ดื่มด่ำ อาหารญี่ปุ่น ที่ ฮาชิริ (Hashiri) โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทลฯ

ฮาชิริ (Hashiri) โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี เหมาะดับการดื่มด่ำ ทั้ง ‘อาหารญี่ปุ่น’ และ ‘เครื่องดื่ม’ โดยเฉพาะ Nomihodai โปรฯ ‘ดื่มไม่อั้น’
ถือว่าเป็นอีก ‘ห้องอาหารญี่ปุ่น’ ที่มาแล้วไม่ผิดหวัง หลายคนมองว่า ฮาชิริ (Hashiri) อยู่ใน โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี ต้องราคาแพงแน่ๆ ต้องเปลี่ยนความคิดนั้นทันที เพราะ
วันนี้ หมูหวานชวนชิม มาพิสูจน์ ความอร่อย กับ Tasting Menu 5 Course พร้อมกับเพื่อนๆ ปรากฏว่า อร่อย และคุ้มค่าจริงๆ จึงไม่แพงอย่างที่คิด
แถมช่วงนี้ยังมี โปรโมชั่น Nomihodai ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ดื่มไม่อั้น ก็คือ Happy Hour ในเวลา 90 นาที เชิญชวนนักดื่มมาใช้เวลาแห่งความสุขหลังเลิกงาน ที่เราสามารถเลือกดื่มด่ำสดชื่นกับสาเก และเบียร์แบบไม่อั้น
หรือจะเลือกเพลิดเพลินกับค็อกเทลและไวน์ราคาสุดพิเศษที่ห้องอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย ดิอัลเลียม แบงค็อก (The Allium Bangkok) ที่อยู่ห้องถัดไปก็ได้นะ
หมูหวานชวนชิม ได้ทดสอบเครื่องดื่ม ซิกเนเจอร์ค็อกเทลสไตล์ญี่ปุ่น ไปนิดหน่อย สดชื่นดีแท้ ไว้ค่อยมาใหม่ สำหรับ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แนะนำ อาทิ Kakubin Whiskey, Absolut Vodka, Flor de Cana Rum, Beefeater Gin รวมถึง Junmai Ginjo Shuraku Sake
เพื่อนหนุ่มร่วมโต๊ะเขาถนัดดื่มเบียร์ มีให้เลือกทั้งเบียร์สดอาซาฮี และช้าง เสิร์ฟพร้อมของว่างสไตล์ญี่ปุ่นที่ปรุงสดใหม่ 7 เมนู อาทิ ครีบปลากระเบนย่าง ปลาหมึกทอดคาราอาเกะ ถั่วแระญี่ปุ่นรสเผ็ด และทาโกะวาซาบิ
โปรโมชั่น Nomihodai ดื่มไม่อั้นในเวลา 90 นาที ให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 18:00 น. – 22:00 น. ในราคา 999++ บาทต่อท่าน
ส่วนกับแกล้มสไตล์ญี่ปุ่นราคาเมนูละ 180++ บาท ว่าแต่วันนี้ จุดประสงค์หลักของเรามาที่ ฮาชิริ (Hashiri) เพื่อลิ้มรส Tasting Menu 5 Course นี่นาเกือบลืมไปแล้วมัวแต่ตื่นเต้นกับ Happy Hour
หมูหวานชวนชิม สงสัยในชื่อของ ห้องอาหารญี่ปุ่น แห่งนี้จนได้ความว่า ฮาชิริ(Hashiri) หมายถึง การเก็บเกี่ยวครั้งแรก หรือ การจับปลาในช่วงแรกของฤดูกาล นำมาตั้งเป็นชื่อของ ห้องอาหารญี่ปุ่นสไตล์ทันสมัย
รังสรรค์จากวัตถุดิบตามฤดูกาล โดยเชฟชาวสิงคโปร์ อัลวิน ชูว์ (Alvin Chew) ผู้สั่งสมประสบการณ์จากเหล่าเชฟระดับมิชลินสตาร์มามากมาย อร่อย สมใจนังช้อยนัก (ฮา)
เชฟอัลวิน บรรจงประกอบอาหาร แล้วเสิร์ฟในรูปแบบใหม่ สวยงาม ทว่า เน้นให้พวกเราได้สัมผัสรสชาติแท้ ๆ ตามธรรมชาติของวัตถุดิบ ซึ่งใช้วัตถุดิบท้องถิ่นออร์แกนิกมีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกจานมีความสดใหม่ และรสชาติเป็นเลิศ
เนื่องจากเป็นครัวเปิด เราจึงมองเห็นการทำงานของเชฟและทีมงาน สามารถเลือก อร่อย ได้ทั้งเมนูอะลาคาร์ต ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี และเทสติ้งเมนู ไปจนถึงเทโชกุ หรือชุดอาหารกลางวันสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากจะใช้วัตถุดิบพรีเมียมนำเข้าจากญี่ปุ่นแล้ว เชฟอัลวินยังให้ความสำคัญในการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นและการเกษตรที่ยั่งยืนอีกด้วย
สำหรับ Tasting Menu 5 Course ของ ฮาชิริ (Hashiri) ที่ หมูหวานชวนชิม ได้ลิ้มรสในวันนี้นั้น เริ่มต้น ความอร่อย กันที่ เมนู
ANKIMO เป็น ไอศกรีมอันกิโมะกับโมนากะ เมนูที่สร้างความแปลกใหม่ด้วยการนำตับปลาอังโกะ วัตถุดิบชั้นเลิศของญี่ปุ่นมาปรุงด้วยเทคนิค และรูปแบบของไอศครีม เพิ่มสีสันด้วยแตงโมหมักสาเก
เติมรสชาติญี่ปุ่นดั้งเดิมด้วยนาราสึเกะ หรือผักดองจากเมืองนารา ตกแต่งเพิ่มความสวยงามด้วยดอกไม้กินได้ และใบชิโซะที่ให้กลิ่นหอมของสมุนไพร เสิร์ฟแบบเย็นโดยรับประทานประกบคู่กับโมนากะ หรือ แครกเกอร์แป้งโมจิเพิ่มสัมผัสกรุบกรอบ บอกได้เลยว่า คำแรก ก็รู้สึกตื่นเต้นซะแล้ว
จานถัดมาเป็น UNI & AMP: CRAB เป็น ทาร์ตไข่หอยเม่นบาฟุนกับเนื้อปูคาเวียร์ เชฟนำ เนื้อปูสดที่ปรุงรสด้วยครีมชีสและแอปเปิ้ลเขียว วางลงบนทาร์ตเนื้อบางกรอบ จากนั้นท็อปด้วยไข่หอยเม่นบาฟุนและคาเวียร์ ให้รสชาติที่ละมุน ลุ่มลึกและสดชื่นไปในเวลาเดียวกัน
คอร์ส ที่ 3 มีนามว่า SASHIMI ปลาดิบรวมคัดพิเศษ 5 อย่าง โดยเชฟคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมตามฤดูกาลจากทะเลญี่ปุ่น ผ่านกระบวนการดรายเอจอย่างพิถีพิถันก่อนเสิร์ฟเพื่อดึงรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุดของปลา เสิร์ฟพร้อมวาซาบิสดและโชยุสูตรพิเศษจาก เชฟอัลวิน ชูว์ ที่มีรสชาติเข้มข้นและกลมกล่อม
เดินทางมาจนถึง คอร์ส ที่ 4 เมนูนี้เพื่อนๆ ทุกคนในโต๊ะชอบมาก อยากจะเบิ้ลอีกสัก 1 (ฮา) นั่นก็คือ AWABI เป๋าฮื้อเทมปุระ ซอสตับเป๋าฮื้อ และเส้นโซบะ ขอบอกว่า ‘หอยเป๋าฮื้อ’ สดเนื้อแน่นๆ เชฟนำมาทอดเทมปุระจนกรอบนอกนุ่มใน อร่อย แบบไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน แถมยังเสิร์ฟมาพร้อมซอสตับเป๋าฮื้อรสเข้มข้น และเส้นโซบะเหนียวนุ่ม เสริมความกลมกล่อมและสมดุลของจานนี้ได้อย่างลงตัวสุดกรี๊ด
อาหารจานหลัก ก็คือ ข้าวอบเนื้อแก้มวัวตุ๋นกับฟัวกราส์ (Beef Cheek & Foie Gras) ข้าวอบหม้อดินรสเข้มข้น ด้วยการนำเอาเนื้อแก้มวัวมาตุ๋นในไวน์แดงนานกว่า 36 ชั่วโมง ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองและเครื่องเทศนานาชนิดจนได้เนื้อที่นุ่มละลายในปาก รสกลมกล่อมสุดๆ
เพิ่มความหรูหราและสัมผัสนุ่มละมุนด้วยตับห่าน (ฟรัวกราส์) รับประทานกับ ข้าวสวยสายพันธุ์โคชิฮิคาริ ที่อบกับทรัฟเฟิล เป็นข้าวอบที่มีกลิ่นหอม และได้สัมผัสกรุบกรอบอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวอบหม้อดินสไตล์ญี่ปุ่น เมนูนี้เชฟตามมาสไลด์เห็ดทรัฟเฟิ้ลกันสดๆที่โต๊ะ เพิ่มสีสันและความ พรีเมียม ให้กับจานนี้แบบสุดๆไปเลย
สำหรับเพื่อนๆที่ไม่รับประทานเนื้อ ขอเปลี่ยนเป็น ข้าวอบหอยนางรม หรือข้าวอบขาปูทาราบะ ก็ได้นะ ความอร่อย ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย ในที่สุดก็เดินทางมาจนถึงเมนูขนมหวาน นั่นก็คือ
ซอร์เบต์เมลอน เยลลีไวน์ กับครีมยูซุ (Melon)
ซอร์เบต์เมลอน เยลลีไวน์ กับครีมยูซุ (Melon) ไอศกรีมเมลอน รับประทานพร้อมเจลลี่ไวน์ขาวและครีมยูซุ อิ่มครบจบแบบฟินๆ คงต้องกลับมารับประทานซ้ำ เพราะทุกเมนูที่รับประทานไป อร่อยถูกใจทั้งสิ้น โดยเฉพาะ AWABI เป๋าฮื้อเทมปุระ ซอสตับเป๋าฮื้อ และเส้นโซบะ จึง เชิญชวนทุกท่านมารับประทาน อาหารญี่ปุ่น ที่ ฮาชิริ (Hashiri) กันนะคะ
ฮาชิริ (Hashiri) โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี เลขที่ 61 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เปิดบริการวันพุธ-จันทร์ (หยุดทุกวันอังคาร) มื้อกลางวัน 11.30 - 14:30 น. และ มื้อค่ำ 18:00 - 22:00 น. สำรองที่นั่ง ได้ที่ https://athenee.co/HashiriReservation







