ริบบิ้น ดอกไม้ กลิ่นอายย้อนยุค และสีเงินวิบวับ เทรนด์สนีกเกอร์แห่งปี 2024

ริบบิ้น ดอกไม้ กลิ่นอายย้อนยุค และสีเงินวิบวับ เทรนด์สนีกเกอร์แห่งปี 2024

แม้ว่าที่ผ่านมาเทรนด์ของ “สนีกเกอร์” จะเน้นไปในแนวสตรีททำให้ Adidas Samba และ Onitsuka Tiger Mexico 66 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ล่าสุดเทรนด์ปี 2024 กลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากอิทธิพลของสไตล์ Coquette สีเมทัลลิค และกลิ่นอายย้อนยุค

KEY

POINTS

  • ในปี 2022-2023 ที่ผ่านมา “สนีกเกอร์” สไตล์สตรีท ได้รับความนิยมในแวดวงแฟชั่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Adidas Samba และ Onitsuka Tiger Mexico 66 ที่ขายหมดไปหลายครั้ง
  • เทรนด์ของสนีกเกอร์ในปี 2024 เน้นไปที่แฟชั่นแนว “Coquette” ที่หลายแบรนด์ให้ความสนใจ เช่น “ASICS” ที่ออกแบบรองเท้าร่วมกับ SHUSHU/TONG แบรนด์เสื้อผ้าจากจีน
  • สไตล์อื่นๆ ที่กำลังได้รับความนิยมสำหรับแวดวงสนีกเกอร์ ได้แก่ สีเงินแนวเมทัลลิค รองเท้าที่มีขนาดใหญ่ และแฟชั่นย้อนยุค ที่ทั้งแบรนด์หรูและสตรีทแบรนด์กำลังให้ความสนใจ

แม้ว่าที่ผ่านมาเทรนด์ของ “สนีกเกอร์” จะเน้นไปในแนวสตรีททำให้ Adidas Samba และ Onitsuka Tiger Mexico 66 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ล่าสุดเทรนด์ปี 2024 กลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากอิทธิพลของสไตล์ Coquette สีเมทัลลิค และกลิ่นอายย้อนยุค

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา (2022-2023) รองเท้าสนีกเกอร์สไตล์สตรีทอย่าง Adidas Samba และ Onitsuka Tiger Mexico 66 ได้รับความนิยมไปทั่วโลกทั้งในผู้นิยมชมชอบรองเท้าสนีกเกอร์และผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นจนทำให้กลายเป็นรองเท้าที่ขายดีจนหมดเกลี้ยง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแฟชั่นไอคอน “Jannie BLACKPINK” ก็สวมใส่ด้วยเช่นกัน แต่สำหรับปี 2024 นี้ เทรนด์ดังกล่าวอาจมีความเปลี่ยนแปลงไป หลังแฟชั่นสไตล์ “Girlhood” และ “Coquette” มาแรงแซงโค้งโดยเฉพาะ “ริบบิ้น” ที่ได้รับความนิยมไปทั่วบ้านทั่วเมือง และกลายเป็นกิมมิคสำคัญของแฟชั่น ตั้งแต่ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ทรงผม กระเป๋า และแน่นอนว่า “รองเท้า” ก็เป็นหนึ่งในนั้น

อ่านข่าว : 

‘Adidas’ รุ่น Gazelle-Samba ขายหมดทั่วโลก หลัง ‘Jennie BLACKPINK’ ใส่ออกสื่อ

‘Coquette’ แฟชั่นมาแรงปี 2567 ผูกโบเพิ่มความสดใส เพิ่มสไตล์การแต่งตัว

แม้ว่าจนถึงปีนี้ (2024) สนีกเกอร์แบบดั้งเดิมจะยังได้รับความนิยมอยู่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเทรนด์กำลังเปลี่ยนแปลงไปด้วยการเข้ามามีอิทธิพลของ “Coquette” และไม่ใช่แค่นั้นแต่รองเท้าแนวย้อนยุค, สีแนวเมทัลลิค และรองเท้าขนาดใหญ่ กำลังเป็นเทรนด์แฟชั่นของปีนี้ กรุงเทพธุรกิจจะพาไปอัปเดตเทรนด์ “สนีกเกอร์” ที่กำลังจะกลายเป็น “ของมันต้องมี” ในปีนี้

ริบบิ้น ลูกไม้ ลูกปัด และดอกไม้ สไตล์สนีกเกอร์ 2024

“Girlhood” เป็นหนึ่งในสไตล์ที่เริ่มมาแรงตั้งแต่ปี 2023 ที่เน้นการออกแบบให้มีความเป็นผู้หญิงที่มีความน่ารักสดใส เน้นการใส่ลูกเล่นที่น้อยแต่มาก เช่น ริบบิ้น ลูกไม้ ลูกปัด และดอกไม้ เป็นต้น โดยการร่วมงานของรองเท้าผ้าใบที่กำลังเริ่มได้รับความนิยมในแวดวงสนีกเกอร์ “ASICS” และแบรนด์เสื้อผ้าจากเซี่ยงไฮ้ “SHUSHU/TONG” ที่โดดเด่นด้วยสไตล์ “Coquette” ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดย Liushu Lei และ Yutong Jiang เป็นแบรนด์ที่นำเสนอลักษณะของผู้หญิงสมัยใหม่ที่กล้าแสดงออกด้วยรายละเอียดที่แสดงออกถึงความอ่อนหวานแบบผู้หญิงอย่างเต็มที่ ดังนั้นเมื่อมาร่วมมือกับสนีกเกอร์สไตล์สปอต ASICS จึงทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะหลายคนก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสไตล์ที่แตกต่างกันจะสามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว

