‘ฟิชแอนด์ชิปส์’ ปลาไทย ประมงพื้นบ้าน ‘เกาะลันตา’ ที่ ‘Fishmonger’

คอลัมน์ อร่อยริมทาง ของ หมูหวานชวนชิม ไม่ได้แนะนำแค่ร้าน อาหารอร่อย แต่ราคาย่อมเยาเท่านั้น ยังมีร้านอาหารริมทาง ที่ อร่อย และสมราคา ไม่แพงเวอร์

วันนี้เพื่อนกินมาเจอร้าน Fishmonger หรือชื่อเต็มๆว่า The House of Fishmonger  พุ่งประเด็น ความอร่อย ไปที่ พิชแอนด์ชิปส์  

ปกติแล้วเมนู Fish & Chips ฝรั่งจะใช้ ปลาค็อดแอตแลนติก หรือปลาชนิดอื่นที่มีรสชาติ เนื้อสัมผัสใกล้เคียงกัน ทว่าวันนี้เรามารื่นรมย์ชมชื่นกับ ปลาไทย ในเมนูอาหารฝรั่ง พอได้ชิมแล้วต้องว๊าวในรสชาติของปลา ซึ่งเขามีให้เลือกว่าเราต้องการปลาไทยชนิดใด ราคาของอาหารขึ้นอยู่กับปลาที่เราเลือก

พิชแอนด์ชิปส์  ที่เราเลือกเป็น ปลาเก๋าพริกไทย เนื้อสัมผัสแบบ Medium เพราะบนกระดานจะเขียนบอกลูกค้าไว้ว่า วันนี้มีปลาอะไรบ้าง อาทิ ปลากุดสลาด มีเนื้อสัมผัส Tender ปลาช่อนทะเลมีเนื้อสัมผัสแบบ Firm

บอกตรงๆว่าเลือกไม่ถูกเลย รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ปลาตาเดียว (T) ปลาเก๋าหางซ้อน (T) ปลามันแดง (M) ปลาอังเกย (M)ปลาเก๋าดอกแดง (M) ปลาสร้อยนกเขา (T) ปลาน้ำดอกไม้ (M)

'ฟิชแอนด์ชิปส์' ปลาสร้อยนกเขา

สำหรับคนที่ชอบรับเมนูปลาไทย บอกเลยว่าฟิน สด อร่อยมากๆเพราะส่งตรงมาจากประมงท้องถิ่นพื้นบ้าน เกาะลันตา

กลับมาที่ พิชแอนด์ชิปส์  ปลาไทย ที่เราเลือกคือ ปลาเก๋าพริกไทย เนื้อสัมผัสแบบ Medium ทางร้านเขามีเทคนิคพิเศษ (Beer Batter)ในการทอดปลาให้ อร่อย ด้วยการผสมแป้งกับเบียร์เข้าด้วยกันก่อนนำไปชุบปลาแล้วทอดให้กรอบ แบบไม่อมน้ำมัน

บรรยากาศภายในร้านสาขาโรงแรมเอเชีย

เนื้อสัมผัสของแป้งบางกรอบ ต้องขอชื่นชมปรบมือรัวๆให้กับเมนูปราบเซียน ที่ หมูหวานชวนชิม คิดมาตลอดว่า จะสั่งเมนูนี้ต้องมั่นใจจริงๆว่าสำเนาถูกต้อง ทั้งปลาทั้งแป้งต้องอร่อย เพราะมันคือ Fish & Chips หากเจอเนื้อปลาไม่สด แป้งไม่กรอบ ก็คือจบแบบไม่ค่อยสวย

เบอร์เกอร์ปลาสร้อยนกเขา

ทำให้เราอยากลองเมนูเบอร์เกอร์ ก็เลยตัดสินใจสั่ง Fish Burger ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับเนื้อปลาที่เลือก พวกเราตกลงกันเลือก ปลาสร้อยนกเขา มีเนื้อสัมผัสนุ่มละมุนหน่อย เมื่อนำมาชุบแป้งทอดแล้วน่าจะเข้ากันได้ดี กลมกลืนกับขนมปังบริยอชบัน เนื้อนุ่มหอม ใช้เทคนิคการทอดปลาเหมือนกัน เสิร์ฟมากับซอสทาร์ทาร์สูตรพิเศษของทางร้าน ความอร่อย ไม่ต้องพูดถึง หมูหวานชวนชิม ขอการันตี

สลัดบูราต้าและมะเขือเทศ

สลัดบูราต้า เป็นเมนูโปรดของหมูหวาน ร้านไหนมีเมนูนี้ต้องรีบสั่ง จานนี้มีทั้งผักร็อกเก็ต หัวหอม มะเขือเทศ ซอสโหรพา รับประทานแล้วสดชื่น อีกเมนูที่ตั้งใจมา อร่อย ก็คือ ไข่ปลาหมึกกระดองทอด ราคา 195 บาท เคี้ยวเพลินมากๆ ใครที่ชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ น่าจะสั่งมาแกล้มได้ดี(ฮา)

ไข่ปลาหมึกกระดองทอด

เนื่องจากเป็นคนชอบกินเส้น (เมนูเส้น) เลือกอยู่นานว่าจะสั่งสปาเก็ตตีอะไรดีนะ มีทั้ง Spaghetti Spicy Pomodoro สปาเก็ตตีซอสมะเขือเทศรสเผ็ด ที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นกุ้ง หรือปลาหมึก ราคาขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ ถ้าเป็นกุ้งราคา 340 บาท ปลาหมึก 240 บาท

สปาเก็ตตีไส้กรอกโชริโซพริกแห้งกุ้ง ก็น่ารับประทาน ท้ายที่สุดได้เลือก Tagliatelle Squid Ink (พาสต้าซอสหมึกดำ) ราคา 320 บาท เพื่อนร่วมโต๊ะรีบถ่ายรูปหมู่ของพวกเรากับอาหารก่อนที่จะลงมือรับประทาน เธอบอกว่า เดี๋ยวฟันดำ ห้ามถ่ายรูป (ฮา)

พาสต้าซอสหมึกดำ

ร้านนี้ทำซอสหมึกดำได้ดีถูกใจไม่มีกลิ่นคาวเลย รสชาติมีความเผ็ด พอบีบมะนาวเลมอนลงไปเพิ่มความเปรี้ยว อร่อยลงตัวมากๆ ปลาหมึกเนื้อหนาๆ แต่ไม่เหนียว เคี้ยวสบายฟันใครชอบ พาสต้าซอสหมึกดำ สั่งได้เลยรับรองไม่ผิดหวัง

บรรยากาศภายในร้าน

ยังมีอีกหลายเมนูที่น่ารับประทาน คราวหน้าต้องลองสั่ง กุ้งทอดและชิปส์ และยังมีสลัดกุ้งย่าง กุ้งทอดแม็กซิกัน กุ้งย่างและดอกกะหล่ำบด ปลาหมึกย่างลุยเซียนา ปลาหมึกคาลามารี ฯลฯ

ร้าน The House of Fishmonger   มีสองสาขาก็คือสาขาซอยอารีย์ และโรงแรมเอเชีย (ด้านนอกโรงแรม ติดกับถนน ตรงข้ามทางขึ้นอาคารจอดรถ)

ร้าน Fishmonger สาขาโรงแรมเอเชีย

ร้าน The House of Fishmonger  เปิดบริการทุกวันเริ่มเวลา 12.00 น. โรงแรมเอเชีย 296 ถนนพญาไทย แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โทร. 095 492 2245