‘SUGA บีทีเอส’ บริจาค 119 ล้านบาท สร้างศูนย์บำบัดเด็กออทิสติก

SUGA (ชูก้า) แรปเปอร์ โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงชื่อดังแห่งวงบีทีเอส (BTS) ควักเงินก้อนโตทำประโยชน์ให้กับสังคมด้วยการบริจาคเงินเป็นจำนวนมากถึง 5,000 ล้านวอน (กว่า 119 ล้านบาท) ก่อตั้ง “ศูนย์บำบัดรักษามินยุนกิ” (The Min Yoonki Treatment Center) เพื่อผู้ป่วยที่มีภาวะออทิสติกสเปกตรัม ประจำโรงพยาบาลเซเวอแรนซ์ (Severance Hospital) ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

โดยศูนย์บำบัดผู้ป่วยออทิสติกที่ตั้งตามชื่อจริงของ SUGA ว่า “มินยุนกิ” นี้ ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้การรักษาเด็กและเยาวชนที่มีภาวะออทิสติกสเปกตรัม เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือตัวเอง และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้

ทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์โรงพยาบาลสมิติเวชระบุว่า ออทิสติกสเปกตรัม (Autism Spectrum Disorder) หรือ ASDเป็นกลุ่มอาการที่มีความผิดปกติของสมองที่ส่งผลต่อพัฒนาการ ทำให้เด็กเกิดพัฒนาการที่ล่าช้าในด้านการสื่อภาษา การปฏิสัมพันธ์ด้านสังคม รวมถึงเกิดพฤติกรรมและความสนใจ ที่เป็นแบบแผนซ้ำ ๆ หรือแบบแคบ ๆ มีขีดจำกัด ความบกพร่องทางการพูดและการสื่อสาร

การบริจาคครั้งใหญ่สุดของคนดัง

โรงพยาบาลเซเวอแรนซ์แถลงว่า ศูนย์บำบัดรักษามินยุนกิ (The Min Yoonki Treatment Center) จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ โดยจะให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตแก่เด็กและเยาวชนผ่านพฤติกรรมบำบัด ตลอดจนการบำบัดด้านจิตวิทยาและภาษา ผ่านโครงการอันหลากหลายที่สอดคล้องกับแนวทางการวิจัยและการปฏิบัติทางคลินิก

“แม้แต่ตอนที่ทำงานในฐานะบีทีเอส ชูก้าที่อุทิศตัวเพื่องานการกุศล ก็มีความสนใจอย่างต่อเนื่องกับเรื่องสุขภาพจิต และปัญหาด้านพฤติกรรมที่สืบเนื่องมาจากจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะซึมเศร้าของเยาวชน โดยเขาได้แสวงหาหนทางต่าง ๆ เพื่อมอบความช่วยเหลือผ่านความสามารถและศักยภาพด้านดนตรีของเขา”

“เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ชูก้าได้พบปะกับศาสตราจารย์ ชอนกึนอา (Cheon Geun-ah) ผู้อำนวยการแผนกจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น (Pediatric Psychiatry) ของโรงพยาบาลเซเวอแรนซ์ หลังจากการประชุมกันหลายครั้งเขาก็ได้เรียนรู้ว่าคนไข้ออทิสติกสเปกตรัมจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษาเป็นการส่วนตัวแยกออกไปในแต่ละบุคคล เพื่อให้สอดคล้องกับระยะต่าง ๆ ในชีวิตของพวกเขา (เช่น วัยเด็ก วัยรุ่น) มากกว่าที่จะบำบัดรักษาระยะสั้น”

“เขาเห็นด้วยว่าแผนการบำบัดรักษาระยะยาวที่กินเวลานานกว่า 10 ปี เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำเพื่อผลการรักษาในเชิงบวก และเนื่องจากศูนย์บำบัดรักษาต้องการทุนเพื่อการนี้ เขาจึงตัดสินใจบริจาคเงิน 5 พันล้านวอน ซึ่งคือการบริจาคครั้งใหญ่ที่สุดที่ระบบการสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยยอนเซเคยได้รับจากบุคคลที่มีชื่อเสียง”

พัฒนาโปรแกรมดนตรีบำบัดด้วยตัวเอง

ไม่ใช่แค่บริจาคเงิน 5,000 ล้านวอนเท่านั้น แต่มินยุนกิ หรือ ชูก้า บีทีเอส ยังพูดคุยกับศาสตราจารย์ชอนถึงการพัฒนาทักษะการเข้าสังคมของเด็กและเยาวชนกลุ่ม ASD โดยใช้ดนตรีเป็นหลัก ตลอดจนหลอมรวมดนตรีเข้าสู่โครงการพัฒนาทักษะทางสังคมของเด็กกลุ่มนี้ จนก่อกำเนิดเป็นโครงการ MIND ที่เป็นตัวย่อของคำว่า Music, Interaction, Network, Diverity ขึ้นมา

โดยระหว่างเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน ปี 2568 นี้ ชูก้า ซึ่งรับราชการเป็นทหารหน่วยบริการสาธารณะและเพิ่งปลดประจำการเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ใช้วันหยุดส่วนตัวของเขามาพบปะกับเด็ก ๆ ASD โดยตรง และช่วยพัฒนาโปรแกรม MIND นี้ขึ้นมา โดยเขาเล่นกีตาร์ และเครื่องดนตรีอื่น ๆ เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ จับจังหวะ ประสานเสียง และมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาผ่านดนตรี ตลอดจนช่วยให้เด็ก ๆ เหล่านี้แสดงความรู้สึกทางอารมณ์ออกมาได้มากขึ้น นอกจากนี้เขายังสอนเด็ก ๆ เล่นเครื่องดนตรีด้วยตัวเองอีกด้วย

ขณะที่ทางชูก้าเองได้กล่าวว่า

“ระหว่างที่จัดเตรียมโครงการนี้กับศาสตราจารย์ชินกึนอา และอาสาสมัครมาทำงานที่นี้ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ผมรู้สึกอย่างลึกซึ้งว่าดนตรีสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของเราออกมาได้อย่างไร และมันเป็นช่องทางอันล้ำค่าในการถ่ายทอดความคิดและการสื่อสารของเราออกมา เฉพาะแค่การที่ผมได้อยู่กับเด็ก ๆ ที่เป็น ASD ในเส้นทางการบำบัดรักษาของพวกเขาเพียงอย่างเดียว มันก็เติมเต็มผมด้วยความสุขและความรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก ผมจะมอบความสนับสนุนของผมต่อไปเพื่อที่ว่าเด็ก ๆ ที่มีภาวะ ASD จะได้กลายมาเป็นสมาชิกในสังคมของเรากันมากขึ้น”

ปิดท้ายด้วยศาสตราจารย์ชอนที่กล่าวว่าเขาประทับใจกับความจริงใจอย่างถึงที่สุดของชูก้าที่แสดงออกมาผ่านความช่วยเหลืออย่างชาญฉลาดและจริงจัง โดย “ศูนย์บำบัดรักษามินยุนกิ” และโครงการ MIND มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็ก ASD ผ่านสื่อดนตรี ให้พวกเขาเติบโตกลายมาเป็นคนที่สามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตนเอง และเป็นสมาชิกที่มีสุขภาพที่ดีของสังคม ตลอดจนช่วยกำจัดอคติที่มีต่อคนไข้กลุ่ม ASD และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับพวกเขามากขึ้น