matcha White Chocolate Mousse" โดดเด่นด้วยชีสเค้กยูซุจาก MG Cream Cheese ที่รังสรรค์ขึ้นรูปเป็น "ผลส้ม" สัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความรุ่งโรจน์ เสิร์ฟเคียงคู่กับมูสชาเขียวไวท์ช็อกโกแลต Van Houten เนื้อเนียนนุ่ม ประดับด้วยแผ่นช็อกโกแลตสีทองประทับตรา KCG เสมือนเหรียญทองแห่งความมั่งคั่ง เพิ่มมิติความอร่อยด้วย Cookie Crumble จาก Imperial Gold Selection ตัดรสด้วยซอส Caramel Miso เป็นเมนูที่สะท้อนความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ ที่ผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับเทศกาลแห่งความสุขได้อย่างลงตัว