โดยรองเท้าผ้าใบ SHUSHU/TONG x ASICS GEL-MJ Collaboration เปิดตัวเมื่อปลายปี 2022 มีด้วยกัน 2 สี คือสีดำและสีขาว มีจุดเด่นอยู่ที่โบขนาดใหญ่ด้านหน้า ก่อนจะมีอีกหลายแบบตามมา เช่น รองเท้าที่มีระบายอยู่ด้านหน้า หรือรองเท้าที่เป็นลายตารางสีฟ้าพาสเทล และที่สำคัญยังมีการออกแบบร่วมกับแบรนด์หรูสัญชาติเดนมาร์ก “Cecilie Bahnsen” ในรุ่น CECILIE BAHNSEN x ASICS GT-2160 PINKTRAINERS ที่เน้นใช้สีสันสดใสและมีลวดลายดอกไม้เล็กๆ เพื่อเพิ่มความน่ารัก ปัจจุบันมีราคาขายหน้าเว็บไซต์อยู่ที่ 220 ยูโร หรือประมาณ 8,486 บาท

ริบบิ้น ดอกไม้ กลิ่นอายย้อนยุค และสีเงินวิบวับ เทรนด์สนีกเกอร์แห่งปี 2024 SHUSHU/TONG x ASICS GEL-MJ Collaboration (NICE)

“สีเมทัลลิค” เทรนด์มาแรงเน้นความหรูหรา

อีกหนึ่งเทรนด์แฟชั่นที่ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องนานข้ามปีก็คือ “สีเมทัลลิค” ที่เน้นความแวววาวของโลหะสีเงิน ที่แม้แต่แบรนด์หรูเองยังต้องผลิตรองเท้าสนีกเกอร์ตามเทรนด์นี้ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Golden Goose และ Chloé

เริ่มกันที่ “Gucci MAC80 Embroidered” ที่แม้จะเน้นความเรียบง่ายแต่ก็ไม่ลืมที่จะใช้สีเงินเป็นสีหลักในการออกแบบประกอบกับโลโก้ GG ของแบรนด์ก็ทำให้คงความหรูหราของแบรนด์เอาไว้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้มีราคาขายในเว็บไซต์ NET A PORTER อยู่ที่ 990 ดอลลาร์ หรือประมาณ 35,560 บาท

ริบบิ้น ดอกไม้ กลิ่นอายย้อนยุค และสีเงินวิบวับ เทรนด์สนีกเกอร์แห่งปี 2024 Gucci MAC80 Embroidered (NET A PORTER)

ตามมาด้วย “Chloé Nama Embroidered” รองเท้าผ้าใบที่สร้างขึ้นจากการผสมผสานกันระหว่างหนังแบบเรียบๆ และตาข่ายรีไซเคิล เย็บด้วยมือทั้งหมดพร้อมกับประทับตราโลโก้แบรนด์ มีจุดเด่นด้วยการปักด้ายหลากสีลงบนรองเท้าที่มีพื้นหนาแต่น้ำหนักเบา แม้ว่ารองเท้ารุ่นนี้จะมีหลายสี แต่สีที่ขาดไปไม่ได้ก็คือสีเงิน ปัจจุบันมีราคาขายอยู่ที่ 795 ดอลลาร์ หรือประมาณ 28,560 บาท

ริบบิ้น ดอกไม้ กลิ่นอายย้อนยุค และสีเงินวิบวับ เทรนด์สนีกเกอร์แห่งปี 2024 Chloé Nama Embroidered (NET A PORTER)

ต่อด้วย “Golden Goose Superstar Metallic Distressed” ผลิตในอิตาลีโดยใช้ทั้งหนังและหนังกลับ เย็บด้วยมืออย่างพิถีพิถันโดยช่างฝีมือของแบรนด์ มีความโดดเด่นอยู่ที่เชือกผูกรองเท้าแบบทอโลโก้และรูปดาวสีเงิน ปัจจุบันมีราคาขายอยู่ที่ 560 ดอลลาร์ หรือประมาณ 20,104 บาท

ริบบิ้น ดอกไม้ กลิ่นอายย้อนยุค และสีเงินวิบวับ เทรนด์สนีกเกอร์แห่งปี 2024 Golden Goose Superstar Metallic Distressed (NET A PORTER)

รองเท้าขนาดใหญ่และสไตล์ย้อนยุค ที่แบรนด์หรูและสตรีทแบรนด์ให้ความสนใจ

อีกหนึ่งเทรนด์ของสนีกเกอร์ที่คาดว่าจะได้รับความสนใจในปี 2024 ก็คือรองเท้าผ้าใบที่มีขนาดใหญ่หรือหนาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะความพยายามบุกเบิกรองเท้าลักษณะนี้ของ เดมนา กวาซาเลีย (Demna Gvasalia) ดีไซเนอร์จาก Balenciaga และได้รับผลการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ ดิเอโก อับบา (Diego Abba) ซีอีโอของ Italist ผู้ค้าปลีกออนไลน์สุดหรูยังกล่าวว่า “ในความเป็นจริง Balenciaga กำลังทำให้เทรนด์นี้ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยการนำเสนอรองเท้าที่ดูใหญ่เทอะทะมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละฤดูกาล รวมถึงในคอลเลกชันล่าสุดของปี 2024 ด้วยรองเท้ารุ่น 3XL”

แน่นอนว่าจุดเด่นของ Balenciaga 3XL ก็คือรองเท้าที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะพื้นรองเท้าที่มองเห็นความบวมได้อย่างชัดเจน แต่ทางแบรนด์ก็ยังเพิ่มลูกเล่นอื่นๆ เข้าไปอีกเพื่อให้รองเท้าคู่นี้ดูมีอะไรมากขึ้น เช่น การพิมพ์ลายนูนที่ส่วนบนและด้านหลังของส้นรองเท้า โลโก้ Balenciaga และลิ้นรองเท้าแบบสะท้อนแสง เป็นต้น โดยราคาของรองเท้าคู่นี้อยู่ที่ 950 ยูโร หรือประมาณ 36,916 บาท

ริบบิ้น ดอกไม้ กลิ่นอายย้อนยุค และสีเงินวิบวับ เทรนด์สนีกเกอร์แห่งปี 2024 Balenciaga 3XL (Balenciaga)

ไม่ใช่แค่นั้นแต่ยังมีรองเท้าผ้าใบที่ดูใหญ่ได้มากกว่า Balenciaga อีก นั่นก็คือ Eytys Halo Suede ที่เน้นการบุนวมบริเวณลิ้นรองเท้าและส่วนส้นเท้าที่เป็นแบบหุ้มข้อ มีส้นรองเท้าทำจากยางที่สูงถึง 3 นิ้ว ส่วนด้านบน (Upper) ทำจากหนังกลับและผ้าตาข่ายไนลอน มีราคาอยู่ที่ 214 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,670 บาท

ริบบิ้น ดอกไม้ กลิ่นอายย้อนยุค และสีเงินวิบวับ เทรนด์สนีกเกอร์แห่งปี 2024 Eytys Halo Suede (Eytys)

อีกหนึ่งเทรนด์ที่พลาดไม่ได้สำหรับ “สนีกเกอร์” ในปี 2024 นี้ก็คือ สไตล์ย้อนยุค หลังแฟชั่นแนว Y2K กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ทำให้แบรนด์ต่างๆ พากันนำเทรนด์นี้มาเป็นแกนหลักในการออกแบบรองเท้า ไม่ว่าจะเป็นการนำโมเดลรุ่นเก่ามาดัดแปลง หรือออกแบบขึ้นมาใหม่ แต่ที่สำคัญต้องทำให้พวกมันสามารถสวมใส่ในยุคปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม

โดยรองเท้าที่หลายคนมองว่าค่อนข้างตอบโจทย์คำว่า “ย้อนยุค” ก็คือ “New Balance” รองเท้ากีฬาที่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เริ่มได้รับความนิยมในฐานะ “สนีกเกอร์” แม้ว่าก่อนหน้านี้จะถูกมองว่าเป็นรองเท้าของผู้สูงอายุ

อ่านข่าว : 

'Dad Sneakers' สุดฮิต! จากรองเท้าแสนเชยรุ่นพ่อ สู่รองเท้าสุดคูลในรุ่นลูก

นอกจากนี้บรรดาแบรนด์หรูเองก็ทยอยทำรองเท้าผ้าใบสไตล์ย้อนยุคออกมาวางขาย ไม่ว่าจะเป็น Dries Van Noten, Bottega Veneta, Ferragamo, Miu Miu, Loewe และ MM6 เป็นต้น

ท้ายที่สุดนี้เรียกได้ว่าน่าจับตามองเป็นอย่างมากเลยทีเดียวสำหรับเทรนด์ของ “สนีกเกอร์” ในปี 2024 นี้ เพราะนอกจากจะมีรูปแบบที่หลากหลายแล้ว การแข่งขันกันในแต่ละแบรนด์ไม่ว่าจะเป็นสตรีทแบรนด์หรือแบรนด์หรูก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในโลกแฟชั่นและแวดวงสนีกเกอร์ ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะมีสไตล์ใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงเทรนด์เหล่านี้ก็เป็นได้

อ้างอิงข้อมูล : Harpers Bazaar