'ครูไพบูลย์' แพ้ 2 ศาลแล้ว พรากผู้เยาว์-คืนลูก 'เอ๋ มิรา' อดีตภรรยา

อัปเดตคดีดังฮอตโซเชียล 'ครูไพบูลย์' สามีนักร้องดัง กระต่าย พรรณิภา แพ้ 2 ศาลแล้ว พรากผู้เยาว์-คืนลูก 'เอ๋ มิรา' อดีตภรรยา

ทนายความ “เอ๋ มิรา” เผยหลังชนะคดีพรากผู้เยาว์ ยื่นฟ้อง “ครูไพบูลย์” อดีตสามี โดยศาลสั่งจำคุก 8 ปี ไม่รอลงอาญา ซึ่งนายวิษรุษ มณีรัตน์ หรือ ทนายเก่ง ทนายความของ “เอ๋ มิรา” หรือ น.ส.มิรา ชลวิรัลวานิศร์ อดีตภรรยา นายไพบูลย์ แสงเดือน ซึ่งปัจจุบันครูไพบูลย์เป็นสามีของนักร้องดัง "กระต่าย พรรณนิภา" ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู พิพากษาจำคุกครูไพบูลย์ 8 ปี จำคุกโดยไม่รอลงอาญา 

ทนายเก่งเผยในคดีที่ เอ๋ มิรา ฟ้องครูไพบูลย์ อดีตสามี ในความผิดข้อหาพรากผู้เยาว์ คดีนี่ที่ศาลพิพากษาตัดสินออกมาแบบนี้ เนื่องจากครูไพบูลย์ ได้ต่อสู้คดี ไม่ได้รับสารภาพและให้การที่เป็นประโยชน์ในชั้นศาล 

 

 

เอ๋ มิรา

และหลังจากที่เอ๋ มิรา ทราบผลคำพิพากษา ก็รู้สึกโล่งใจและดีใจเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้มีความเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะกังวลเกี่ยวกับเรื่องคดีตั้งแต่เกิดเรื่องมาจนถึงปัจจุบัน เพราะปกติ เอ๋ จะมาหาตนเองที่บ้านสัปดาห์ละ 2-3 วัน แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาเอ๋ เก็บตัวเงียบไม่ได้มาหาตนเองที่บ้านเหมือนทุกครั้ง แต่ตอนนี้ความเครียดทุกอย่างจบลงแล้ว และตัวน้องเองก็พอใจกับผลคำตัดสิน
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

นายวิษรุษ มณีรัตน์ หรือ ทนายเก่ง กล่าวว่า ส่วนทางครูไพบูลย์จะมีการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์นั้น ยืนยันพยานหลักฐานที่มีในศาลชั้นต้นนั้นมีพร้อมแล้ว และมั่นใจในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้นถูกต้องด้วยกฎหมาย และสำหรับคดีระหว่าง เอ๋ มิรากับครูไพบูลย์นั้น

ครูไพบูลย์

ขณะนี้เหลืออยู่เพียงคดีเดียว คือคดีที่ครูไพบูลย์ฟ้องเอ๋ มิรา ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการที่น้องเอ๋ ไปออกรายการโหนกระแส ขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการสืบพยานฝ่ายจำเลย 

ส่วนเรื่องบุตร คือน้องสายแนน ที่เกิดระหว่างเอ๋ มิรา และครูไพบูลย์นั้น เมื่อสามปีที่แล้วหลังจากที่ทั้งคู่หย่ากันบุตร อยู่ในการดูแลของครูไพบูลย์ แต่หลังจากที่ทนายเก่ง ได้เข้ามาดูแลคดีจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดเลย และมีคำพิพากษา ให้น้องสายแนน กลับมาอยู่ในการดูแลของเอ๋ มิรา แล้ว

'ครูไพบูลย์' แพ้ 2 ศาลแล้ว พรากผู้เยาว์-คืนลูก 'เอ๋ มิรา' อดีตภรรยา

ทนายเก่ง กล่าวอีกว่า คดีนี้ถือเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเพราะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กและเยาวชน ที่เปรียบเสมือนแก้วที่ครอบเด็กเยาวชนอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่คิดไม่ดีไปกระทำชำเรากับเด็กและเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และบทลงโทษก็สูงมาก แต่ที่ผ่านมาสังคมไม่ได้ตีแผ่เรื่องนี้มากนัก

จึงทำให้ประชาชนคิดว่าทำได้ และเมื่อศาลพิพากษาออกมาในลักษณะนี้ก็จะทำให้คนไม่กล้าไปยุ่งหรือกระทำความผิดเกี่ยวกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี