หรูแบบไม่ตะโกน 'Old Money Style' เทรนด์แฟชั่นที่พร้อมจะตี Y2K แตกเป็นเสี่ยงๆ

‘Old Money Style’ เทรนด์แฟชั่นที่พร้อมจะตี Y2K ให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

อัปเดตเทรนด์แฟชั่น "Old Money Style" ที่กำลังมาแรง และเป็นร่มใหญ่ของสไตล์ Quiet Luxury ให้ลุคหรูแบบไม่ตะโกน ที่กำลังถูกจับจ้องว่าพร้อมจะแซง Y2K ให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

เทรนด์แฟชั่นที่กำลังถูกพูดถึงอย่าง Quiet Luxury ในทำนอง "หรูแบบไม่ตะโกน" นั้น ที่จริงแล้ว สไตล์ดังกล่าวอยู่ใต้ร่มใหญ่อย่าง "Old Money Style" ที่จะออกแนวลุคคุณหนูคุณใจ อารมณ์แบบไปล่องเรือยอชต์ เล่นโปโล ขี่ม้า ตีกอล์ฟในวันหยุด ซึ่งกำลังมาแรงในโลกแฟชั่นตอนนี้

หรือลองนึกถึงสไตล์ของแฟชั่นนิสต้าอมตะทั้งหลายเช่น ครอบครัวเคนเนดี (Kennedy), ครอบครัวแวนเดอร์บิลต์ (Vanderbilt) และ เจ้าหญิงไดอานาแห่งราชวงศ์อังกฤษ 

หรูแบบไม่ตะโกน \'Old Money Style\' เทรนด์แฟชั่นที่พร้อมจะตี Y2K แตกเป็นเสี่ยงๆ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ -

Oxford Dictionary ให้ความหมาย "Old Money" ว่าคือ "ความมั่งคั่งที่สืบทอดต่อๆ กันมาหลายเจเนอเรชัน" ถ้าเป็นภาษาไทยก็ง่ายๆ เลย คือ กลุ่มคนที่ "คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด" หรือจะพูดว่า นอนบนกองเงินกองทองก็ได้ไม่ผิดอะไร  ซึ่งถ้าเป็น "เศรษฐีใหม่" เราก็จะเรียกว่า “New Money” 

แกนหลักของสไตล์ Old Money ที่กำลังได้รับความนิยมนั้น จะออกแนวผู้ดีเก่ามินิมอล เน้นคุณภาพสูงเรียบง่ายแต่คลาสสิก ทั้งด้วยการใช้วัสดุและกระบวนการตัดเย็บ รวมถึงการใช้ซิลูเอทเพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับชิ้นส่วนต่างๆ อย่างลงตัว ซึ่งสไตล์นี้เราจะไม่ได้เห็นความเว่อร์วังของโลโก้ แต่เน้นความเรียบหรูในระดับสูงสุด    

หรูแบบไม่ตะโกน \'Old Money Style\' เทรนด์แฟชั่นที่พร้อมจะตี Y2K แตกเป็นเสี่ยงๆ กลุ่มคนที่มาจาก Old Money มักมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบคนมั่งคั่ง ด้วยเหตุผลที่พวกเขารวยตั้งแต่เกิด จึงไม่จำเป็นต้องทำงาน และชีวิตก็เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย

หรูแบบไม่ตะโกน \'Old Money Style\' เทรนด์แฟชั่นที่พร้อมจะตี Y2K แตกเป็นเสี่ยงๆ

ส่วนงานอดิเรกของเหล่าคุณหนูคุณใจ ก็จะมีทั้ง  การเล่นเทนนิส ชมการแสดงบัลเลต์ ขี่ม้า และล่องเรือ ซึ่งในอดีตนั้นกิจกรรมเหล่านี้มักเป็นเรื่องยากที่คนทั่วไปจะเข้าร่วมได้ แต่ในปัจจุบัน ใครๆ ก็เข้าถึงกิจกรรมเหล่านี้ได้ รวมถึงการแต่งตัวเพื่อให้เกิดสไตล์แบบ Old Money Aesthetic ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าใจและแต่งตามได้

