ย้อนรอยความปัง ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ บนเวที Miss Universe 2023

แอนโทเนีย โพซิ้ว สร้างความยินดีและภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศเมื่อเธอสามารถคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 Miss Universe 2023 มาครอง และยังเป็นการสร้างประวัติศาสตร์นางงามไทย ที่สามารถเข้ารอบ 3 คนสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปี นับตั้งแต่ปี 1988 เป็นต้นมา

แอนโทเนีย โพซิ้ว (Anntonia Porsild) เป็นลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก วัย 27 ปี จบการระดับมัธยมจากโรงเรียนนานาชาติโฮจิมินห์ซิตี ประเทศเวียดนาม จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหลักสูตรนานาชาติ สาขาวิชาการตลาดและประชาสัมพันธ์ จากมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด

ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการนางงามแบบเต็มตัว แอนโทเนีย เจ้าของส่วนสูง 174 เซนติเมตร เริ่มต้นด้วยการเข้าแข่งขันรายการ The Face Thailand ซีซัน 1 ในปี 2014 โดยเป็นลูกทีมของ พลอย เฌอมาลย์ และสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบ 10 คนสุดท้ายของรายการ

เป็นเจ้าของมงกุฎนางงามระดับโลกมาแล้ว

เส้นทางนางงามของแอนโทเนียเริ่มด้วยการเข้าประกวดมิสซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ 2019 และสามารถคว้ามงกุฎไปครองได้สำเร็จ จึงได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสซูปราเนชันแนล 2019 (Miss Supranational 2019) และสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาครองได้อีกเช่นกัน จนสามารถสร้างประวัติศาสตร์ "คนไทยคนแรกที่คว้ามงกุฎนางงามระดับโลกอย่าง  Miss Supranational มาครอง"

ปี 2023 แอนโทเนีย โพซิ้ว ขยับเข้ามาสู่เวทีใหญ่ขึ้นไปอีกด้วยการเป็นตัวแทนจังหวัดนครราชสีมาเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 และสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาครองจนได้เป็นตัวแทนสาวไทยเข้าประกวดบนเวทีระดับโลกอย่าง มิสยูนิเวิร์ส 2023 ที่ประเทศเอลซัลวาดอร์

แอนโทเนียถือเป็นตัวแทนนางงามจากประเทศไทยที่สมบูรณ์แบบ มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ความสวยสง่ามั่นใจ การพรีเซนต์ตัวเองบนเวทีได้อย่างโดดเด่นทุกรอบการประกวด ไม่ว่าจะเป็นชุดว่ายน้ำ ชุดราตรี ชุดประจำชาติ ไปจนถึงความสามารถอย่างการพูดได้หลายภาษา และการตอบคำถามที่แสดงถึงวิสัยทัศน์

เรามาย้อนรอยเส้นทางความปังบนเวที Miss Universe 2023 ของ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ ที่เปล่งประกายเจิดจรัสตลอดทุกช่วงเวลาของการแข่งขัน

ความสามารถรอบด้าน พูดได้หลายภาษา

ระหว่างที่เดินทางไปเก็บตัวเพื่อเข้าประกวด Miss Universe 2023 แอนโทเนียสามารถสร้างกระแสให้เกิดขึ้นได้ตลอด จนกลายเป็นตัวเต็งว่าเป็นหนึ่งในนางงามที่มีสิทธิ์ ‘คว้ามง’ มิสยูนิเวิร์สมาครอง เช่น การซุ่มเรียนภาษาสเปนซึ่งเป็นภาษาทางการของประเทศเจ้าภาพ จนสามารถพูดแนะนำตัวเป็นภาษาสเปนซึ่งกลายเป็นคลิปไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์

“โอลา อูนิเวสโซ โอลา เอลซัลวาดอร์ โซย แอนโตเนีย โพซิ้ว โกน มูชโช ออกูลโย เรเพเซนตันโด ไตแลนเดีย - สวัสดีจักรวาล สวัสดีเอลซัลวาดอร์ ฉัน ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ มีความภาคภูมิใจมาก ที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยค่ะ”

ส่วนบนเวทีประกวดรอบสุดท้ายที่เพิ่งผ่านสายตาผู้ชมไป แอนโทเนียใช้ภาษาอังกฤษตอบคำถามได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถถ่ายทอดความคิด และทัศนคติของเธอออกมาได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์โดยไม่ต้องอาศัยล่ามแต่อย่างใด

แอนโทเนีย โพซิ้ว ได้เคยพูดถึงความสำคัญของภาษาเอาไว้ว่า หากมีพลังวิเศษ เธอปรารถนาที่จะพูดทุกภาษาบนโลกใบนี้ได้ "เพราะภาษาคือประตูสู่ความเข้าใจ และมีอิทธิพลต่อระดับอารมณ์มากยิ่งกว่า"

ทัศนคติอันยอดเยี่ยม ฉลาดตอบทุกคำถาม

ในรอบ 5 คนสุดท้าย แอนโทเนียเจอคำถามที่ว่า “ถ้าคุณมีโอกาสได้พูดกับเด็กนักเรียนที่มีอยู่เต็มห้องเรื่องการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ คุณจะพูดว่าอย่างไร” ซึ่งคำตอบของเธอมีอยู่ว่า

“ฉันจะบอกว่าอย่าไปฟังสิ่งที่คนอื่นพูด สิ่งสำคัญคือเราตอบรับกับสิ่งเหล่านั้น (การบูลลี่) อย่างไรต่างหาก ใช้เสียงของเรายืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น ทำในสิ่งที่เราอยากเห็นบนโลกใบนี้ด้วยการลงมือทำเป็นตัวอย่าง อย่าไปฟังคำเกลียดชังเพราะมันไม่ได้กำหนดตัวตนของเรา สิ่งที่กำหนดตัวตนของเราคือการที่เราได้ลุกขึ้นหยัดยืน แล้วก้าวออกมาจากสิ่งนั้น”

พอมาถึงรอบ 3 คนสุดท้ายที่นางงามทุกคนได้รับคำถามเดียวกันว่า “ถ้าสามารถใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงอีกคนได้เป็นเวลาหนึ่งปี เธอจะเลือกใคร” ซึ่งแอนโทเนียเลือก ‘มาลาลา ยูซาฟไฟ’ (Malala Yousafzai) หญิงชาวปากีสถานที่เคยตกเป็นเหยื่อของกลุ่มตาลีบันแล้วหันมาต่อสู้เพื่อการศึกษาและสิทธิสตรี จนได้เป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก

“ฉันเลือก มาลาลา ยูซาฟไฟ เพราะฉันรู้ดีว่าเธอต้องยากลำบากมากแค่ไหนกว่าที่จะได้มายืนในจุดที่อยู่ทุกวันนี้ เธอต้องต่อสู้เพื่อการศึกษาของผู้หญิง ต่อสู้ให้ผู้หญิงทุกคนสามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง ตลอดจนสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยการทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง ถ้าฉันเลือกได้ ฉันก็อยากจะเป็นเธอค่ะ”

ก่อตั้งโครงการเพื่อสังคมและผู้ด้อยโอกาส

หลังจากได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด Miss Universe 2023 ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ ได้ประกาศเป้าหมายในการเข้าประกวดของตนเองเอาไว้ว่า เธอต้องการเป็นผู้นำในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทั่วโลก ให้สามารถทำตามความฝัน ยืนหยัดเพื่อตนเอง และตอบแทนสังคม

แอนโทเนียต้องการให้การประกวด Miss Universe เป็นเวทีที่ทำให้ผู้คนเล็งเห็นถึงความสำคัญของ Women economic empowerment หรือ การตระหนักถึงพลังและศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ผู้หญิงมี

ไม่ใช่แค่พูดให้ฟังดูสวยหรูเท่านั้น แต่แอนโทเนียได้ลงมือทำให้เห็นเป็นแบบอย่างผ่านโครงการการกุศลภายใต้แคมเปญที่ชื่อ The Little Steps Project ซึ่งมีการแบ่งรายได้ 1 ดอลลาร์ ทุกการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท Omorfia Beauty ที่เธอเป็นซีอีโอ ไปสมทบทุนโครงการเพื่อการกุศลในประเทศไทย