เอกลักษณ์ของสไตล์นี้ไม่ซับซ้อน แต่เน้นไปที่ความเรียบหรูอย่างสมบูรณ์ โดยสามารถเน้นใช้โทนสีที่เรียบง่ายเพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์ เช่น น้ำตาล ครีม น้ำเงินกรมท่า ขาว เทา หรือดำ ซึ่งจะเพิ่มความเป็นคลาสสิกและความหรูหราให้กับสไตล์นี้อย่างมาก

หรูแบบไม่ตะโกน \'Old Money Style\' เทรนด์แฟชั่นที่พร้อมจะตี Y2K แตกเป็นเสี่ยงๆ

ในประเทศไทย เราสามารถปรับแต่งสไตล์ Old Money ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศได้ ผู้ชายสามารถสวมกางเกงชิโนขายาวแมตช์กับเสื้อเชื้อทับด้วยเบลเซอร์อีกชั้น

ส่วนผู้หญิงสามารถเลือกสวมเดรสที่มีเนื้อผ้าระบายอากาศเพื่อให้รู้สึกสดชื่นและสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ เรายังสามารถเพิ่มเติมสไตล์ด้วยครื่องประดับที่เหมาะสม เช่น กระเป๋าถือที่ทำจากหนัง และต่างหูมุกหรือเพชรเม็ดเล็ก จะช่วยเพิ่มเสน่ห์และเป็นไอเท็มที่น่าสนใจในสไตล์ Old Money อีกด้วย

หรูแบบไม่ตะโกน \'Old Money Style\' เทรนด์แฟชั่นที่พร้อมจะตี Y2K แตกเป็นเสี่ยงๆ

สำหรับไอเท็มหลักของ ‘Old Money Look’ ได้แก่ ผ้าลินิน เสื้อโปโล สเวตเตอร์ กระโปรงเทนนิส รองเท้าโลเฟอร์ รองเท้าส้นเตี้ย หรือ Ballet Flats และแบรนด์จากดีไซเนอร์ที่ “หรูหราแต่เงียบสงบ” หรือ quiet luxury นั่นเอง 

ถ้ามองไปที่แบรนด์ขาประจำที่ผู้ดีเศรษฐีเก่าใช้กันมาอย่างยาวนานมากได้แก่ Hermès ที่สะท้อนความคลาสสิค Ralph Laurent แบรนด์อันดับหนึ่งในใจของเหล่าผู้ดียุคก่อน หรือแม้กระทั่ง Louis Vuitton และ Chanel

หรูแบบไม่ตะโกน \'Old Money Style\' เทรนด์แฟชั่นที่พร้อมจะตี Y2K แตกเป็นเสี่ยงๆ

ส่วนแบรนด์ quiet luxury ที่ถ้าไม่รวยจริงก็คงหาซื้อมาใส่ไม่ได้ ก็มีอาทิเช่น แบรนด์ Brunello Cucinelli, Loro Piana, The Row, Max Mara เป็นต้น

ให้นึกภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ลองนึกตามตัวอย่างซีรีส์อย่าง Gossip Girl หรือ  Succession ถ้าเป็นหนังก็ The Great Gatsby หรือ Crazy Rich Asians 

หรูแบบไม่ตะโกน \'Old Money Style\' เทรนด์แฟชั่นที่พร้อมจะตี Y2K แตกเป็นเสี่ยงๆ
แฟชั่น Old Money เน้นความเรียบง่ายและคลาสสิก ไม่ต้องการสิ่งที่ซับซ้อนหรือทันสมัยมากมาย แม้ว่าคำว่า "Old" จะนำมาใช้ในการพาดพิงถึงช่วงเวลาในอดีต แต่แฟชั่น Old Money สามารถเป็นที่นิยมอีกครั้งในปัจจุบันได้ โดยการนำความเรียบง่ายและคลาสสิกมาผสมผสานกับสไตล์ปัจจุบัน ทำให้แฟชั่นดูทันสมัยและดูเรียบหรูได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้เทรนด์ Old Money ยังได้เพิ่มมูลค่าของเสื้อผ้ามือสอง เนื่องจากเสื้อผ้าสไตล์ Old Money มักเป็นแบรนด์ชั้นนำและมีดีไซน์ที่สร้างแรงบันดาลใจจากคนร่ำรวยแบบเก่า ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนจำกัดและหาได้ยาก ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ผู้คนหันมาเลือกซื้อเสื้อผ้ามือสองมากขึ้น ทั้งนี้ยังเป็นเหตุให้วงจรแฟชั่นรวดเร็ว (fast fashion) ลดลงด้วย